It took more than 20 years to broad

It took more than 20 years to broadly accept that mankind is causing global warming with the emission of greenhouse gases. The drastic increase in the emission of CO2 (carbon dioxide) within the last 30 years caused by burning fossil fuels has been identified as the major reason for the change of temperature in the atmosphere (click the following link for a summary and graphs about the cause and effects of global warming ).
More than 80% of the world-wide energy demand is currently supplied by the fossil fuels coal, oil or gas. It will be impossible to find alternative sources, which could replace fossil fuels in the short or medium term. The energy demand is simply too high.
Another issue is the non-renewable characteristic of fossil fuels: It took nature millions of years to generate these resources, however we will have used them up within the next decades. Alone the shrinking supply will not make it possible to continue as usual for a longer time.
The main cause of global warming is our treatment of Nature
• Why have warnings about climate change been ignored for more than 20 years?
• Why were ever more scientific evidence demanded to find the coherence of man-made CO2 emissions as cause of global warming? Why wasn't common sense reason enough to act?
• Why can one still today find people who stick their head in the sand and don't want to understand what's going on in the earth's atmosphere?
• Why do most people refuse to change their personal behavior voluntary in order to reduce CO2 emissions caused by their activities?
The answer to all these questions is a rather simple one:
In our technology and scientific minded world, we seem to have forgotten that mankind is only a relatively minor part of Nature. We ignore being part of a larger whole.
We believe to be able to control Nature instead of trying to arrange ourselves with Nature. This haughtiness is the true main cause of global warming. As a matter of fact, some people still believe that technical solutions alone would be sufficient to fight global warming.
Although we are guests on Earth, we behave as if no further visitors would arrive after us. It's like having a wild party where we destroy beds, the kitchen as well as the living room of a hotel without ever thinking about our future staying in the hotel nor about other guests arriving later.
The lesson from global warming is to base all decisions on deep respect and consideration for Nature.
In addition, our unit of measure is more and more often money only. What has no price tag, seems to have no value to us any more. In doing so we mix up economic growth with general well-being and financial income with personal happiness, respectively.
There is a loss of value behind this attitudes. We got blind for the true reason of our incarnation on earth:
We live here to train those traits , which will finally lead to perpetual harmony with ourselves and with our environment as well as to inner calm and peace.

The ultimate global warming solutions is to behave as part of a larger whole
Many people between 20 and 65 years seem to live for the one and only purpose of earning as much money as possible in order to be able to buy as many things as possible. In this light, it is not surprising that discussions about potential solutions to fight global warming concentrate on technical measures instead of a fundamental change of our attitude to life in general and to Nature in particular.
Someone who respects Nature and regards mankind as a part of a larger whole would never dream about using up non-renewable resources in a short time nor would this person contaminate the environment with gigantic amounts of pollution. By contrary, someone who respects Nature and regards mankind as a part of a larger whole would in all decisions carefully evaluate any effects on Nature. The preservation of Nature would be given a very high priority. On this base, it wouldn't have been possible to deny and ignore global warming for more than 20 years!

It's your personal decision whether you want to be the cause of global warming
In this context the question is whether global warming and its effects will eventually wake up mankind and spark off a change of paradigm. Will we understand this hint of Nature to follow the true meaning of life or will we continue to let us manipulate by media and advertisement as sheer and willing consumers in the economic cycle? Will we continue to strive for power, prestige and possessions following the concept „the more the better "? Shall economic growth and an ever increasing personal income continue to be the reason for being here, beyond everything else?
These questions can and must be answered by everyone. It is not primarily a decision of politicians or of the government. Everyone has to make a personal decision.
It is in our very own interest to induce fundamental changes in our attitude and behavior towards Nature: Modesty and humility, admiration and respect for all life on Earth instead of arrogance and haughtiness.
Let's emphasize it again: Not the others need to change, we must change ourselves. There are no international treaties or additional national laws required to start changing. We can start to change our consciousness immediately. It is really only about our personal behaviour - independent of what others do or don't do.
It's time for change!

