I shall then go on to outline vario

I shall then go on to outline various arguments that are associated with the Madhyamaka refutation of svabhāva.
Besides arguing against svabhāva directly,Nāgārjuna‘s critique targets several philosophical concepts like causality, unity, and essential properties, as well as various Buddhist notions such as the Four Noble Truths, nirvana, and the Tathāgata. Yet, he does not intend to refute these altogether, but only to demonstrate that if we conceive of them in terms of svabhāva, such concepts cannot be rendered consistent, either with each other, or internally.
For example, if entities existed with svabhāva, then they could never arise, or give rise to anything else; they could not change, or ever come to an end. Therefore, when we seek the svabhāva of a tree, say, we never find it, we find only its emptiness of svabhāva, or in other words, we find that there is nothing other than the collection of fleeting impressions we receive, nothing permanent underlying the fluctuating parts and properties that we tend to think of as 'inessential‘ to the tree itself. Our regarding it as a 'hard-edged‘ individual has a lot to do, instead, with our language and other conventions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จะไปในเค้าร่างอาร์กิวเมนต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ refutation มัธยมกะของ svabhāvaนอกจากการโต้เถียงกับ svabhāva โดยตรง วิจารณ์ของ Nāgārjuna เป้าหมายแนวคิดปรัชญาต่าง ๆ เช่น causality สามัคคี และคุณสมบัติที่จำเป็น รวมทั้งความเข้าใจพุทธศาสนาต่าง ๆ เช่นทุกข์ นิพพาน และตถาคต ยัง เขาไม่ตั้งใจที่โต้กันเหล่านี้ แต่เพียงแสดง ให้เห็นถึงว่า ถ้าเราตั้งครรภ์ของพวกเขาใน svabhāva แนวคิดดังกล่าวไม่สามารถแสดงความสอดคล้องกัน ด้วยกัน หรือภายใน ตัวอย่าง ถ้าตีอยู่กับ svabhāva แล้วพวกเขาไม่เคย เกิดขึ้น หรือทางอะไร พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือเคยมาสิ้นสุด ดังนั้น เมื่อเราแสวงหา svabhāva ของต้นไม้ ว่า เราไม่เคยพบว่า เราค้นหาเฉพาะตัวเปล่าของ svabhāva หรือในคำอื่น ๆ เราพบว่า ไม่มีอะไรนอกจากคอลเลกชันของอิมลี้ได้รับ ไม่มีอะไรถาวรต้นส่วนความและคุณสมบัติที่เรามักจะคิดว่า เป็น 'inessential' แผนภูมิตัวเอง ของเราเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 'hard-edged' ได้มากที่จะทำ แต่ ภาษาและข้อตกลงอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากนั้นผมก็จะไปในที่จะร่างข้อโต้แย้งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ ā VA.
นอกจากนี้เถียงกับ ā VA ā กรัมā rjuna ' วิจารณ์ ā Gata แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะลบล้างเหล่านี้ทั้งหมด แต่เพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่าถ้าเราคิดในใจของพวกเขาในแง่ของ ā VA,
ยกตัวอย่างเช่นถ้าหน่วยงานที่มีอยู่ด้วย ā VA พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนหรือเคยมาถึงจุดสิ้นสุด ดังนั้นเมื่อเราพยายามที่ ā VA ā VA, ' กับต้นไม้ที่ตัวเอง เกี่ยวกับว่ามันเป็นของเรา - ขอบ' แต่ละคนมีจำนวนมากที่จะทำแทนด้วยภาษาและการประชุมอื่น ๆ ของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉันจะไปในการร่างการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับนิกายมาธยมิกะพิสูจน์ของ svabh อุบาสกบริษัท
นอกจากเถียงกับ svabh อุบาสกอุบาสกอุบาสก VA โดยตรง , n G rjuna ก็วิพากษ์เป้าหมายหลายแนวคิดปรัชญาชอบความเป็นเหตุเป็นผล เอกภาพ และคุณสมบัติที่จำเป็น ตลอดจนความคิดทางพุทธศาสนาต่างๆ เช่น อริยสัจ 4 , นิพพาน , และตถาคต . ยังเขาไม่คิดจะโต้แย้งเหล่านี้ทั้งหมด แต่เพียงแสดงให้เห็นว่าถ้าเราตั้งครรภ์ของพวกเขาในแง่ของการ svabh อุบาสกและ แนวคิดดังกล่าวไม่สามารถให้สอดคล้องกับแต่ละอื่น ๆ หรือภายใน
ตัวอย่างเช่น ถ้าองค์กรที่มีอยู่กับ svabh อุบาสกและ แล้ว พวกเขาอาจไม่เคยเกิดขึ้น หรือให้เพิ่มอะไรอีก เขาไม่สามารถเปลี่ยน หรือเคยมาสิ้นสุด ดังนั้นเมื่อเราแสวงหา svabh อุบาสก VA ของต้นไม้ กล่าวว่า เราไม่เคยเจอ เราพบเพียงความว่างเปล่า svabh ของอุบาสก VA , หรือในคำอื่น ๆที่เราพบว่ามันมีอะไรนอกเหนือจากคอลเลกชันของหายวับไปแสดงผลที่เราได้รับ ไม่มีอะไรถาวรภายใต้ความผันผวนของส่วนและคุณสมบัติที่เรามักจะคิดว่าเป็น ' ไม่จำเป็น ' ต้นไม้นั่นเองเรื่องมันเป็น ' ยากขอบแต่ละมีหลายอย่างให้ทำ แทน ด้วยภาษาและการประชุมอื่น ๆของเรา