รูปภาพของ Astro Ulagamรูปภาพของ Ast

รูปภาพของ Astro Ulagam
รูปภาพของ Astro Ulagam
รูปภาพของ Astro Ulagam
Astro Ulagam ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพ
Scientists made a bizarre discovery when they took a CT scan of an ancient Buddha statue from China. Inside was a mummy sitting in the same lotus position. Further investigation revealed that the organs had been removed and replaced by scraps of paper with Chinese writing on them.

The Buddha statue, dating back to 1100 CE, belongs to the Drents Museum in the Netherlands and is currently on loan to a museum in Budapest.

“On the outside, it looks like a large statue of Buddha,” the museum said in a release quoted by Discovery News. “Scan research has shown that on the inside, it is the mummy of a Buddhist monk who lived around the year 1100.”

Experts believe that the mummy inside the statue is of Buddhist master Liu Quan, a member of the Chinese Meditation School.

After the initial scan showed the skeleton inside the statue, researchers took it to the Meander Medical Center in Amersfoort and carried out an endoscopy and additional CT scans. That is when they found the missing organs and, among a lot of unidentified material, scraps of paper with Chinese script on it. Further research is in progress.

The Museum is of the view that probably the Buddhist master ‘self-mummified’ himself. This is a long painful process involving starving oneself progressively for several years.

Self-mummification used to be a mainly Japanese practice. Discovery News describes this tortuous process in the following way. For 1000 days the monk would eat only nuts and seeds, reducing body fat to a minimum. Then, for another 1000 days a diet of roots and barks would be consumed. In the last stages, the monk would drink a poisonous tea made from the sap of the Japanese varnish tree to induce vomiting and elimination of body fluids. The toxic nature of the infusion probably helped kill off bacteria too.

Then, the skeletal monk was put in a stone tomb just fitting around the body. An air tube and a bell were provided. Every day the monk would ring the bell indicating that he was alive. When the bell stopped ringing, it was known that he had died. His mummified body would then be removed after another 1000 days and preserved. Only a handful of monks achieved this stage after the long and grueling process.

