Survivors were more likely to smoke

Survivors were more likely to smoke if they were younger, had less education and income, or drank more alcohol.

About 40 percent of smokers said they planned to quit within the next month, but this intention was lower among survivors who were married, older, or smoked more.

"Smoking is addictive and having cancer does not guarantee that you will stop, even if that cancer was directly tied to your smoking," said Westmaas. "We need to do more to intervene with these patients."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้รอดชีวิตมีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่ว่ามีอายุน้อยกว่า มีการศึกษาและรายได้น้อย หรือดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น

ผู้สูบบุหรี่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่า พวกเขาวางแผนจบภายในเดือนถัดไป แต่ความตั้งใจนี้ต่ำกว่าในหมู่ผู้ที่ได้แต่งงาน อายุ หรือควันขึ้น

"เป็นการเสพติดบุหรี่ และมีมะเร็งไม่รับประกันว่า คุณจะหยุด แม้ว่าโรคมะเร็งที่ถูกตรงเชื่อมโยงกับการสูบบุหรี่ของคุณ กล่าวว่า Westmaas "เราจำเป็นต้องทำมากกว่าการแทรกแซงกับผู้ป่วยเหล่านี้"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้รอดชีวิตมีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่หากพวกเขาอายุน้อยกว่ามีการศึกษาน้อยและรายได้หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นเกี่ยวกับร้อยละ 40 ของผู้สูบบุหรี่กล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะออกภายในเดือนถัดไป แต่ความตั้งใจนี้ลดลงในหมู่ผู้รอดชีวิตที่ได้รับการแต่งงานที่มีอายุมากกว่า หรือรมควันมากขึ้น"การสูบบุหรี่เป็นเสพติดและการมีโรคมะเร็งไม่ได้รับประกันว่าคุณจะหยุดแม้ว่าโรคมะเร็งที่ได้รับการเชื่อมโยงโดยตรงกับการสูบบุหรี่ของคุณ" Westmaas กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องทำมากขึ้นที่จะเข้าไปแทรกแซงกับผู้ป่วยเหล่านี้".

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้รอดชีวิตมีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่ ถ้าพวกเขายังเด็ก มีการศึกษาน้อย และรายได้ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น

ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้สูบบุหรี่กล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะเลิกภายในเดือนหน้า แต่ความตั้งใจนี้ลดลงในหมู่ผู้รอดชีวิตที่มีอายุมาก แต่งงาน หรือรมควันมากกว่า

" การสูบบุหรี่เป็นเสพติดและมี มะเร็งไม่ได้รับประกันว่าคุณจะหยุดแม้ว่ามะเร็งโดยตรงเชื่อมโยงกับการสูบบุหรี่ของคุณ " กล่าวว่า เวสต์แมส " เราต้องทำมากกว่าที่จะแทรกแซงกับผู้ป่วยเหล่านี้ "
.