in america, law is a post-graduate

in america, law is a post-graduate study. students take twelve years of primary and secondary education, typically finishing at about age 18. they then have four years of undergraduate college study. many work for a year or two thereafter, although they are eligible to enter law school immediately. they stay at law school for three or more years and receive the JD degree. (Up until the late 1960s, this same degree was called the LL.B. degree.) The average age of law graduates is as high as 29 at many law schools. There are graduate programs, often utilized by foreign students more than Americans, at many of the larger law schools. these programs are mostly research oriented and require the submission of a lengthy thesis. Typically, a masters degree (LLM) and a doctors degree (SJD) are offered. (The Doctor of Laws, LLD, is usually only an honorary degree, given not for law study but for meritorious service.) Some schools also offer a special degree program to foreign students, which leads to a master of comparative law (MCL) or a master of legal institutions (MLI) degree. These programs often stress classroom instruction in addition to legal research. Admission to law school has become very competitive. Some schools accept only one applicant in five, or even ten. However , there are many schools available. There are some 174 accredited law schools, plus several more that are not accredited, and they take in about 40,000 new students each year. About 40% of these students are women and 10% are minorities. There are both private and public law schools. Many draw their students from all over the United States. Tuition costs can vary from less than $5,000 to more than $25,000 per year. In most public law schools, students who are not residents of the state involved pay higher tuition than resident students

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในอเมริกา กฎหมายเป็นการศึกษาบัณฑิต นักเรียนนำหลัก และมัธยมศึกษา เสร็จสิ้นโดยทั่วไปที่เกี่ยวกับอายุ 18 ปี 12 แล้วพวกเขาได้ศึกษาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี 4 ปี หลายได้ปีหรือสองหลัง แม้ว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะป้อนโรงเรียนกฏหมายทันที ที่พักโรงเรียนกฎหมายอย่าง น้อย 3 ปี และได้รับปริญญา JD (จนถึงปี 1960 ปลาย ระดับเดียวกันมีเรียกปริญญา LL.B.) อายุเฉลี่ยของผู้สำเร็จการศึกษากฎหมายเป็นสูง 29 โรงเรียนกฎหมายหลาย มีบัณฑิต มักใช้ โดยนักเรียนต่างชาติมากกว่าชาวอเมริกัน ที่โรงเรียนกฎหมายใหญ่มากมาย โปรแกรมเหล่านี้เป็นส่วนใหญ่เน้นวิจัย และต้องส่งวิทยานิพนธ์ความยาว โดยปกติ ระดับปริญญาโท (LLM) และปริญญาแพทย์ (SJD) ด้าม (หมอกฎหมาย LLD เป็นปกติเฉพาะการกิตติมศักดิ์ปริญญา ให้ การศึกษากฎหมายไม่ แต่บริการ meritorious) บางโรงเรียนยังมีปริญญาพิเศษเพื่อนักเรียนต่างประเทศ ซึ่งนำไปสู่หลักการของกฎหมายเปรียบเทียบ (MCL) หรือหลักกฎหมายสถาบัน (MLI) ปริญญา โปรแกรมเหล่านี้มักจะเครียดสอนห้องเรียนเพิ่มเติมจากงานวิจัยทางกฎหมาย เข้าศึกษาโรงเรียนกฎหมายได้กลายเป็นมีการแข่งขันสูง บางโรงเรียนรับสมัครเพียงหนึ่งในห้า หรือแม้กระทั่งสิบ อย่างไรก็ตาม มีโรงเรียนมากมาย มีบางโรงเรียนได้รับการรับรองกฎหมาย 174 บวกหลายที่จะไม่ได้รับการรับรอง และใช้นักเรียนใหม่ประมาณ 40000 แต่ละปี ประมาณ 40% ของนักเรียนหญิง และ 10% คมิ มีทั้งส่วนตัวและโรงเรียนกฎหมายมหาชน มากวาดของนักเรียนจากทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ต้นทุนค่าเล่าเรียนจะแตกต่างจากน้อยกว่า $5000 ไปกว่า $25000 ต่อปี ในโรงเรียนกฎหมายมหาชนส่วนใหญ่ นักเรียนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐเกี่ยวข้องกับชำระค่าเล่าเรียนสูงกว่านักเรียนที่มีถิ่นที่อยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในอเมริกากฎหมายคือการศึกษาหลังจบการศึกษา นักเรียนใช้เวลาสิบสองปีของการศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษามักจะจบเมื่ออายุประมาณ 