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันต้องใช้เวลากว่า 20 ปีที่จะยอมรับในวงกว้างมนุษย์ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มขึ้นอย่างมากในการปล่อย CO2 (คาร์บอนไดออกไซด์) ภายในช่วง 30 ปีที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้รับการระบุว่าเป็นเหตุผลที่สำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ (คลิกที่ลิงค์ต่อไปนี้สำหรับการสรุปและกราฟเกี่ยวกับสาเหตุ และผลกระทบของภาวะโลกร้อน).
กว่า 80% ของความต้องการพลังงานทั่วโลกจะจัดในขณะนี้โดยเชื้อเพลิงฟอสซิลถ่านหินน้ำมันหรือก๊าซ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหาแหล่งทางเลือกซึ่งสามารถใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในระยะสั้นหรือขนาดกลาง ความต้องการพลังงานเป็นเพียงสูงเกินไป.
ปัญหาก็คือลักษณะที่ไม่หมุนเวียนเชื้อเพลิงฟอสซิล: มันเอาธรรมชาติล้านปีในการสร้างทรัพยากรเหล่านี้ แต่เราจะได้ใช้พวกเขาภายในสิบปีข้างหน้า คนเดียวอุปทานหดตัวจะไม่ทำให้มันเป็นไปได้ที่จะดำเนินการได้ตามปกติเป็นเวลานาน.
สาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนของเราคือการรักษาธรรมชาติ
•ทำไมมีคำเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรับการปฏิเสธมานานกว่า 20 ปี?
•ทำไมเคยวิทยาศาสตร์มากขึ้น หลักฐานการเรียกร้องที่จะหาการเชื่อมโยงกันของมนุษย์สร้างขึ้นการปล่อย CO2 เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน? ทำไมไม่ได้เป็นเหตุผลสามัญสำนึกมากพอที่จะทำหน้าที่?
•ทำไมยังคงเป็นหนึ่งในวันนี้สามารถหาคนที่ติดหัวของพวกเขาในทรายและไม่ต้องการที่จะเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของโลก?
•ทำไมคนส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนพวกเขา ? พฤติกรรมส่วนบุคคลความสมัครใจในการที่จะลดการปล่อย CO2 ที่เกิดจากกิจกรรมของพวกเขา
คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ทั้งหมดเป็นค่อนข้างง่ายหนึ่ง:
ในด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์โลกใจของเราเราดูเหมือนจะลืมว่ามนุษย์เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของธรรมชาติ เราไม่สนใจเป็นส่วนหนึ่งของทั้งขนาดใหญ่.
เราเชื่อว่าจะสามารถที่จะควบคุมธรรมชาติแทนการพยายามที่จะจัดให้ตัวเองด้วยธรรมชาติ ความหยิ่งยโสนี้เป็นสาเหตุหลักที่แท้จริงของภาวะโลกร้อน เป็นเรื่องของความเป็นจริงบางคนยังเชื่อว่าการแก้ปัญหาด้านเทคนิคเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอที่จะต่อสู้กับภาวะโลกร้อน.
ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแขกบนโลกที่เราทำงานเป็นถ้าใครเข้ามาต่อไปจะมาถึงหลังเรา มันเหมือนมีบุคคลที่ป่าที่เราทำลายเตียง, ห้องครัวเช่นเดียวกับห้องนั่งเล่นของโรงแรมโดยที่ไม่เคยคิดเกี่ยวกับอนาคตของเราเข้าพักในโรงแรมหรือเกี่ยวกับแขกคนอื่น ๆ ที่มาถึงช้า.
บทเรียนจากภาวะโลกร้อนคือการตัดสินใจทั้งหมดใน เคารพและคำนึงถึงธรรมชาติ.
นอกจากนี้หน่วยของเราของการวัดเป็นมากขึ้นและบ่อยขึ้นเงินเท่านั้น สิ่งที่มีป้ายราคาไม่ดูเหมือนว่าจะมีมูลค่าไม่ถึงเราใด ๆ เพิ่มเติม ในการทำเพื่อให้เราผสมขึ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีทั่วไปเป็นอยู่ที่ดีและรายได้ทางการเงินที่มีความสุขส่วนบุคคลตามลำดับ.
มีการสูญเสียของมูลค่าที่อยู่เบื้องหลังทัศนคตินี้ เรามีคนตาบอดด้วยเหตุผลที่แท้จริงของชาติของเราในแผ่นดิน
เราอยู่ที่นี่ในการฝึกอบรมลักษณะเหล่านั้นซึ่งในที่สุดก็จะนำไปสู่ความสามัคคีตลอดกับตัวเองและกับสภาพแวดล้อมของเราเช่นเดียวกับความสงบและสันติสุข. การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ดีที่สุดคือการ ประพฤติตนเป็นส่วนหนึ่งของทั้งขนาดใหญ่หลายคนระหว่าง 20 และ 65 ปีดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่เพื่อจุดประสงค์เดียวของเงินรายได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในการที่จะสามารถที่จะซื้อสิ่งที่มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในแง่นี้ก็ไม่น่าแปลกใจว่าการอภิปรายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนเข้มข้นเกี่ยวกับมาตรการทางเทคนิคแทนการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานของทัศนคติของเราไปใช้ชีวิตในทั่วไปและธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง. คนที่เคารพนับถือธรรมชาติและมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของ ทั้งที่มีขนาดใหญ่จะไม่ฝันเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรที่ไม่หมุนเวียนในเวลาอันสั้นหรือสมาชิกผู้นี้จะปนเปื้อนในสภาพแวดล้อมที่มีขนาดใหญ่ปริมาณของมลพิษ โดยทางตรงกันข้ามคนที่เคารพนับถือธรรมชาติและมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดที่มีขนาดใหญ่จะในการตัดสินใจทุกอย่างระมัดระวังในการประเมินผลกระทบต่อธรรมชาติ การอนุรักษ์ธรรมชาติจะได้รับความสำคัญสูงมาก บนฐานนี้ก็จะไม่ได้รับความเป็นไปได้ที่จะปฏิเสธและไม่สนใจภาวะโลกร้อนมานานกว่า 20 ปี! มันตัดสินใจส่วนบุคคลของคุณไม่ว่าคุณต้องการที่จะเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนในบริบทนี้คำถามคือว่าภาวะโลกร้อนและผลกระทบของมันจะ ตื่นขึ้นมาในที่สุดมนุษย์และจุดประกายการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ เราจะเข้าใจคำใบ้ของธรรมชาตินี้ให้เป็นไปตามความหมายที่แท้จริงของชีวิตหรือเราจะยังคงให้เราจัดการโดยสื่อและการโฆษณาเป็นผู้บริโภคที่แท้จริงและเต็มใจในวัฏจักรเศรษฐกิจ? เราจะยังคงมุ่งมั่นเพื่ออำนาจบารมีและทรัพย์สินต่อไปนี้แนวคิด "ยิ่งดี"? จะเติบโตทางเศรษฐกิจและเคยเพิ่มขึ้นรายได้ส่วนบุคคลยังคงเป็นเหตุผลที่มาอยู่ที่นี่เกินกว่าทุกอย่างอื่น? คำถามเหล่านี้สามารถและจะต้องตอบ . โดยทุกคนมันไม่ได้เป็นส่วนใหญ่การตัดสินใจของนักการเมืองหรือของรัฐบาลทุกคนมีที่จะทำให้การตัดสินใจส่วนบุคคล.. มันอยู่ในความสนใจของเราเองมากที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในทัศนคติและพฤติกรรมของเราที่มีต่อธรรมชาติ: ความพอประมาณและความอ่อนน้อมถ่อมตนชื่นชมและให้ความเคารพ สำหรับทุกชีวิตบนโลกแทนหยิ่งและความหยิ่งยโส. ขอเน้นอีกครั้ง.. ไม่ได้คนอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศหรือกฎหมายแห่งชาติเพิ่มเติมที่จำเป็นในการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงว่าเราสามารถเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนจิตสำนึกของเราทันที . มันเป็นเรื่องเดียวที่เกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนตัวของเรา - เป็นอิสระจากสิ่งที่คนอื่นทำหรือไม่ทำ. มันเป็นเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลง!

