BrazilI always look at Brazil for t

Brazil
I always look at Brazil for technology and R&D about sugar cane and related product.
In Brazil sugar cane is considered an ENERGY CROP, most profitable products are ETHANOL and ELECTRICITY from bagasse/biomass. SUGAR is often a SECONDARY PRODUCT

Sugar (risks)
Sugar is a commodity, with price now stable and production constantly increasing. A drop in price is possible. STEVIA is soon becoming a more affordable option in the food industry, and the cost of sugar can be soon benchmarked to STEVIA. Health organization worldwide are NOT promoting the consumption of sugar.

Etanol (risks)
Etanol is strictly depending on CRUDE OIL price. Ethanol in Thailand is mainly used as car fuel. With the lower price of CRUDE OIL, drivers will prefer the regular GASOHOL instead of E20 and E85. There is a real possibility of OVERSUPPLY if price of CRUDE OIL remains under $100 per barrel

Electricity co generation
It is the most profitable activity, but today limited to the availability of bagasse. MITR PHOL is already using other type of biomass to burn when the stock of bagasse is finished (rice straw).
IMPORTANT to produce electricity all year around. There will never be OVERSUPPLY of electricity in Thailand. Electricity always in demand.

Biomass harvesting
Sugar cane leaves is a readily available BIOMASS for Erawan. If sugar cane are harvested with machine, the leaves remains on the field and can be collected, baled, stored and later BURNED at the sugar mill, to produce ELECTRICITY. This technology already exist in Brazil, and is successful.
Example: 7 harvesters. Cut 140,000 ton of cane per season. Leaves on field are 10% of weight.14,000 ton of biomass ALREADY available for ERAWAN, just collecting the leaves.


Erawan profile, Erawan Supply
Erawan is a very large sugar mill, with 4 million ton of cane crushed per year, every improvement in the Co-generation of electricity can be cost effective (volumes, economy of scale). Erawan Supply has one of the LARGEST FLEET of trucks in Thailand. THESE TRUCKS CAN BE USED SUCCESFULLY FOR THE MOVEMENT OF BIOMASS , when the harvesting season is off (May to October) to provide BIOMASS for the power generating unit.
Erawan does not have experience with Etanol yet. Sales of Etanol in time of oversupply can be very difficult, since the only buyer (PTT) decide independently where to buy from. In the past some Etanol plant were shut down for lack of demand (TSI, Tamaka).

My friendly advices for Erawan:
ETANOL factory: secure the EIA approval to build the factory (do not let expire) but consider other option than PRAJ (50 million $) . A second hand Etanol factory in Brazil would cost MAX 10 million dollar, and benefit of the BOI priviledge same a as a new one. There is a real risk to shut down the future new etanol factory for lack of demand. 50 M$ investment sitting idle is painful You can start with a second hand plant and then EXPAND when the demand picks up. For now, minimum investment on Etanol, just to secure the license.
Electricity co-generation: study the possibility of running all year around. In a second step, consider to EXPAND CAPACITY. Collecting BIOMASS is critical. Technology exists, but still developing. I know for sure that MITR PHOL is going in this direction. Actual government will support any investment to use biomasses to produce electricity, and public money may be avialable.

Investor interest
In case ERAWAN wants to list in the stock market , investor will be mostly interested in the energy side of the business, more than the sugar production.
Erawan to be interesting for investors must show ability to produce Electricity and Ethanol. Ability and technology to use BIOMASS available near the factory area is surely the most important aspect.
Investor will also look at the “bottom line” (return on investments). They will not consider if the Etanol factory or the sugar cane harvester is new or second hand, but HOW LONG will take the Return on Investment.