18 พวกเขาก็มีสี่ปีของการศึกษาระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัย การทำงานหลายปีหรือสองปีหลังจากนั้นแม้ว่าพวกเขาจะมีสิทธิ์ที่จะเข้าโรงเรียนกฎหมายทันที พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนกฎหมายเป็นเวลาสามปีหรือมากกว่าและได้รับการศึกษาระดับปริญญา JD (จนถึงช่วงปลายทศวรรษที่ 1960, ระดับเดียวกันนี้ถูกเรียกว่าการศึกษาระดับปริญญานิติศาสตร์บัณฑิตได้.) อายุเฉลี่ยของกฎหมายเป็นผู้สำเร็จการศึกษาสูงถึง 29 ในโรงเรียนกฎหมายจำนวนมาก มีหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา, มักจะใช้โดยนักศึกษาต่างชาติมากกว่าชาวอเมริกันที่หลายที่มีขนาดใหญ่ในโรงเรียนกฎหมาย โปรแกรมเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานวิจัยที่มุ่งเน้นและจำเป็นต้องมีการส่งวิทยานิพนธ์ยาว โดยปกติปริญญาโท (LLM) และปริญญาแพทย์ (SJD) มีให้บริการ (หมอนิติแนวหน้าคือมักจะมีเพียงปริญญากิตติมศักดิ์ที่ได้รับไม่ได้สำหรับการศึกษากฎหมาย แต่สำหรับความดีความชอบ.) บางโรงเรียนยังมีหลักสูตรปริญญาพิเศษให้กับนักศึกษาต่างชาติซึ่งนำไปสู่​​ต้นแบบของกฎหมายเปรียบเทียบ (MCL) หรือ หลักของสถ​​าบันทางกฎหมาย (MLI) การศึกษาระดับปริญญา โปรแกรมเหล่านี้มักจะเน้นการเรียนการสอนนอกเหนือไปจากการวิจัยทางกฎหมาย เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนกฎหมายได้กลายเป็นที่แข่งขันมาก บางโรงเรียนรับสมัครเพียงหนึ่งในห้าหรือสิบ แต่มีหลายโรงเรียนที่มีอยู่ มีบาง 174 โรงเรียนกฎหมายได้รับการรับรองรวมทั้งอีกหลายคนที่ไม่ได้รับการรับรองและพวกเขาใช้เวลาในการประมาณ 40,000 นักเรียนใหม่ในแต่ละปี ประมาณ 40% ของนักเรียนเหล่านี้เป็นผู้หญิงและ 10% เป็นชนกลุ่มน้อย มีทั้งโรงเรียนกฎหมายภาครัฐและเอกชนที่มี หลายคนวาดนักเรียนของพวกเขาจากทั่วทุกมุมของประเทศสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอนจะแตกต่างจากน้อยกว่า $ 5,000 ถึงกว่า $ 25,000 ต่อปี ในโรงเรียนกฎหมายประชาชนส่วนใหญ่นักเรียนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าเล่าเรียนสูงกว่านักเรียนที่มีถิ่นที่อยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอเมริกา กฎหมายคือ หลังจบการศึกษา นักเรียนใช้เวลาสิบสองปีของการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยทั่วไปจบที่ประมาณอายุ 18 จากนั้นพวกเขาได้สี่ปีของการศึกษาวิทยาลัย ระดับปริญญาตรี งานจำนวนมากสำหรับปีหรือสองปีหลังจากนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีสิทธิเข้าเรียนกฎหมายได้ทันที พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนกฎหมายสามปีหรือมากกว่าและได้รับ JD ระดับ( จนถึงปลายทศวรรษ 1960 ระดับเดียวกันนี้ถูกเรียกว่า น.บ. ปริญญาตรี ) อายุเฉลี่ยของบัณฑิตกฎหมายสูงถึง 29 โรงเรียนกฎหมายหลาย มีโปรแกรมปริญญาโท มักใช้โดย นักศึกษาต่างชาติมากกว่าชาวอเมริกันที่หลายโรงเรียนกฎหมายที่ใหญ่กว่า โปรแกรมเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเน้นวิจัย และต้องส่งวิทยานิพนธ์ที่ยาวเกินไป โดยทั่วไปแล้วปริญญาโท ( LLM ) และปริญญาแพทย์ ( SJD ) เสนอ ( แพทย์ กฎหมาย นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต มักเป็นเพียงปริญญากิตติมศักดิ์ให้ไม่ได้เรียนกฎหมาย แต่ความดีความชอบ ) บางโรงเรียนยังเสนอโปรแกรมการศึกษาระดับปริญญาพิเศษกับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งนำไปสู่การเป็นอาจารย์ของกฎหมายเปรียบเทียบ ( mcl ) หรือต้นแบบของสถาบันทางกฎหมาย ( MK ) องศาโปรแกรมเหล่านี้มักจะเน้นการเรียนการสอน นอกจากนี้ในการวิจัยทางกฎหมาย เข้าเรียนโรงเรียนกฎหมายได้กลายเป็นที่แข่งขันมาก บางโรงเรียนรับเฉพาะผู้สมัครหนึ่งในห้า หรือสิบ อย่างไรก็ตาม มีโรงเรียนมากมาย มีบางพวกได้รับการรับรองโรงเรียนกฎหมาย บวกอีกหลายอย่างที่ไม่ได้รับรอง และพวกเขาก็ใช้ประมาณ 40 , 000 นักเรียนใหม่ในแต่ละปีประมาณ 40% ของนักเรียนเหล่านี้เป็นผู้หญิง และร้อยละ 10 เป็นชนกลุ่มน้อย มีทั้งกฎหมายภาครัฐและเอกชนโรงเรียน มากวาดนักเรียนจากทั่วสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนจะแตกต่างกันจากน้อยกว่า $ 5 , 000 ถึงมากกว่า $ 25 , 000 ต่อปี ในโรงเรียนกฎหมายมากที่สุด นักศึกษาที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐ เกี่ยวข้อง จ่ายค่าเล่าเรียนสูงกว่านักเรียนถิ่น