DISCUSSIONWhen asked to stand on on

DISCUSSION
When asked to stand on one leg, and follow a standard
routine to ensure hip abductor muscle contraction on the
same side, patients may respond to the standardised
Trendelenburg test in one of three ways. Only one
response is normal; the other two are abnormal. An
ability to assume the normal response must be absolute,
and if the pelvis drops on the non-stance side within 30
seconds the Trendelenburg test is positive. The use of a
timer is an essential part of the Trendelenburg test, and,
indeed, makes it an objective measure of severity of
altered hip mechanics.
However, the presence of pain, poor balance and
either lack of co-operation or understanding by the
patient can lead to false-positive tests, because the test cannot be properly performed. The reason for falsenegative
tests is that the subject uses muscles above the
pelvis to elevate the non-weight-bearing side of the pelvis,
or shifts the torso well over the weight-bearing side;
these can be called “trick movements”. Variable
responses were noted in some patients less than seven
years of age, and the test is of no value in children under
four. Nevertheless, if the Trendelenburg test is carefully
performed, it is an accurate clinical sign with prognostic
implications.
Inman (1947) measured the torque strength about
the hip with the pelvis in different postures with respect
to the ground. Our electromyographic results confirm his
findings that little abductor muscle strength/activity is
necessary to maintain a balanced posture with the pelvis
dropped (as in Response 3) on the non-weight-bearing
side. As the pelvis rises on this side there is increase of
abductor muscle activity provided that the torso is
centred over the hip.
Functional assessment of a joint is important in the
clinical assessment of patients. Observation of gait is
probably performed less often than is desirable because
of limitation of space. The Trendelenburg test allows for
functional assessment in a confined space, and is a more valuable clinical sign than many static tests. It can also
be easily recorded on film or videotape.
It is our belief that a patient who has an abnormal
response to the Trendelenburg test as described in this
paper has an inefficient gait, and therefore becomes
easily fatigued. With a little practice, the test is not difficult
to perform and interpret. Timing is an essential part
of the test; it provides an objective measure of improvement
or deterioration in the neuromuscular or mechanical
function of the hip.
Trendelenburg’s original observations were precise
and clear, and his interpretations accurate. We Support
the need for meticulous clinical examination in order to
provide correct diagnosis and we recommend the use of
the standardised timed Trendelenburg test in the assess- ment offunction and malfunction ofthe hip