Available always for further explanation, thank you for reading

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บราซิลฉันจะหาที่บราซิลเทคโนโลยี และ R & D เกี่ยวกับอ้อยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในบราซิล อ้อยถือว่าเป็นพืชพลังงาน ผลิตภัณฑ์กำไรมากที่สุดคือ เอทานอลและไฟฟ้าจากชานอ้อย/ชีวมวล น้ำตาลเป็นตัว รองน้ำตาล (ความเสี่ยง)น้ำตาลเป็นสินค้า ขณะนี้มีเสถียรภาพราคาและผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาลดลงได้ STEVIA เร็ว ๆ นี้เป็น ตัวเลือกที่ราคาไม่แพงมากในอุตสาหกรรมอาหาร และต้นทุนของน้ำตาลสามารถได้เร็ว benchmarked กับ STEVIA สุขภาพองค์กรทั่วโลกส่งเสริมการบริโภคน้ำตาล Etanol (ความเสี่ยง)Etanol จะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบอย่างเคร่งครัด เอทานอลในประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ มีราคาต่ำกว่าน้ำมันดิบ ไดรเวอร์จะชอบแกสโซฮอล์ปกติแทน E20 และ E85 มีความเป็นไปได้จริงของ OVERSUPPLY ถ้าราคาน้ำมันดิบยังคงต่ำกว่า $100 ต่อบาร์เรลสร้างไฟฟ้า coมันเป็นกิจกรรมที่กำไรมากที่สุด แต่วันนี้จำกัดพร้อมของชานอ้อย พลธแล้วใช้ชนิดของชีวมวลอื่น ๆ เขียนโดยหุ้นของชานอ้อย (ฟางข้าว)สำคัญในการผลิตไฟฟ้าตลอดทั้งปีรอบ ๆ จะมีไม่เคยล้นไฟฟ้าในประเทศไทย ไฟฟ้าเสมอในความต้องการชีวมวลมีการเก็บเกี่ยวใบอ้อยเป็นชีวมวลที่พร้อมสำหรับเอราวัณ ถ้าอ้อยเก็บเกี่ยว ด้วยเครื่อง ใบยังคงอยู่ในฟิลด์ และสามารถรวบรวม baled เก็บ และเขียนสีน้ำตาล การผลิตไฟฟ้าในภายหลัง เทคโนโลยีนี้อยู่แล้วในบราซิล และประสบความสำเร็จตัวอย่าง: 7 harvesters ตัดเท้าต่อฤดูกาล 140000 ตัน ใบบนฟิลด์เป็น 10% ของ weight.14,000 ต้นของชีวมวลแล้วเอราวัณ เพียงรวบรวมใบไม้หาประวัติพระพรหมเอราวัณ เอราวัณซัพพลายเอราวัณเป็นสีน้ำตาลที่มีขนาดใหญ่มาก มี 4 ล้านตันของเท้าบดต่อปี ทุกปรับปรุงในการสร้างร่วมของไฟฟ้าอาจแพง (วอลุ่ม เศรษฐกิจของสเกล) อุปทานเอราวัณมีกองเรือรบที่ใหญ่ที่สุดของรถบรรทุกในประเทศไทย เหล่านี้รถบรรทุกสามารถจะใช้เสร็จสมบูรณ์แล้วสำหรับเคลื่อนไหวของชีวมวล เมื่อฤดูกาล harvesting ปิด (พฤษภาคมถึงตุลาคม) เพื่อ ให้ชีวมวลพลังงานสร้างหน่วยเอราวัณยังไม่มีประสบการณ์กับ Etanol ขายของ Etanol ในเวลาของ oversupply ได้ยากมาก เนื่องจากผู้ซื้อเท่านั้น (PTT) ตัดสินใจโดยอิสระที่จะซื้อจาก ในอดีต พืชบาง Etanol ได้ปิดขาดอุปสงค์ (TSI, Tamaka)ใบแจ้งของฉันมิตรสำหรับเอราวัณ:โรงงาน ETANOL: ปลอดภัยอนุมัติ EIA เพื่อสร้างโรงงาน (ทำให้ไม่หมดอายุ) แต่พิจารณาตัวเลือกอื่น ๆ กว่า PRAJ ($50 ล้าน) โรงงาน Etanol มือสองในบราซิลจะต้นทุนสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ และได้รับประโยชน์ของ BOI สิทธิ์พิเศษเหมือนให้เป็นใหม่ มีความเสี่ยงจริงปิดโรง etanol ใหม่ในอนาคตขาดความต้องการ 50 M$ ลงทุนนั่งว่างเป็นความเจ็บปวดเริ่ม มีโรงงานมือสอง และจากนั้น ขยายเมื่อต้องการเลือก สำหรับตอนนี้ Etanol ลงทุนต่ำเพียงเพื่อจองสิทธิ์การใช้งานไฟฟ้าร่วม: ศึกษาความเป็นไปได้ของการทำงานตลอดทั้งปีรอบ ๆ ในขั้นตอนที่สอง พิจารณาการขยายกำลังการผลิต รวบรวมชีวมวลเป็นสิ่งสำคัญ เทคโนโลยีมีอยู่ แต่ยังคง พัฒนา ฉันรู้แน่ว่า ปัจจุบันธเป็นไปในทิศทางนี้ แท้จริงรัฐบาลจะสนับสนุนการลงทุนการใช้ biomasses ในการผลิตไฟฟ้า และเงินสาธารณะอาจ avialable นักลงทุนสนใจในกรณีที่เอราวัณอยากรายการในตลาดหุ้น นักลงทุนจะได้ส่วนใหญ่สนใจในด้านพลังงานของธุรกิจ การผลิตน้ำตาลมากกว่าเอราวัณจะน่าสนใจสำหรับนักลงทุนต้องแสดงความสามารถในการผลิตไฟฟ้าและเอทานอล ความสามารถและเทคโนโลยีที่ใช้ชีวมวลที่ว่างใกล้บริเวณโรงงานเป็นสิ่งสำคัญที่แน่นอนที่สุดนักลงทุนจะยังดูที่ "รายการด้านล่าง" (คืนทุน) พวกเขาจะไม่พิจารณาหากโรงงาน Etanol หรือเก็บเกี่ยวอ้อยใหม่ หรือมือสอง แต่ระยะจะกลับมาลงทุนพร้อมเสมอสำหรับการเพิ่มเติมคำอธิบาย ขอบคุณสำหรับการอ่าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บราซิล
ฉันมักจะมองไปที่บราซิลสำหรับเทคโนโลยีและ R & D เกี่ยวกับอ้อยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง.
อ้อยในบราซิลถือว่าเป็นพืชพลังงานผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรมากที่สุดคือเอทานอลและไฟฟ้าจากชานอ้อย / ชีวมวล น้ำตาลมักจะเป็นผลิตภัณฑ์มัธยมศึกษาน้ำตาล (ความเสี่ยง) น้ำตาลเป็นสินค้าที่มีในขณะนี้ราคาที่มีเสถียรภาพและการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลดลงของราคาที่เป็นไปได้ หญ้าหวานเร็ว ๆ นี้กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารและค่าใช้จ่ายของน้ำตาลสามารถ benchmarked เร็ว ๆ นี้หญ้าหวาน องค์กรสุขภาพทั่วโลกจะไม่ส่งเสริมการบริโภคน้ำตาล. Etanol (ความเสี่ยง) Etanol เป็นอย่างเคร่งครัดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบ เอทานอลในประเทศไทยส่วนใหญ่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ ด้วยราคาที่ต่ำกว่าน้ำมันดิบไดรเวอร์จะชอบโซฮอล์ปกติแทน E20 และ E85 มีความเป็นไปที่แท้จริงของ oversupply หากราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ต่ำกว่า $ 100 ต่อบาร์เรลเป็นไฟฟ้ารุ่นร่วมมันเป็นกิจกรรมที่ทำกำไรมากที่สุด แต่วันนี้ จำกัด อยู่ที่ความพร้อมของชานอ้อย มิตรผลเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยใช้ชนิดอื่น ๆ ของชีวมวลที่จะเผาไหม้เมื่อหุ้นของชานอ้อยเสร็จสิ้น (ฟางข้าว). ที่สำคัญในการผลิตไฟฟ้าปีรอบ จะไม่มีอุปทานส่วนเกินของการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทย ไฟฟ้าเสมอในความต้องการ. เก็บเกี่ยวชีวมวลใบอ้อยเป็นชีวมวลที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดายสำหรับเอราวัณ ถ้าอ้อยที่เก็บเกี่ยวด้วยเครื่องใบยังคงอยู่ในสนามและสามารถเก็บมัดเก็บไว้และเผาต่อมาที่โรงงานน้ำตาลในการผลิตไฟฟ้า เทคโนโลยีนี้มีอยู่แล้วในบราซิลและจะประสบความสำเร็จ. ตัวอย่าง: 7 เก็บเกี่ยว ตัด 140,000 ตันอ้อยต่อฤดูกาล ใบบนสนามเป็น 10% ของตัน weight.14,000 ชีวมวลแล้วสำหรับ ERAWAN