HOW TO IMPROVE COLLEGE READING SKIL

HOW TO IMPROVE COLLEGE READING SKILLS IN 10 STEPS
Have you ever sat and read the same sentence in a textbook over and over without getting anything from it? Now that you're in college, the information you get from reading textbooks is often necessary for your success on tests. That's why knowing how to approach reading for college is important. The following steps will help you improve your reading skills and make the most of your college education.
Preview the text to get an overall idea of what it's about. Read the chapter titles and section headings. Look over the photographs or illustrations and any side notes or special features in the margins. Scan the text for any bolded terms. If there are questions at the end of the chapter, preview those, too.

Focus your reading by deciding on a purpose. Of course you are reading because you are required to for the class, but choosing another purpose will help you stay on track as you read. For example, if the assigned reading is a chapter from your history textbook about the Cold War, one purpose for reading might be to discover the major players in the war, or the major causes of the war. Use the 5 "Ws" in setting your purpose: Who, what, when, where and why.

Keep track of what you read by taking notes. There are a variety of ways to take notes. Some people prefer to jot down important ideas in a notebook. Others might create an outline. If you learn best by seeing the text in graphic form, try creating a chart or diagram or even sketching pictures of what you read.

Mark the text in your book. If you own the book and are comfortable with writing in it, use a highlighter to capture key ideas. Write notes in the margins, including definitions for difficult words or points your instructor makes during lectures. If you don't own the book or prefer not to write in it, use sticky notes instead; stick them right in your book.

Be certain you've understood what you've read by stopping after each chunk of text and summarize the main ideas. If you're working in a study group, stop after each paragraph and have each person write a summary of the paragraph. Then compare summaries so no one misses any key points.

Paraphrase bits of text, especially those that are difficult to understand. When you paraphrase something, you essentially translate it into your own words.

Stop and look up a word only if knowing the word is essential to understanding the text. If the sentence still makes sense even if you do not know the word, skip it and keep on reading. If you're curious about the word, look it up later, but don't let it interfere with your reading. A good way to remember new words is to create flashcards and quiz yourself.

Ask questions about things you don't understand. One way to do this is to jot questions down on sticky notes and stick them in the margin of the text. Then look for the answers to the questions as you continue reading. If you can't find the answers, ask a classmate or your instructor.

Read critically, or question the text. Look for the main points the author of the text is trying to make. Ask yourself if the main ideas of the text are supported with evidence and if the evidence is logical and reliable. Look for any holes in the ideas presented, and don't be afraid to challenge ideas you don't agree with.


