Most early research on motivation w

Most early research on motivation was rooted in the study of behavioral learning theory, specifi cally
the theory of operant conditioning. According to operant conditioning, an individual who receives
reinforcement, a positive consequence for a behavior, would be likely to perform the behavior again
under similar circumstances (Skinner, 1953). Reinforcement, in other words, can motivate behavior.
Early researchers called this extrinsic motivation, meaning it is “external” to the behavior, and de-
fi ned this type of motivation as engaging in an activity to obtain an outcome that is distinct from the
activity itself (deCharms, 1968; Lepper & Greene, 1978).
Of course, individuals do not always need external incentives. For some activities, such as watching
TV or playing video games, the reward is an intrinsic part of the activity. Intrinsic motivation
relates to engaging in an activity when the reward is the activity itself. Humans and many animals
engage in exploratory and curiosity-driven behaviors in the absence of reinforcement (White, 1959).
For example, young children build towers of blocks, color, and play dress-up with no need for extrinsic
rewards. Elementary-school children who enjoy recreational reading, adolescents who blog or
listen to music, and adults who have hobbies are all intrinsically motivated to engage in these activities.
In school, teachers strive to encourage academic intrinsic motivation, which is an orientation
toward learning characterized by curiosity; persistence; learning of challenging, novel tasks; and a
focus on mastery of knowledge and skills (Gottfried, Fleming, & Gottfried, 1994; Gottfried & Gottfried,
1996).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนใหญ่ต้นวิจัยแรงจูงใจถูกใช้ในการศึกษาเรียนรู้พฤติกรรมทฤษฎี cally specifiทฤษฎีของปรับ operant ตามการปรับ operant บุคคลที่ได้รับเสริม สัจจะบวกสำหรับลักษณะการทำงาน มีแนวโน้มที่จะทำพฤติกรรมอีกภายใต้สถานการณ์คล้ายกัน (สกินเนอร์ 1953) ในคำอื่น ๆ เสริม สามารถจูงใจงานทำงานนักวิจัยช่วงที่เรียกว่าแรงจูงใจนี้สึกหรอ ความหมาย มันอยู่ "ภายนอก" พฤติกรรม และเดอ-ไร้สายโดยชนิดของแรงจูงใจเป็นเสน่ห์ในกิจกรรมเพื่อให้ได้ผลที่แตกต่างจากการกิจกรรม (deCharms, 1968 ตัวเอง Lepper & Greene, 1978)แน่นอน บุคคลไม่จำเป็นต้องมีแรงจูงใจภายนอก สำหรับกิจกรรมบางอย่าง เช่นการดูรายการโทรทัศน์หรือเล่นวิดีโอเกม รางวัลเป็นส่วน intrinsic ของกิจกรรม แรงจูงใจ intrinsicเกี่ยวข้องกับเสน่ห์ในกิจกรรมเมื่อรางวัล กิจกรรมเอง มนุษย์และสัตว์มากมายมีส่วนร่วมในพฤติกรรมเชิงบุกเบิก และอยากขับเคลื่อนของเหล็กเสริม (สีขาว 1959)เด็กสร้างอาคารของบล็อก สี เช่น และเล่นแต่ง ด้วยไม่ต้องการสึกหรอรางวัล เด็กโรงเรียนประถมศึกษาที่เข้าอ่าน วัยรุ่นที่บล็อก หรือฟังเพลง และผู้ใหญ่ที่มีงานอดิเรกเป็นแรงจูงใจทั้งภายในกิจกรรมเหล่านี้ในโรงเรียน ครูที่มุ่งมั่นส่งเสริมวิชาการ intrinsic แรงจูงใจ ซึ่งเป็นการวางแนวต่อการเรียนรู้โดยเห็น มีอยู่ เรียนรู้งานท้าทาย นวนิยาย และเน้นความรู้และทักษะ (Gottfried เฟลมิง และ Gottfried, 1994 ที่เป็นครู Gottfried และ Gottfried1996)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยในช่วงต้นมากที่สุดในการสร้างแรงจูงใจที่ถูกฝังรากในการศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้พฤติกรรมการถอนรากถอนโคน specifi
ทฤษฎีของผ่าตัดปรับอากาศ ตามที่ผ่าตัดปรับอากาศบุคคลที่ได้รับ
การเสริมแรงเป็นผลในเชิงบวกสำหรับพฤติกรรมจะมีแนวโน้มที่จะดำเนินการลักษณะการทำงานอีกครั้ง
ภายใต้สถานการณ์ที่คล้ายกัน (สกินเนอร์, 1953) การเสริมแรงในคำอื่น ๆ ที่สามารถกระตุ้นพฤติกรรม.