เพียงการเก็บรวบรวมใบ. รายละเอียดเอราวัณเอราวัณซัพพลายเอราวัณเป็นโรงงานน้ำตาลที่มีขนาดใหญ่มากกับ 4 ล้านตันอ้อยบดต่อปีปรับตัวดีขึ้นในทุก ผู้ร่วมผลิตกระแสไฟฟ้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ (เล่มประหยัดจากขนาด) เอราวัณซัพพลายแห่งหนึ่งของกองเรือที่ใหญ่ที่สุดของรถบรรทุกในประเทศไทย รถบรรทุกเหล่านี้สามารถใช้ประสบความสำเร็จสำหรับการเคลื่อนไหวชีวมวลเมื่อฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะปิด (พฤษภาคม-ตุลาคม) เพื่อให้มวลสำหรับการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดหน่วย. เอราวัณไม่ได้มีประสบการณ์กับ Etanol ยัง ขาย Etanol ในช่วงเวลาแห่งอุปทานส่วนเกินอาจเป็นเรื่องยากมากเนื่องจากผู้ซื้อเท่านั้น (ปตท.) ตัดสินใจอย่างเป็นอิสระที่จะซื้อจาก ในอดีตที่ผ่านมาบางโรงงาน Etanol ถูกปิดสำหรับการขาดของความต้องการ (TSI, ท่ามะกา). คำแนะนำที่เป็นมิตรของฉันเอราวัณ: โรงงาน ETANOL: การรักษาความปลอดภัยได้รับการอนุมัติอีไอเอที่จะสร้างโรงงาน (จะไม่ปล่อยให้หมดอายุ) แต่พิจารณาตัวเลือกอื่น ๆ กว่า Praj (50 ล้าน $) โรงงาน Etanol มือสองในบราซิลจะมีค่าใช้จ่ายสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์และประโยชน์ของการส่งเสริมการลงทุนสิทธิ์เช่นเดียวกับหนึ่งใหม่ มีความเสี่ยงที่แท้จริงในการปิดตัวลงในอนาคตโรงงาน etanol ใหม่สำหรับการขาดความต้องการ 50 M $ ลงทุนนั่งไม่ได้ใช้งานเป็นความเจ็บปวดคุณสามารถเริ่มต้นด้วยพืชมือสองและขยายแล้วเมื่อมีความต้องการสูงขึ้น สำหรับตอนนี้ลงทุนขั้นต่ำใน Etanol เพียงเพื่อรักษาความปลอดภัยใบอนุญาต. ไฟฟ้าร่วมรุ่น: ศึกษาความเป็นไปได้ของการทำงานตลอดทั้งปี ในขั้นตอนที่สองพิจารณาที่จะขยายกำลังการผลิต การจัดเก็บภาษีชีวมวลเป็นสิ่งสำคัญ เทคโนโลยีที่มีอยู่ แต่ยังคงพัฒนา ฉันรู้ว่ามิตรผลเป็นไปในทิศทางนี้ รัฐบาลที่เกิดขึ้นจริงจะให้การสนับสนุนการลงทุนใด ๆ ที่จะใช้ชีวมวลในการผลิตไฟฟ้าและเงินของประชาชนอาจจะเป็น avialable. ที่น่าสนใจของนักลงทุนในกรณีที่ บริษัท ดิเอราวัณต้องการที่จะแสดงรายการในตลาดหุ้นที่นักลงทุนจะมีความสนใจส่วนใหญ่ในด้านของธุรกิจพลังงานมากกว่าน้ำตาล การผลิต. เอราวัณจะเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่จะต้องแสดงความสามารถในการผลิตไฟฟ้าและเอทานอล ความสามารถและเทคโนโลยีที่จะใช้ชีวมวลที่มีอยู่ใกล้พื้นที่โรงงานเป็นแน่นอนสิ่งสำคัญที่สุด. นักลงทุนยังจะมีลักษณะที่ "บรรทัดล่าง" (ผลตอบแทนจากการลงทุน) พวกเขาจะไม่พิจารณาหากโรงงาน Etanol หรือเก็บเกี่ยวอ้อยเป็นใหม่หรือมือสอง แต่นานแค่ไหนที่จะนำผลตอบแทนการลงทุน. มีจำหน่ายเสมอสำหรับคำอธิบายเพิ่มเติมขอขอบคุณสำหรับการอ่าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บราซิล
ฉันมักจะมองที่บราซิลเพื่อเทคโนโลยีและ R & D เกี่ยวกับอ้อยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง .
อ้อยน้ำตาลของบราซิล ถือว่าเป็นพืชพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรมากที่สุดคือ เอทานอล และไฟฟ้าจากชานอ้อย / ชีวมวล น้ำตาลมักจะเป็นรองสินค้า ( ความเสี่ยง )