Reread the text. You don't have to reread the whole text, especially if it's very long, but you will benefit from rereading sections that are either very complicated or that you had a lot of questions about.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการพัฒนาทักษะการอ่านของวิทยาลัยใน 10 ขั้นตอน มีคุณเคยนั่ง และอ่านประโยคเดียวในหนังสือเล่าโดยไม่ได้รับอะไรจากมัน ข้อมูลที่คุณได้รับจากการอ่านหนังสือเป็นมักจะจำเป็นสำหรับความสำเร็จในการทดสอบที่คุณอยู่ในวิทยาลัย จึงรู้ว่าวิธีอ่านวิทยาลัยเป็นสำคัญ ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยคุณพัฒนาทักษะการอ่าน และให้มากสุดของการศึกษาของวิทยาลัยแสดงตัวอย่างข้อความได้รับความคิดโดยรวมของมันคืออะไรเกี่ยวกับการ อ่านชื่อเรื่องของบทและส่วนหัว มองเห็นภาพ หรือภาพประกอบ และกระดาษทด หรือคุณลักษณะพิเศษในระยะขอบ สแกนข้อความในเงื่อนไขใดหนา ถ้ามีคำถามท้ายบท การแสดงตัวอย่าง เกินไป เน้นการอ่าน ด้วยการตัดสินใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ แน่นอนคุณจะอ่าน เพราะคุณจะต้องสำหรับคลาส แต่การเลือกวัตถุประสงค์อื่นจะช่วยให้คุณอยู่บนแทร็กคุณอ่าน ตัวอย่าง ถ้าอ่านกำหนด บทจากหนังสือประวัติของคุณเกี่ยวกับสงครามเย็น วัตถุประสงค์หนึ่งที่อ่านอาจจะได้ผู้เล่นสำคัญในสงคราม หรือสาเหตุหลักของสงคราม ใช้ 5 "Ws" ในการตั้งจุดประสงค์: ใคร อะไร เมื่อ ที่ และทำไม เก็บติดตามของสิ่งที่อ่าน โดยการจดบันทึก มีหลากหลายวิธีในการจดบันทึก บางคนชอบจดบันทึกความคิดที่สำคัญในสมุดบันทึก คนอื่นอาจสร้างเค้าร่าง ถ้าคุณเรียนรู้ส่วน โดยการดูข้อความในรูปแบบ พยายามสร้างแผนภูมิหรือไดอะแกรม หรือแม้ร่างภาพของสิ่งที่คุณอ่าน Mark the text in your book. If you own the book and are comfortable with writing in it, use a highlighter to capture key ideas. Write notes in the margins, including definitions for difficult words or points your instructor makes during lectures. If you don't own the book or prefer not to write in it, use sticky notes instead; stick them right in your book. Be certain you've understood what you've read by stopping after each chunk of text and summarize the main ideas. If you're working in a study group, stop after each paragraph and have each person write a summary of the paragraph. Then compare summaries so no one misses any key points. Paraphrase bits of text, especially those that are difficult to understand. When you paraphrase something, you essentially translate it into your own words. Stop and look up a word only if knowing the word is essential to understanding the text. If the sentence still makes sense even if you do not know the word, skip it and keep on reading. If you're curious about the word, look it up later, but don't let it interfere with your reading. A good way to remember new words is to create flashcards and quiz yourself. Ask questions about things you don't understand. One way to do this is to jot questions down on sticky notes and stick them in the margin of the text. Then look for the answers to the questions as you continue reading. If you can't find the answers, ask a classmate or your instructor. Read critically, or question the text. Look for the main points the author of the text is trying to make. Ask yourself if the main ideas of the text are supported with evidence and if the evidence is logical and reliable. Look for any holes in the ideas presented, and don't be afraid to challenge ideas you don't agree with. Reread the text. You don't have to reread the whole text, especially if it's very long, but you will benefit from rereading sections that are either very complicated or that you had a lot of questions about.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการพัฒนาทักษะการอ่าน COLLEGE ในขั้นตอน 10