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาเมื่อต้องยืนบนขาข้างหนึ่ง และทำตามมาตรฐานขั้นตอนให้การหดตัวของกล้ามเนื้อแอบดักเตอร์สะโพกบนฝั่งเดียว ผู้ป่วยอาจตอบสนองต่อการควบคุมมาตรฐานทดสอบ Trendelenburg หนึ่งในสามวิธี เพียงคนเดียวตอบสนองเป็นปกติ อีกสองจะผิดปกติ มีความสามารถในการคิดตอบสนองปกติต้องแน่นอนและ ถ้าหยดเชิงกรานทางด้านท่าทางไม่ใช่ภายใน 30วินาทีทดสอบ Trendelenburg เป็นบวก การใช้การเวลาจะเป็นส่วนสำคัญของการทดสอบ Trendelenburg และแน่นอน ทำให้ผิดวัตถุประสงค์วัดความรุนแรงของเปลี่ยนแปลงกลไกฮิอย่างไรก็ตาม ก็เจ็บ คนจนสมดุล และการขาดความร่วมมือหรือความเข้าใจโดยการผู้ป่วยสามารถนำไปสู่การทดสอบเป็นบวกเท็จ เนื่องจากการทดสอบไม่สามารถทำได้อย่างถูกต้อง เหตุผลสำหรับ falsenegativeเป็นการทดสอบว่า ชื่อเรื่องใช้กล้ามเนื้อด้านบนเชิงกรานจะยกระดับพันธมิตรด้านไม่ใช่น้ำหนักเรืองของเชิงกรานหรือกะลำตัวดีกว่าด้านน้ำหนักเรืองเหล่านี้สามารถเรียกว่า "เคลื่อนไหวเคล็ดลับ" ตัวแปรตอบถูกตั้งข้อสังเกตในผู้ป่วยบางน้อยกว่า 7ปี และการทดสอบเป็นของไม่มีค่าในเด็กอายุต่ำกว่า4 อย่างไรก็ตาม Trendelenburg ทดสอบว่าอย่างระมัดระวังดำเนินการ เป็น prognostic ป้ายคลินิกถูกต้องผลกระทบใต้ (1947) โดยวัดความแรงแรงบิดเกี่ยวกับสะโพกกับเชิงกรานในท่าทางต่าง ๆ ด้วยความเคารพไปพื้นดิน ยืนยันผล electromyographic ของเราของเขาผลการวิจัยที่แอบดักเตอร์น้อยกล้ามเนื้อความแข็งแรง/กิจกรรมจำเป็นต้องรักษาท่าทางที่สมดุลกับเชิงกรานตกอยู่ที่ไม่ใช่น้ำหนักเรือง (ในตอบ 3)ข้างหนึ่ง ขณะเชิงกรานมาด้านนี้ มีเพิ่มฟื้นฟูกล้ามเนื้อแอบดักเตอร์กิจกรรมโดยที่ลำตัวเป็นศูนย์กลางเหนือสะโพกประเมินการร่วมทำงานเป็นสิ่งสำคัญในการการประเมินผลทางคลินิกของผู้ป่วย สังเกตเดินเป็นคงทำบ่อยน้อยกว่าเป็นการสมควรเพราะข้อจำกัดของพื้นที่ อนุญาตให้มีการทดสอบ Trendelenburgประเมินการทำงานในพื้นที่จำกัด และเครื่องทางคลินิกมีคุณค่ามากขึ้นกว่าทดสอบหลายคง มันยังสามารถได้ถูกบันทึกไว้บนฟิล์มหรือเทปมันเป็นความเชื่อของเราที่ผู้ป่วยที่มีการผิดปกติตอบการทดสอบ Trendelenburg ตามที่อธิบายไว้ในนี้กระดาษเดินไม่ได้ และดังนั้น จะง่าย ๆ fatigued ด้วยการฝึกฝนเล็กน้อย การทดสอบไม่ยากการทำ และแปล เวลาเป็นส่วนสำคัญของการทดสอบ มีการวัดวัตถุประสงค์ของการปรับปรุงหรือความเสียหายในกล้าม หรือเครื่องจักรกลฟังก์ชันของสะโพกสังเกตเดิมของ Trendelenburg ได้แม่นยำล้าง และตีความของเขาถูกต้องด้วย เราสนับสนุนต้องการตรวจสอบทางคลินิกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้การวินิจฉัยและเราขอแนะนำให้ใช้ของถูกแบบที่เวลาทดสอบ Trendelenburg offunction assess ติดขัดและความผิดปกติของสะโพก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การอภิปราย
เมื่อถามว่าจะยืนอยู่บนขาข้างหนึ่งและทำตามมาตรฐาน
ประจำเพื่อให้แน่ใจว่าการหดตัวของกล้ามเนื้อสะโพกลักพาตัวใน
ด้านเดียวกันผู้ป่วยอาจตอบสนองต่อมาตรฐาน
การทดสอบ Trendelenburg ในหนึ่งในสามวิธี เพียงคนเดียวที่
ตอบสนองเป็นปกติ อีกสองคนที่ผิดปกติ
ความสามารถที่จะคิดตอบสนองปกติจะต้องมีแน่นอน
และถ้ากระดูกเชิงกรานลดลงในด้านที่ไม่ใช่จุดยืนภายใน 30
วินาทีการทดสอบ Trendelenburg เป็นบวก ใช้
การจับเวลาเป็นส่วนสำคัญของการทดสอบ Trendelenburg และ
แน่นอนทำให้วัตถุประสงค์ของการวัดความรุนแรงของ
กลศาสตร์สะโพกเปลี่ยนแปลง.
แต่การปรากฏตัวของความเจ็บปวด, ความสมดุลที่ยากจนและ
ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งของความร่วมมือหรือความเข้าใจโดย
ผู้ป่วยสามารถนำไปสู่การทดสอบบวกเท็จเพราะการทดสอบไม่สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้อง เหตุผลสำหรับ falsenegative
การทดสอบก็คือว่าเรื่องดังกล่าวข้างต้นจะใช้กล้ามเนื้อ
อุ้งเชิงกรานที่จะยกระดับด้านที่ไม่ได้แบกน้ำหนักของกระดูกเชิงกราน,
หรือกะลำตัวดีกว่าด้านแบกน้ำหนัก;
เหล่านี้สามารถเรียกว่า "การเคลื่อนไหวของเคล็ดลับ" ตัวแปร
การตอบสนองที่ถูกตั้งข้อสังเกตในผู้ป่วยบางน้อยกว่าเจ็ด
ปีของอายุและการทดสอบค่าในเด็กอายุต่ำกว่าไม่มี
สี่ แต่ถ้ามีการทดสอบอย่างรอบคอบ Trendelenburg
ดำเนินการมันเป็นสัญญาณทางคลินิกที่ถูกต้องกับการพยากรณ์
ผลกระทบ.