น้ำตาล น้ำตาลเป็นสินค้าที่มีตอนนี้ราคาคงที่และการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลดลงในราคาที่เป็นไปได้หญ้าหวานนี้กลายเป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงมากขึ้นในอุตสาหกรรมอาหาร และราคาน้ำตาลได้เร็วเทียบกับหญ้าหวาน องค์กรสุขภาพทั่วโลกจะไม่ได้รับการส่งเสริมการบริโภคน้ำตาล

etanol ( ความเสี่ยง )
etanol เป็นอย่างเคร่งครัดขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบ เอทานอลในประเทศไทยส่วนใหญ่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ ด้วยการลดราคาของน้ำมันดิบไดรเวอร์จะชอบแก๊สโซฮอล์ปกติแทนเมื่อทั้งหมด . มีความเป็นไปได้ของตลาดที่แท้จริง ถ้าราคาของน้ำมันดิบยังคงอยู่ภายใต้ $ 100 ต่อบาร์เรล

ไฟฟ้า Co รุ่น
มันมากที่สุดที่มีกิจกรรม แต่วันนี้ จำกัด เพื่อความพร้อมของชานอ้อย มิตรผลจะใช้ชนิดอื่น ๆของชีวมวลเพื่อเผาเมื่อหุ้นของชานอ้อยเสร็จแล้ว
( ฟางข้าว )ที่สำคัญในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดปีรอบ จะไม่มีธุรกิจไฟฟ้าในประเทศไทย ไฟฟ้าเสมอในความต้องการ ปริมาณการเก็บเกี่ยว


ใบอ้อยเป็นพร้อมใช้ชีวมวลสำหรับช้างเอราวัณ ถ้าอ้อยที่เก็บเกี่ยวด้วยเครื่อง ใบยังคงอยู่บนสนาม และสามารถเก็บรวบรวมการมัด , การจัดเก็บและภายหลังการเผาที่โรงงานน้ำตาล เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเทคโนโลยีนี้มีอยู่ในบราซิล และ ความสำเร็จ ตัวอย่าง :
7 เก็บเกี่ยว . ตัด 140 , 000 ตันอ้อยต่อฤดูกาล ใบบนสนาม 10 % ของ weight.14000 ตันของชีวมวลที่มีอยู่แล้วสำหรับเอราวัณ แค่เก็บใบ