คุณเคยนั่งและอ่านประโยคเดียวกันในตำราเรียนซ้ำแล้วซ้ำโดยไม่ได้รับอะไรจากมันได้หรือไม่ ตอนนี้คุณอยู่ในวิทยาลัยข้อมูลที่คุณได้รับจากการอ่านตำรามักจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จของคุณในการทดสอบ นั่นเป็นเหตุผลที่รู้วิธีการวิธีการอ่านสำหรับวิทยาลัยเป็นสิ่งสำคัญ ขั้นตอนต่อไปจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการอ่านของคุณและให้มากที่สุดของการศึกษาวิทยาลัยของคุณ.
ดูตัวอย่างข้อความที่จะได้รับความคิดโดยรวมของสิ่งที่มันเป็นเรื่องของ อ่านชื่อบทและส่วนหัว มองผ่านรูปถ่ายหรือภาพและบันทึกข้างเคียงใด ๆ หรือคุณสมบัติพิเศษในขอบ สแกนข้อความสำหรับคำที่เป็นตัวหนาใด ๆ หากมีข้อสงสัยในตอนท้ายของบทที่แสดงตัวอย่างเหล่านั้นด้วย. มุ่งเน้นการอ่านของคุณโดยการตัดสินใจในวัตถุประสงค์ แน่นอนคุณจะอ่านเพราะคุณจะต้องเรียน แต่เลือกวัตถุประสงค์อื่นจะช่วยให้คุณอยู่ในการติดตามที่คุณอ่าน ตัวอย่างเช่นถ้าอ่านที่ได้รับมอบหมายเป็นบทจากตำราประวัติศาสตร์ของคุณเกี่ยวกับสงครามเย็นวัตถุประสงค์หนึ่งสำหรับการอ่านอาจจะมีการค้นพบผู้เล่นที่สำคัญในการทำสงครามหรือในสาเหตุสำคัญของสงคราม ใช้ 5 "Ws" ในการตั้งวัตถุประสงค์ของคุณ:. ใครอะไรเมื่อไหร่ที่ไหนและทำไมติดตามสิ่งที่คุณอ่านได้โดยการจดบันทึก มีความหลากหลายของวิธีการจดบันทึกเป็น บางคนชอบที่จะจดความคิดที่สำคัญในสมุดบันทึก อื่น ๆ อาจสร้างเค้าร่าง หากคุณเรียนรู้ที่ดีที่สุดโดยเห็นข้อความในรูปแบบกราฟิกลองสร้างแผนภูมิหรือแผนภาพหรือแม้กระทั่งการวาดภาพของสิ่งที่คุณอ่าน. มาร์คข้อความในหนังสือของคุณ หากคุณเป็นเจ้าของหนังสือและมีความสะดวกสบายกับการเขียนในนั้นใช้เน้นที่จะจับความคิดที่สำคัญ เขียนบันทึกกำไรรวมถึงคำจำกัดความของคำยากหรือจุดที่อาจารย์ของคุณทำให้ระหว่างการบรรยาย หากคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหนังสือหรือไม่ต้องการที่จะเขียนในนั้นใช้บันทึกเหนียวแทน; ติดพวกเขาที่ถูกต้องในหนังสือของคุณ. เป็นบางอย่างที่คุณเข้าใจสิ่งที่คุณอ่านโดยการหยุดหลังจากที่แต่ละก้อนของข้อความและสรุปความคิดหลัก หากคุณกำลังทำงานอยู่ในกลุ่มการศึกษา, หยุดหลังจากแต่ละย่อหน้าและแต่ละคนเขียนบทสรุปของวรรคที่ แล้วเปรียบเทียบสรุปจึงไม่มีใครคิดถึงจุดสำคัญใด ๆ . การแปลความหมายของข้อความบิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความยากที่จะเข้าใจ เมื่อคุณถ่ายสิ่งที่คุณเป็นหลักแปลเป็นคำของคุณเอง. หยุดและมองหาคำเฉพาะในกรณีที่รู้ว่าคำว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการทำความเข้าใจข้อความ ถ้าประโยคที่ยังคงทำให้รู้สึกถึงแม้คุณจะไม่ทราบว่าคำว่าข้ามมันและให้การอ่าน ถ้าคุณอยากรู้เกี่ยวกับคำว่าดูมันขึ้นภายหลัง แต่อย่าให้มันยุ่งเกี่ยวกับการอ่านของคุณ วิธีที่ดีที่จะจำคำศัพท์ใหม่คือการสร้างบัตรคำศัพท์และตอบคำถามตัวเอง. ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ วิธีหนึ่งที่จะทำนี้คือการจดคำถามลงบนบันทึกเหนียวและติดไว้ในอัตรากำไรขั้นต้นของข้อความ แล้วมองหาคำตอบของคำถามที่คุณอ่านต่อ ถ้าคุณไม่สามารถหาคำตอบให้ถามเพื่อนร่วมชั้นหรืออาจารย์ของคุณ. อ่านวิกฤตหรือคำถามข้อความ มองหาจุดหลักของการเขียนข้อความที่มีการพยายามที่จะทำให้ ถามตัวเองว่าคิดหลักของข้อความที่ได้รับการสนับสนุนที่มีหลักฐานและถ้าหลักฐานเป็นตรรกะและเชื่อถือได้ มองหาหลุมใด ๆ ในความคิดที่นำเสนอและไม่กลัวที่จะท้าทายความคิดของคุณไม่เห็นด้วยกับ. Reread ข้อความ คุณจะได้ไม่ต้องอ่านข้อความทั้งหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันนานมาก แต่คุณจะได้รับประโยชน์จากส่วน rereading ที่มีทั้งความซับซ้อนมากหรือว่าคุณมีจำนวนมากของคำถามเกี่ยวกับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการปรับปรุงทักษะการอ่านในวิทยาลัย 10 ขั้นตอน
คุณเคยนั่งอ่านประโยคเดียวกันในตำราซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่ได้รับอะไรจากมัน ? ตอนนี้เธออยู่ที่วิทยาลัย ข้อมูลที่คุณได้รับจากการอ่านตำรามักจะจำเป็นสำหรับความสำเร็จของคุณในการทดสอบ นั่นคือเหตุผลที่รู้วิธีการอ่านสำหรับวิทยาลัยเป็นสำคัญขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการอ่านของคุณและให้มากที่สุดของวิทยาลัย .
ตัวอย่างข้อความที่จะได้รับความคิดโดยรวมของสิ่งที่มันเกี่ยวกับ อ่านชื่อบท และส่วนหัวของส่วน ดูรูปถ่ายหรือภาพประกอบ และด้านใดด้านหนึ่งบันทึกย่อหรือลักษณะพิเศษในการตลาด scan the ฆ่าขวา any bolded terms . หากมีข้อสงสัยในตอนท้ายของบทpreview those ของ .