Inman (1947) วัดความแรงของแรงบิดที่เกี่ยว
กับกระดูกเชิงกรานสะโพกในท่าที่แตกต่างกันด้วยความเคารพ
กับพื้น ผลการ electromyographic ของเรายืนยันเขา
ค้นพบว่าลักพาตัวน้อยแข็งแรงของกล้ามเนื้อ / กิจกรรม
ที่จำเป็นเพื่อรักษาท่าที่สมดุลกับกระดูกเชิงกราน
ลดลง (ในขณะที่การตอบสนอง 3) ในการที่ไม่แบกน้ำหนัก
ด้าน ในฐานะที่เป็นกระดูกเชิงกรานเพิ่มขึ้นในด้านนี้มีการเพิ่มขึ้นของ
กิจกรรมของกล้ามเนื้อลักพาตัวโดยมีเงื่อนไขว่าลำตัวจะ
อยู่เหนือสะโพก.
การประเมินการทำงานของร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญใน
การประเมินทางคลินิกของผู้ป่วย การสังเกตของการเดินจะ
ดำเนินการอาจจะมักจะน้อยกว่าเพราะเป็นที่พึงปรารถนา
ของข้อ จำกัด ของพื้นที่ ทดสอบ Trendelenburg ช่วยให้การ
ประเมินการทำงานในสถานที่คับแคบและเป็นสัญญาณทางคลินิกที่มีคุณค่ามากกว่าการทดสอบแบบคงที่หลาย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถ
ถูกบันทึกไว้ได้อย่างง่ายดายบนแผ่นฟิล์มหรือเทป.
มันเป็นความเชื่อของเราที่ว่าผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของ
การตอบสนองต่อการทดสอบ Trendelenburg ตามที่อธิบายไว้ใน
กระดาษมีการเดินที่ไม่มีประสิทธิภาพและดังนั้นจึงกลายเป็น
เหนื่อยง่าย มีการปฏิบัติน้อยการทดสอบไม่ได้เป็นเรื่องยาก
ที่จะดำเนินการและตีความ เวลาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ
ของการทดสอบ; จะให้วัดวัตถุประสงค์ของการปรับปรุง
หรือการเสื่อมสภาพในกล้ามเนื้อหรือเครื่องกล
ฟังก์ชั่นของสะโพก.
สังเกตเดิม Trendelenburg ของคนได้อย่างแม่นยำ
และชัดเจนและการตีความของเขาที่ถูกต้อง เราสนับสนุน
ความจำเป็นในการตรวจทางคลินิกอย่างพิถีพิถันเพื่อ
ให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและเราแนะนำให้ใช้
การทดสอบ Trendelenburg เวลาที่กำหนดมาตรฐานใน offunction ment และประเมินความผิดปกติ ofthe สะโพก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปราย
เมื่อต้องยืนขาเดียว และตามมาตรฐานเพื่อให้แน่ใจว่ากล้ามเนื้อสะโพก
รูทีนการหดตัวของกล้ามเนื้อบน
ด้านเดียวกัน ผู้ป่วยอาจตอบสนองต่อมาตรฐาน
เทรนดีเลนเบิคทดสอบในหนึ่งในสามวิธี คำตอบเดียว
เป็นปกติ อีกสองคนกำลังผิดปกติ มีความสามารถในการรับการตอบสนองปกติ

ต้องแน่นอนและถ้าเชิงกรานหยด ที่ไม่ระวังด้านข้างภายใน 30
วินาทีเทรนดีเลนเบิคการทดสอบเป็นบวก ใช้ของ
จับเวลาเป็นส่วนสําคัญของเทรนดีเลนเบิค ทดสอบ และ
แน่นอน ทำให้มาตรการวัตถุประสงค์ของความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงกลศาสตร์สะโพก
.
แต่การแสดงตนของความเจ็บปวด จนสมดุลและ
ให้ขาดการหรือความเข้าใจ โดยผู้ป่วยสามารถนำไปสู่การทดสอบ
false-positive เนื่องจากการทดสอบจะถูกดำเนินการเหตุผลในการทดสอบ falsenegative
คือว่า เรื่องการใช้กล้ามเนื้อด้านบน
เชิงกรานเพื่อยกระดับ ไม่แบกน้ำหนักด้านข้างของกระดูกเชิงกราน ,
หรือกะลำตัวได้ดีกว่า weight-bearing ด้าน ;
เหล่านี้สามารถเรียกว่า " ความเคลื่อนไหว " กล การตอบสนองตัวแปร
ถูกสังเกตในผู้ป่วยบางน้อยกว่าเจ็ด
ปีของอายุและการทดสอบจะไม่มีคุณค่าในเด็กใต้
4 อย่างไรก็ตาม