It is unclear when and how the organs were removed from this mummy. Further research is going on.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปภาพของแอสโทร Ulagamรูปภาพของแอสโทร Ulagamรูปภาพของแอสโทร Ulagamแอสโทร Ulagam ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแปลกประหลาดเมื่อพวกเขาเอาเอกซเรย์ของพุทธโบราณจากประเทศจีน ภายในมีมัมมี่ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับโลตัส ตรวจสอบการเปิดเผยว่า อวัยวะที่มีถูกเอาออก และแทนที่ ด้วยเศษกระดาษพร้อมเขียนภาษาจีนได้รูปปั้นพระพุทธรูป ไป 1100 CE เป็นของพิพิธภัณฑ์ Drents ในเนเธอร์แลนด์ และอยู่ระหว่างการกู้ยืมการพิพิธภัณฑ์ในบูดาเปสต์"ด้านนอก เหมือนรูปปั้นขนาดใหญ่ของพระพุทธเจ้า พิพิธภัณฑ์กล่าวว่า ในรุ่นที่เสนอราคา โดยการค้นหาข่าว "งานวิจัยในการสแกนได้แสดงที่ภายใน เป็นมัมมี่ของพระพุทธศาสนาที่อาศัยอยู่รอบปี 1100"ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า มัมมี่ภายในรูปปั้นเป็นของพุทธศาสนาหลักหลิว Quan สมาชิกของโรงเรียนจีนทำสมาธิหลังจากการสแกนเริ่มต้นพบโครงกระดูกอยู่ภายในรูปปั้น นักวิจัยเอาไปศูนย์แพทย์คดเคี้ยวใน Amersfoort และทำการส่องกล้องและเติม CT สแกน นั่นคือ เมื่อพวกเขาพบอวัยวะขาดหายไป และ ใน หมู่มากไม่ได้ระบุวัสดุ เศษกระดาษกับสคริปต์ภาษาจีนไว้ การวิจัยกำลังดำเนินการอยู่พิพิธภัณฑ์ของมุมมองที่คงแบบพุทธ 'เอง mummified' ตัวเองได้ นี้เป็นกระบวนการเจ็บปวดยาวนานเกี่ยวข้องกับอดอยากตัวความก้าวหน้าหลายปีมัมมี่ตนเองเคย ปฏิบัติญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ค้นหาข่าวอธิบายกระบวนการนี้เงี้ยวในวิธีต่อไปนี้ 1000 วัน พระจะกินเฉพาะถั่วและเมล็ดพืช ลดไขมันในร่างกายต่ำ แล้ว วันอื่น 1000 อาหารรากและเปลือกจะมีการบริโภค ในขั้นตอนสุดท้าย พระสงฆ์จะดื่มชาเป็นพิษผลิตจากซับต้นวานิชญี่ปุ่นก่อให้เกิดการอาเจียนและการตัดออกของของเหลวในร่างกาย ลักษณะพิษของคอนกรีตที่คงช่วยฆ่าแบคทีเรียออกไปพระสงฆ์อีกแล้ว ถูกเก็บลงในสุสานหินที่เพียงพอดีทั่วร่างกาย มีท่ออากาศและเบลล์ได้ให้ ทุกวันพระจะแหวนระฆังที่บ่งชี้ว่า เขามีชีวิตอยู่ เมื่อระฆังหยุด ringing ถูกเรียกว่า เขาเสียชีวิต ศพ mummified จะถูกเอาออกหลังจากที่อื่น 1000 วัน แล้วรักษา รีสอร์ตของพระสงฆ์ทำขั้นตอนนี้หลังจากกระบวนการยาวนาน และความเป็นที่ชัดเจนเมื่อ และวิธีจะถูกเอาออกจากมัมมี่นี้ วิจัยเพิ่มเติมเกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปภาพของ Astro Ulagam
รูปภาพของ Astro Ulagam
รูปภาพของ Astro Ulagam
Ulagam Astro ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพ
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบที่แปลกประหลาดเมื่อพวกเขาเอา CT สแกนของพระพุทธรูปโบราณจากประเทศจีน ภายในเป็นแม่นั่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกันบัว การตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าอวัยวะที่ถูกถอดออกไปและแทนที่ด้วยเศษกระดาษกับการเขียนภาษาจีนกับพวกเขา. พระพุทธรูปที่ย้อนหลังไปถึง 1100 ซีอีเป็นพิพิธภัณฑ์ Drents ในประเทศเนเธอร์แลนด์และขณะนี้อยู่ในการกู้ยืมที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงบูดาเปสต์"ด้านนอกดูเหมือนว่ารูปปั้นขนาดใหญ่ของพระพุทธเจ้า" พิพิธภัณฑ์กล่าวว่าในการเปิดตัวที่ยกมาโดยการค้นพบข่าว "การวิจัยการสแกนแสดงให้เห็นว่าข้างในนั้นก็คือแม่ของพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่รอบปี 1100" ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าแม่ภายในรูปปั้นเป็นของนายหลิวหองพุทธซึ่งเป็นสมาชิกของโรงเรียนการทำสมาธิจีน. หลังจากที่ เริ่มต้นสแกนแสดงให้เห็นโครงกระดูกภายในรูปปั้นนักวิจัยเอามันไปคดเคี้ยวศูนย์การแพทย์ใน Amersfoort และดำเนินการส่องกล้องและ CT สแกนเพิ่มเติม นั่นคือเมื่อพวกเขาพบว่าอวัยวะที่ขาดหายไปและหมู่มากของวัสดุที่ไม่ปรากฏชื่อ, เศษกระดาษที่มีสคริปต์ภาษาจีนกับมัน นอกจากนี้การวิจัยอยู่ในความคืบหน้า. พิพิธภัณฑ์มีความเห็นว่าน่าจะเป็นหลักพุทธ 'ตัวเองตายซาก' ตัวเอง นี้เป็นกระบวนการที่เจ็บปวดยาวที่เกี่ยวข้องกับการอดอาหารของตัวเองมีความก้าวหน้าเป็นเวลาหลายปี. ตนเองมัมมี่ที่ใช้จะมีการปฏิบัติที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ข่าวการค้นพบอธิบายขั้นตอนคดเคี้ยวนี้ในวิธีการดังต่อไปนี้ 1000 วันที่พระภิกษุสงฆ์จะกินถั่วเมล็ดเท่านั้นและลดไขมันในร่างกายให้น้อยที่สุด จากนั้นอีก 1,000 วันอาหารของรากและเปลือกจะถูกบริโภค ในระยะที่ผ่านมาพระภิกษุสงฆ์จะดื่มชาพิษที่ทำจากนมของต้นไม้วานิชญี่ปุ่นเพื่อทำให้อาเจียนและการกำจัดของของเหลวในร่างกาย ธรรมชาติของการฉีดสารพิษอาจจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย. จากนั้นพระภิกษุสงฆ์โครงกระดูกถูกวางในหลุมฝังศพหินเพียงกระชับทั่วร่างกาย ท่ออากาศและระฆังมีให้ ทุกวันพระจะกดกริ่งแสดงให้เห็นว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เมื่อระฆังหยุดเรียกเข้าก็เป็นที่รู้จักกันว่าเขาเสียชีวิต ร่างกายตายซากของเขาก็จะถูกลบออกหลังจากที่อื่น 1,000 วันและเก็บรักษาไว้ เพียงไม่กี่คนของพระสงฆ์ที่ประสบความสำเร็จในขั้นตอนนี้หลังจากที่กระบวนการที่ยาวและเหนื่อยมาก. มันยังไม่ชัดเจนเมื่อใดและอย่างไรอวัยวะออกจากมัมมี่นี้ นอกจากนี้การวิจัยที่เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปภาพของ Astro ulagam
รูปภาพของ Astro ulagam
รูปภาพของ Astro ulagam
ดาว ulagam ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพ
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบที่แปลกประหลาด เมื่อพวกเขาได้ทำ CT สแกนของพระพุทธรูปโบราณจากประเทศจีน ข้างในเป็นมัมมี่นั่งในตำแหน่งดอกบัวเหมือนกันการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่าอวัยวะที่ถูกถอดออกและแทนที่ด้วยเศษกระดาษกับการเขียนภาษาจีนนั้น