เน้นการอ่านของคุณโดยการตัดสินใจในวัตถุประสงค์ ของหลักสูตรที่คุณกำลังอ่าน เพราะคุณจะต้องให้เรียน แต่เลือกทางอื่นจะช่วยให้คุณอยู่ในการติดตามที่คุณอ่าน ตัวอย่างเช่นถ้ากำหนดให้อ่านเป็นบทจากตำราประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามเย็น หนึ่งเป้าหมายสำหรับการอ่านอาจจะค้นพบผู้เล่นหลักในสงครามหรือหลักสาเหตุของสงคราม ใช้ 5 " คือ " ในการตั้งค่าเป้าหมายของคุณ : ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ และทำไม

ติดตามสิ่งที่คุณได้อ่านโดยการบันทึก มีความหลากหลายของวิธีการจดบันทึก บางคนชอบที่จะจดความคิดสำคัญในโน๊ตบุ๊ค คนอื่น ๆอาจสร้างเค้าร่าง ถ้าคุณเรียนรู้ที่ดีที่สุดโดยดูจากข้อความในรูปแบบกราฟิกลองสร้างแผนภูมิหรือแผนภาพหรือแม้แต่ร่างภาพของสิ่งที่คุณอ่าน

มาร์คข้อความในหนังสือของคุณ ถ้าคุณเป็นเจ้าของหนังสือ และคุ้นเคยกับการเขียนมัน ใช้เน้นที่จะจับความคิดหลัก เขียนบันทึกในขอบ รวมทั้งคำนิยามสำหรับคำยาก หรือจุดที่อาจารย์ของคุณทำให้ในระหว่างการบรรยาย หากคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหนังสือ หรือชอบที่จะเขียนในนั้นuse notes ลิ่มอีกที ; stick them right in แต่ว่าพวกเขาใน

ได้แน่นอนคุณก็เข้าใจสิ่งที่คุณได้อ่านโดยการหยุดหลังจากที่แต่ละชิ้นของข้อความและสรุปแนวคิดหลัก ถ้าคุณกำลังทำงานในกลุ่ม หลังจบแต่ละย่อหน้า และแต่ละคนก็เขียนสรุปของย่อหน้า แล้วเปรียบเทียบสรุปแล้วไม่มีใครคิดถึงทุกจุดที่สำคัญ

ถอดความบิตของข้อความโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยากจะเข้าใจ เมื่อคุณถอดความบางอย่าง คุณเป็นหลักที่แปลเป็นคำพูดของคุณเอง เก็บกวาดเก็บกวาดผลิตภัณฑ์ ( นี่ก็อยู่ knowing เรื่องนี้เลย the พาสปอร์ต to understanding the text . ถ้าประโยคยังทำให้รู้สึกถ้าคุณไม่รู้จักคำว่าข้ามมันและเก็บในการอ่าน ถ้าคุณกำลังสงสัยเกี่ยวกับคำว่า ดูมันขึ้นในภายหลังแต่อย่าให้มันมายุ่งกับการอ่านของคุณ เป็นวิธีที่ดีที่จะได้คำใหม่คือการสร้าง flashcards และทดสอบด้วยตัวคุณเอง

ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ วิธีหนึ่งที่จะทำเช่นนี้คือการจดคำถามลงในบันทึกย่อ และติดพวกเขาในส่วนของข้อความ then นี่ for F to และจะเรียก reading . ถ้าคุณไม่สามารถหาคำตอบ