Imagine vacationing in a place of s

Imagine vacationing in a place of stunning, natural beauty. Picture yourself relaxing on a pristine beach in Belize, exploring the desert on a camel in Dubai,or following lions and zebras in Kenya. Now imagine that environment, protact wildlife, and support local communities. Sound too good to be true? It isn't! Such vacations are part of the fastest growing trend in the travel industry. The trend is called ecotourism.

While ecotourism was almost unheard of before the 1990s, it has quickly become a multi-billion dollar industry. But what exactly is ecotourism? These are some of its characteristics:

-It involves travel to natural, often remote,destinations. These are often protected areas where development is limited.
-Ecotourism destinations focus on recycling, water conservation, and using renewable energy sources.
-It buids environmental awareness. As visitors explore an area, thay also learn about it.
- It provides aneconomic incentive to preserve the environment and raises money to help protect it.
-It creates financial opportunities and jobs for the local population.

Costa Rice was one of the fist ecotourism success stories. At one time, Costa Rice had the highest rate of deforestation in all of Latin America. Howwever, since ecotourism, there has been a dramatic reduction in deforestation. Now,more than a quarter of Costa Rica's land is protected fromdevelopment. Costa Rice is now the world's top ecotourism destination. Amazingly,this small country of four million people has about 1.5 million vistors per year.

Stacy Davison is one of the million-plus tourists who chose to visit Costa

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จินตนาการการพักผ่อนหย่อนใจในสถานที่ของความงามของธรรมชาติที่สวยงาม, ภาพตัวเองผ่อนคลายบนชายหาดที่เก่าแก่ในเบลีซ, สำรวจทะเลทรายอูฐในดูไบหรือต่อไปนี้และสิงโตม้าลายในประเทศเคนยา ตอนนี้คิดว่าสภาพแวดล้อมที่, protact สัตว์ป่าและการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เสียงดีเกินไปที่จะจริงหรือไม่? มันไม่ได้! วันหยุดพักผ่อนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแนวโน้มที่เรียกว่าการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ.

ในขณะที่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศก็เกือบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนปี 1990 มันได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นอุตสาหกรรมหลายพันล้านดอลลาร์ แต่สิ่งที่แน่นอนคือการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ? เหล่านี้คือบางส่วนของลักษณะของ:

มันเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปยังธรรมชาติระยะไกลมักจะสถานที่ท่องเที่ยว, เหล่านี้มักจะได้รับการคุ้มครองพื้นที่ที่การพัฒนามี จำกัด . สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
มุ่งเน้นไปที่การรีไซเคิลการอนุรักษ์น้ำและการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน.
มัน buids จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เป็นผู้เข้าชมสำรวจพื้นที่, Thay ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับมัน
-. จะให้แรงจูงใจ aneconomic เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและเพิ่มเงินที่จะช่วยปกป้องมัน
มันจะสร้างโอกาสทางการเงินและการงานให้กับประชาชนในท้องถิ่น

คอสข้าวเป็นหนึ่งใน.. กำปั้นเรื่องราวความสำเร็จของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่ครั้งหนึ่ง,คอสข้าวมีอัตราที่สูงที่สุดของการทำลายป่าในละตินอเมริกาทั้งหมด howwever ตั้งแต่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้มีการลดลงอย่างมากในการตัดไม้ทำลายป่า ตอนนี้กว่าหนึ่งในสี่ของแผ่นดินของคอสตาริกาได้รับการคุ้มครอง fromdevelopment คอสข้าวตอนนี้ก็คือหัวข้อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศชั้นนำของโลก น่าอัศจรรย์นี้ประเทศเล็ก ๆ ของสี่ล้านคนมีประมาณ 1.5 ล้านชมต่อปี.

สเตซี่เดวิสันเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวล้านบวกที่เลือกที่จะเยี่ยมชมคอสตา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลองนึกถึงจิตใจที่สวยงาม ธรรมชาติสวยงาม รูปภาพตัวเองพักผ่อนบนชายหาดเก่าแก่ในประเทศเบลีซ สำรวจทะเลทรายคาเมลในดู ไบ หรือต่อสิงโตและม้าลายในเคนยา ตอนนี้คิดว่าสภาพแวดล้อม สัตว์ป่า protact และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เสียงดีจริง ไม่ได้ วันหยุดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มเติบโตสูงสุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เรียกว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ขณะท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ยินเกือบของก่อนปี 1990 มันได้กลายเป็นอุตสาหกรรมประสบดอลลาร์อย่างรวดเร็ว แต่ว่าสิ่งที่เป็นท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เหล่านี้เป็นบางส่วนของลักษณะ:

มันเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปท่องเที่ยวตามธรรมชาติ มักจะระยะ ไกล การ เหล่านี้มักได้รับการป้องกันพื้นที่ที่พัฒนา จำกัด
-สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มุ่งเน้นการรีไซเคิล น้ำอนุรักษ์ และการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน
-มันรับรู้สิ่งแวดล้อม buids เป็นนักสำรวจพื้นที่ โยงยังเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งาน
-มันให้ aneconomic งานรักษาสิ่งแวดล้อม และระดมการป้องกันมัน
-เป็นสร้างโอกาสทางการเงินและการท้องถิ่นประชากร

ข้าวคอสตาเป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จท่องเที่ยวเชิงนิเวศกำปั้น ครั้งหนึ่ง ข้าวประเทศมีอัตราสูงสุดของการทำลายป่าในริกา Howwever ตั้งแต่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีแล้วลดการทำลายป่าอย่างมาก ตอนนี้ มากกว่าสี่แผ่นดินของสาธารณรัฐคอสตาริกาเป็น fromdevelopment ป้องกัน ตอนนี้ข้าวคอสเป็นปลายทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนโลก น่าอัศจรรย์ ประเทศเล็ก ๆ นี้ 4 ล้านคนได้หมดประมาณ 1.5 ล้านต่อปีด้วย

Stacy Davison เป็นหนึ่งของนักท่องเที่ยว million-plus ที่เลือกไปคอสตา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลองจินตนาการถึงการพักผ่อนในยามว่างในที่ที่มีความงดงามทางธรรมชาติที่งดงามจนแทบต้องตกตะลึง ภาพ ด้วยตัวคุณเองเพื่อการผ่อนคลายบนชายหาดที่อุดมสมบรูณ์ในเบลีซการสำรวจทะเลทรายในขี่อูฐในดูไบหรือต่อไปนี้จวบจนทุกวันนี้และสิงโตในประเทศเคนยา. ลองจินตนาการว่า protact สภาพแวดล้อม สัตว์ป่าและการสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่น เสียงเกินกว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่? มันไม่ใช่ การพักผ่อนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมการเดินทางแนวโน้มเชิงนิเวศน์วิทยาที่มีชื่อว่า.

ในขณะที่เชิงนิเวศน์วิทยาก็เกือบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนปี 1990 s ที่ได้กลายเป็นอุตสาหกรรมหลายพันล้านดอลลาร์สรอ.ได้อย่างรวดเร็ว แต่อะไรคือเชิงนิเวศน์วิทยา เหล่านี้เป็นลักษณะเฉพาะของพื้นที่:

บางอย่าง - มันเกี่ยวข้องกับการเดินทางเพื่อไปยังปลายทางที่อยู่ระยะไกลมักเป็นธรรมชาติ เหล่านี้จะได้รับการป้องกันพื้นที่ที่มีการพัฒนามีจำนวนจำกัด.โฟกัส
- เชิงนิเวศน์วิทยาปลายทางในการรีไซเคิลบ่อยครั้งการอนุรักษ์น้ำและการใช้พลังงานทดแทนมาใช้แหล่ง.
- มัน buids รักษาสิ่งแวดล้อม และนักท่องเที่ยวสำรวจ thay พื้นที่ที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้.
- - มันมีแรงจูงใจ aneconomic เพื่อช่วยรักษา สภาวะ สิ่งแวดล้อมที่และก่อให้เกิดเงินเพื่อช่วยปกป้องมัน.
- มันจะสร้างโอกาสทางการเงินและงานของประชาชนในท้องถิ่นที่.

Costa ข้าวเป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จกำปั้นเชิงนิเวศน์วิทยาที่ ในช่วงเวลาหนึ่งCosta ข้าวมีอัตราสูงสุดของการตัดไม้ทำลายป่า"ในละตินอเมริกาทั้งหมด howwever เชิงนิเวศน์วิทยานับตั้งแต่มีการลดลงที่งดงามในตัดไม้ทำลายป่า ในตอนนี้มากกว่าหนึ่งในสี่ของแผ่นดินของคอสตาริกาจะได้รับการป้องกัน fromdevelopment Costa ข้าวเป็นปลายทางในตอนนี้เชิงนิเวศน์วิทยาด้านบนสุดของโลก ประเทศที่มีขนาดเล็กอย่างน่ามหัศจรรย์ใจแห่งนี้ของสี่ล้านคนมีประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปีโจนบริเวณปากห้วย.

นีซึ่งดำรงตำแหน่ง davison คือหนึ่งในล้าน - รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เลือกที่จะเที่ยวชมคอส