พระพุทธรูปย้อนกลับไป 1100 CE เป็นของ drents พิพิธภัณฑ์ในประเทศเนเธอร์แลนด์และปัจจุบันเป็นเงินกู้ให้กับพิพิธภัณฑ์ในกรุงบูดาเปส

" ด้านนอก ดูเหมือนรูปปั้น ขนาดใหญ่ของพระพุทธเจ้า " พิพิธภัณฑ์กล่าวว่าในรุ่นที่ยกมาจากข่าวการค้นพบ" สแกน การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าข้างในมันเป็นมัมมี่ของพระที่อาศัยอยู่รอบปี 1100 "

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามัมมี่ภายในรูปปั้นพุทธท่านหลิวฉวน สมาชิกของโรงเรียนสมาธิจีน

หลังจากที่เริ่มต้นสแกนพบโครงกระดูกในรูปปั้นนักวิจัยก็พาไปเดินเล่นที่ศูนย์การแพทย์ใน Amersfoort และดำเนินการส่องกล้องในระบบทางเดินอาหารและการสแกน CT เพิ่มเติม นั่นคือเมื่อพวกเขาพบว่าขาดอวัยวะ และ ในหมู่มากของกลุ่มวัสดุ เศษกระดาษจีนสคริปต์บน การวิจัยเป็นข้อมูล

พิพิธภัณฑ์เป็นมุมมองที่อาจจะสำคัญตัวเองต้นแบบ ' พุทธ ' ตัวเองนี่คือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าที่หิวโหยตัวเองเจ็บปวดยาวหลายปี

ตัวเองเป็นมัมมี่ที่ใช้เป็นภาษาญี่ปุ่นเป็นหลักในการปฏิบัติ ข่าวการค้นพบกระบวนการที่ซับซ้อนนี้อธิบายในวิธีต่อไปนี้ 1000 วัน พระจะกินถั่วและเมล็ด ลดไขมันในร่างกายให้น้อยที่สุด จากนั้น อีก 1 , 000 วันอาหารของรากและเปลือกไม้จะใช้ ในขั้นตอนสุดท้ายพระสงฆ์จะดื่มพิษชาทำจาก SAP ของต้นไม้ทาญี่ปุ่นชวนอาเจียนและการกำจัดของของเหลวในร่างกาย ลักษณะพิษของยาอาจจะช่วยฆ่าแบคทีเรียด้วย

แล้ว พระต้องถูกวางในสุสานหินแค่กระชับรอบร่างกาย มีท่ออากาศและเบลล์ได้ให้ไว้ ทุกวันพระจะกดกริ่ง บ่งบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่