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันใช้เวลากว่า 20 ปี ซึ่งยอมรับว่า มนุษยชาติที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอย่างมากในการปล่อย CO2 ( คาร์บอนไดออกไซด์ ) ภายใน 30 ปี ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้รับการระบุว่าเป็น เหตุผลหลักสำหรับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ ( คลิกที่ลิงค์ต่อไปนี้เพื่อสรุปและกราฟเกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบของภาวะโลกร้อน ) .
มากกว่า 80% ของ ความต้องการพลังงานทั่วโลกกำลังจัดโดยเชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินน้ำมันหรือก๊าซ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาแหล่งอื่น ซึ่งสามารถใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในระยะสั้นหรือระยะกลาง ความต้องการพลังงานเป็นเพียงสูงเกินไป .
อีกปัญหาคือลักษณะของเชื้อเพลิงฟอสซิลไม่หมุนเวียนใช้เวลานับล้านปีในการสร้างธรรมชาติของทรัพยากรเหล่านี้ แต่เราจะใช้พวกเขาภายในทศวรรษถัดไปคนเดียวหดตัวจัดหาจะไม่ทำให้มันเป็นไปได้ที่จะยังคงเป็นปกติสำหรับเวลาที่ยาว .
เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน ของเรารักษาธรรมชาติ -
ทำไมมีคำเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถูกเพิกเฉยมานานกว่า 20 ปี
- ทำไมหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่าที่เคยเรียกร้องหาความสอดคล้องของการปล่อยก๊าซ CO2 ธรรมชาติเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ?ทำไมไม่มีสามัญสำนึกเหตุผลเพียงพอที่จะแสดง
- ทำไมวันนี้หาคนหนึ่งยังติดหัวของพวกเขาในทรายและไม่ต้องการที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในบรรยากาศโลก
- ทำไมคนส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนบุคคลของตน โดยสมัครใจ เพื่อลดการปล่อยก๊าซ CO2 ที่เกิดจากกิจกรรมของพวกเขา ?
คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ทั้งหมดคือค่อนข้างง่าย :
ในเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ใจโลกเราดูเหมือนจะลืมว่า มนุษย์เป็นเพียงส่วนน้อยของธรรมชาติ เราไม่สนใจเป็นส่วนหนึ่งของทั้งขนาดใหญ่ .
เราเชื่อว่าจะสามารถควบคุมธรรมชาติแทนการพยายามที่จะจัดตัวเองกับธรรมชาติ ความหยิ่งยโสนี้เป็นสาเหตุหลักความจริงของภาวะโลกร้อน เป็นเรื่องของความเป็นจริง