นักวิจัยต้นที่เรียกว่าแรงจูงใจภายนอกนี้ความหมายก็คือ "ภายนอก" กับพฤติกรรมและ de-
นิยามประเภทของแรงจูงใจนี้เป็นส่วนร่วมในกิจกรรมที่จะได้รับผลที่แตกต่างจาก
กิจกรรมของตัวเอง (deCharms 1968; Lepper & กรีน, 1978).
แน่นอนบุคคลที่ไม่ได้มักจะต้องแรงจูงใจภายนอก สำหรับกิจกรรมบางอย่างเช่นการดู
โทรทัศน์หรือเล่นวิดีโอเกม, รางวัลที่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่แท้จริง แรงจูงใจภายใน
ที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เมื่อได้รับรางวัลเป็นกิจกรรมที่ตัวเอง มนุษย์และสัตว์หลายชนิด
มีส่วนร่วมในพฤติกรรมการสอบสวนและความอยากรู้ที่ขับเคลื่อนด้วยในกรณีที่ไม่มีการเสริมแรง (สีขาว, 1959).
ตัวอย่างเช่นเด็กเล็กสร้างอาคารของบล็อกสีและเล่นแต่งตัวที่มีความจำเป็นสำหรับภายนอกไม่มี
ผลตอบแทน เด็กประถมโรงเรียนที่สนุกกับการอ่านด้านการกีฬาและวัยรุ่นที่บล็อกหรือ
ฟังเพลงและผู้ใหญ่ที่มีงานอดิเรกที่มีทั้งหมดแรงจูงใจภายในจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้.
ในโรงเรียนครูมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกิดแรงจูงใจภายในวิชาการซึ่งเป็นการวางแนวทาง
ไปสู่การเรียนรู้ที่โดดเด่น ด้วยความอยากรู้; วิริยะ; การเรียนรู้ที่ท้าทายงานนวนิยาย; และ
มุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ของความรู้และทักษะ (กอทท์ฟรีเอียนเฟลมมิ่งและ Gottfried 1994; กอทท์ฟรีและ Gottfried,
1996)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ต้นมากที่สุดการวิจัยแรงจูงใจเป็นรากฐานในการศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ทฤษฎีของเหลวคอลลี่
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม . ตามงบประมาณผันแปร บุคคลที่ได้รับ
การเสริมแรง , ผลในเชิงบวกในพฤติกรรม จะเป็นโอกาสที่จะแสดงพฤติกรรมอีกครั้ง
ภายใต้สถานการณ์ที่คล้ายกัน ( สกินเนอร์ , 1953 ) เสริม ในคำอื่น ๆที่สามารถกระตุ้นพฤติกรรม
นักวิจัยแรกเรียกว่าแรงจูงใจภายนอกนี้ ความหมายมันคือ " ภายนอก " พฤติกรรมและ de -
fi เน็ดของแรงจูงใจชนิดนี้เป็นส่วนร่วมในกิจกรรม เพื่อให้ได้ผลที่แตกต่างจาก
กิจกรรมตัวเอง ( decharms , 1968 ; เลปเปอร์&กรีน , 1978 ) .
แน่นอน บุคคลไม่ ต้องมีแรงจูงใจภายนอก สำหรับกิจกรรมบางอย่าง เช่น การดู
ทีวีหรือเล่นวิดีโอเกมรางวัลเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม แรงจูงใจภายใน
เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเมื่อรางวัลเป็นกิจกรรมนั่นเอง มนุษย์และสัตว์หลาย
ประกอบการสำรวจและความอยากรู้ทำให้พฤติกรรมในการขาดงานของการเสริมแรง ( สีขาว , 1959 ) .
ตัวอย่างเช่น เด็กสร้างอาคารบล็อก , สี , และเครื่องแต่งกายในการเล่นขึ้นโดยไม่ต้องมีความ
รางวัลโรงเรียนประถมเด็กที่สนุกกับการอ่านหนังสือนันทนาการ , วัยรุ่นที่บล็อกหรือ
ฟังเพลง และผู้ใหญ่ที่มีงานอดิเรกเป็นแรงจูงใจภายในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้
ในโรงเรียน ครูพยายามส่งเสริมแรงจูงใจในกิจกรรมวิชาการ ซึ่งเป็นแนว
ที่มีต่อการเรียนรู้ลักษณะความอยากรู้ ; เก็บรักษา การเรียนรู้ที่ท้าทายใหม่งาน ; และ
มุ่งเน้นการเรียนรู้ของความรู้และทักษะ ( กอทท์ฟรีด เฟลมมิ่ง &กอทท์ฟรีด , 2537 ; ก็&กอทท์ฟรีด
, 1996 )