เอราวัณ เอราวัณ เอราวัณประวัติ อุปทาน เป็นโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่มาก กับ 4 ล้านตันอ้อยบดต่อปีทุกโครงการใน Co รุ่นไฟฟ้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ( ซึ่งเศรษฐกิจของมาตราส่วน ) เอราวัณซัพพลายมีหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดกองเรือรบของรถบรรทุกในประเทศไทย รถบรรทุกเหล่านี้สามารถใช้ประสบความสำหรับการเคลื่อนไหวของชีวมวล เมื่อเก็บเกี่ยวฤดูกาลออก ( พฤษภาคม - ตุลาคม ) เพื่อให้พลังงานชีวมวลเพื่อผลิตหน่วย .
เอราวัณไม่ได้มีประสบการณ์กับ etanol ยังขาย etanol ในเวลาของตลาดได้ยากมาก เนื่องจากผู้ซื้อเท่านั้น ( ปตท. ) ตัดสินใจอย่างอิสระ ที่ซื้อจาก ในอดีตบาง etanol พืชปิดสำหรับการขาดของความต้องการ ( นิก tamaka )

แนะนำเป็นกันเองสำหรับวัณ :
โรงงาน etanol ความปลอดภัย EIA อนุมัติสร้างโรงงาน ( อย่าปล่อยให้หมดอายุ ) แต่พิจารณาตัวเลือกอื่น ๆ กว่า praj ( 50 ล้าน )มือสอง etanol โรงงานในบราซิลจะมีค่าใช้จ่ายสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ และ ประโยชน์ของบีโอไอเข้างานเดียวกันเป็นหนึ่งใหม่ มีความเสี่ยงที่แท้จริงในการปิดโรงงาน etanol อนาคตใหม่สำหรับการขาดของความต้องการ . การลงทุน 50 M $ นั่งอยู่เฉยๆไม่เจ็บปวด คุณสามารถเริ่มต้นด้วยโรงงานมือสองและขยายแล้ว เมื่อต้องการจะรับ ตอนนี้ etanol การลงทุนขั้นต่ำ ,แค่การรักษาความปลอดภัยใบอนุญาต .
ไฟฟ้า Co รุ่น : ศึกษาความเป็นไปได้ของวิ่งทั้งหมดปีรอบ ในขั้นตอนที่สอง พิจารณาการขยายกําลังการผลิต รวบรวมชีวมวลเป็นสําคัญ เทคโนโลยีที่มีอยู่ แต่ยังพัฒนา ฉันแน่ใจว่า มิตรผลเป็นไปในทิศทางนี้ จริงรัฐบาลจะสนับสนุนการลงทุนใด ๆที่จะใช้ BIOMASSES เพื่อผลิตไฟฟ้าและเงินสาธารณะอาจเป็น avialable .


ในความสนใจของนักลงทุน กรณีเอราวัณต้องการรายชื่อในตลาดหุ้น นักลงทุนส่วนใหญ่จะได้รับความสนใจในด้านพลังงานของธุรกิจ มากกว่าการผลิตน้ำตาล .
วัณ น่าสนใจสำหรับนักลงทุนจะต้องแสดงความสามารถในการผลิตไฟฟ้า และเอทานอลและความสามารถในเทคโนโลยีการใช้ชีวมวลที่มีอยู่ใกล้บริเวณโรงงาน ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด .
นักลงทุนจะมอง " ด้านล่างบรรทัด " ( ผลตอบแทนการลงทุน ) พวกเขาจะไม่พิจารณา ถ้า etanol โรงงาน หรือปลูกอ้อยใหม่ หรือมือสอง แต่นานจะเอาผลตอบแทนการลงทุน

พร้อมเสมอสำหรับการอธิบายเพิ่มเติม ขอขอบคุณสำหรับการอ่าน