At the end of the study, the resear

At the end of the study, the researcher compares the scores from each treatment with the scores from every other treatment. If there are consistent differences between treatments, the researcher can conclude that the differences have been caused by the treatment conditions. For example, a researcher may compare memory scores for a list of one-syllable words with scores for a list of two-syllable words. By showing that there are consistent differences between the two groups of scores, the researcher can demonstrate that memory is related to the number of syllables in the words (that is, the number of syllables causes differences in memory).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จบการศึกษา นักวิจัยเปรียบเทียบคะแนนจากแต่ละทรีทเม้นต์ ด้วยคะแนนจากทุกการรักษาอื่น ๆ ถ้ามีความแตกต่างที่สอดคล้องกันระหว่างบำบัด นักวิจัยสามารถสรุปว่า ความแตกต่างที่เกิดจากการรักษาเงื่อนไข ตัวอย่าง นักวิจัยอาจเปรียบเทียบคะแนนหน่วยความจำสำหรับรายการของคำพยางค์เดียว ด้วยคะแนนสำหรับรายการของคำสองพยางค์ โดยแสดงว่า มีความแตกต่างที่สอดคล้องกันระหว่างสองกลุ่มคะแนน นักวิจัยสามารถแสดงหน่วยความจำที่เกี่ยวข้องกับจำนวนพยางค์ในคำที่ (นั่นคือ จำนวนพยางค์สาเหตุความแตกต่างในหน่วยความจำ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในตอนท้ายของการศึกษานักวิจัยเปรียบเทียบคะแนนจากการรักษาด้วยคะแนนจากแต่ละทุกการรักษาอื่น ๆ หากมีความแตกต่างที่สอดคล้องกันระหว่างการรักษานักวิจัยสามารถสรุปได้ว่าแตกต่างที่มีสาเหตุมาจากสภาพการรักษา ตัวอย่างเช่นนักวิจัยอาจเปรียบเทียบคะแนนหน่วยความจำสำหรับรายการของคำหนึ่งพยางค์ที่มีคะแนนสำหรับรายการของคำสองพยางค์ โดยแสดงให้เห็นว่ามีความแตกต่างที่สอดคล้องกันระหว่างสองกลุ่มของคะแนนนักวิจัยสามารถแสดงให้เห็นหน่วยความจำที่มีความเกี่ยวข้องกับจำนวนพยางค์ในคำพูด (นั่นคือจำนวนพยางค์ที่ทำให้เกิดความแตกต่างในหน่วยความจำ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในตอนท้ายของผู้วิจัยเปรียบเทียบคะแนนที่ได้จากการรักษาแต่ละกับคะแนนที่ได้จากทุก ๆ การรักษา หากมีความแตกต่างกันระหว่างการรักษา ผู้วิจัยสามารถสรุปได้ว่า ความแตกต่างเกิดจากเงื่อนไขการรักษา ตัวอย่างเช่นนักวิจัยอาจเปรียบเทียบคะแนนหน่วยความจำสำหรับรายการของคำหนึ่งพยางค์ด้วยคะแนนสำหรับรายการสองพยางค์คำ แสดงได้ว่ามีความแตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มของคะแนน ผู้วิจัยสามารถแสดงหน่วยความจำที่เกี่ยวข้องกับจำนวนพยางค์ในคำ ( นั่นคือจำนวนพยางค์ที่ทำให้ความแตกต่างในหน่วยความจำ )