The transition period, defined as t

The transition period, defined as the period from 3
wk before to 3 wk after calving, represents a challenge
for dairy cows as milk production and DMI increase
dramatically (Bell, 1995; Grummer, 1995; Herdt, 2000).
In some cows, a lack of optimal synchronization of
these 2 processes can result in negative energy balance
(NEB; Herdt, 2000; Grummer, 2008), fat mobilization
from adipose tissue (Herdt, 2000; Weber et al., 2013),
and losses in BCS and BW (Ferguson, 1996; Grummer
and Rastani, 2003). The association of energy status
during the transition period and reproductive efficiency
in dairy cows has been demonstrated in multiple studies.
For example, a retrospective analysis of 7 studies of
prepartum nutrition found that feeding a high-energy
diet during the close-up period resulted in increased
BCS loss postpartum and increased time to pregnancy
(Cardoso et al., 2013). In addition, 2 studies found that
increases in NEFA concentrations during the transition
period were predictive of reduced risk of pregnancy by
70 d after the voluntary waiting period in evaluations
of >2,000 lactating dairy cows (Ospina et al., 2010b) or
reduced 21-d pregnancy rate in herd-level evaluations
of 60 freestall herds (Ospina et al., 2010a). Recently,a study of 156 lactating dairy cows (Garverick et al.,
2013) reported that the probability of pregnancy at
first timed AI (TAI) was decreased as serum NEFA
concentrations on d-3 postpartum increased. Other
studies also indicate a negative relationship between
postpartum NEFA or loss of BCS and fertility (López-
Gatius et al., 2003; Chapinal et al., 2012b). In contrast,
no effect of increased NEFA or BHBA concentrations
during the transition period was found in a recent
large (n = 2,365), multi-region study (Chapinal et al.,
2012a). Unfortunately, none of those studies provided
detailed information on reproductive management protocols,
except for Garverick et al. (2013). Thus, further
studies on the effects of early postpartum energy balance
on reproductive performance, particularly in herds
using systematic reproductive synchronization protocols,
could provide valuable information on biological
mechanisms regulating reproductive efficiency as well
as practical strategies for managing reproduction in
dairy herds.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลง กำหนดเป็นระยะเวลา 3สัปดาห์ก่อนไป 3 สัปดาห์หลังจาก calving แสดงความท้าทายสำหรับนมวัวเป็นนม DMI และการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก (Bell, 1995 Grummer, 1995 Herdt, 2000)ในบางวัว ขาดการซิงโครไนส์ที่เหมาะสมกระบวนการที่ 2 เหล่านี้อาจส่งผลให้สมดุลพลังงานเชิงลบ(NEB Herdt, 2000 Grummer, 2008) ไขมันระดมจากเนื้อเยื่อไขมัน (Herdt, 2000 เวเบอร์ et al. 2013),และขาดทุนใน BCS และ BW (เฟอร์กูสัน 1996 Grummerและ Rastani, 2003) ความสัมพันธ์ของสถานะพลังงานในระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านและประสิทธิภาพการสืบพันธุ์โคนมมีการวิจัยในการศึกษาหลายตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ย้อนหลังของการศึกษา 7prepartum โภชนาการพบว่าอาหารที่พลังงานสูงอาหารช่วงระยะใกล้ทำให้เพิ่มขึ้นBCS สูญเสียหลังคลอด และเพิ่มเวลาในการตั้งครรภ์(สุขภาพและฟิต et al. 2013) นอกจากนี้ 2 การศึกษาพบว่าเพิ่มความเข้มข้นของ NEFA ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาคาดการณ์การลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์โดยd 70 หลังจากระยะเวลารอสมัครใจในการประเมินของ > วัวนมนม 2000 (Ospina et al. 2010b) หรือลดอัตราการตั้งครรภ์ 21 d ในฝูงระดับการประเมินของฝูง freestall 60 (Ospina et al. 2010a) เมื่อเร็ว ๆ นี้ การศึกษาของวัวนมนม 156 (Garverick et al.,2013) รายงานว่า ความเป็นไปได้ของการตั้งครรภ์ที่ลดลงเป็นซีรั่ม NEFA แรกเวลา AI (ใต้)ความเข้มข้นใน d-3 หลังคลอดเพิ่มขึ้น อื่น ๆการศึกษายังระบุความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างหลังคลอด NEFA หรือสูญเสียของ BCS และความอุดมสมบูรณ์ (ยูโรโซนและกอง-Gatius et al. 2003 Chapinal et al. 2012b) ในความคมชัดไม่มีผลเพิ่มความเข้มข้นของ NEFA หรือ BHBAในระหว่างการเปลี่ยนแปลง ระยะเวลาพบในการล่าขนาดใหญ่ (n = 2,365), หลายภูมิภาคศึกษา (Chapinal et al.,2012a) . อับ ไม่มีการศึกษาเหล่านั้นให้รายละเอียดเกี่ยวกับโปรโตคอลการจัดการระบบสืบพันธุ์ยกเว้น Garverick et al. (2013) ดังนั้น เพิ่มเติมการศึกษาผลกระทบของสมดุลหลังคลอดก่อนกำหนดประสิทธิภาพของระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝูงใช้โปรโตคอตรงระบบสืบพันธุ์สามารถให้ข้อมูลที่มีคุณค่าทางชีวภาพกลไกการควบคุมประสิทธิภาพการสืบพันธุ์เป็นอย่างดีเป็นกลยุทธ์ทางปฏิบัติในการบริหารคุณภาพในฝูงโคนม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงกำหนดเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3
สัปดาห์ก่อนที่จะถึง 3 สัปดาห์หลังคลอดแสดงให้เห็นถึงความท้าทาย
สำหรับโคนมผลิตนมและ DMI เพิ่มขึ้น
อย่างมาก (เบลล์ 1995; Grummer, 1995; Herdt, 2000)
วัวบางขาดการประสานที่ดีที่สุดของ
ทั้ง 2 กระบวนการสามารถทำให้เกิดความสมดุลของพลังงานเชิงลบ
(NEB; Herdt 2000; Grummer 2008) การระดมไขมัน
จากเนื้อเยื่อไขมัน (Herdt 2000; Weber et al, 2013.)
และ การสูญเสียใน BCS และ BW (เฟอร์กูสัน 1996; Grummer
และ Rastani, 2003) สมาคมสถานะพลังงาน
ในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงและมีประสิทธิภาพการสืบพันธุ์
ในโคนมได้รับการพิสูจน์ในการศึกษาหลาย ๆ
ยกตัวอย่างเช่นการวิเคราะห์ย้อนหลัง 7 การศึกษา
โภชนาการ prepartum พบว่าการให้อาหารพลังงานสูง
อาหารในช่วงเวลาที่ใกล้ชิดขึ้นส่งผลให้เพิ่มขึ้น
หลังคลอดสูญเสีย BCS และเวลาที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์
(Cardoso et al., 2013) นอกจากนี้ 2 การศึกษาพบว่า
การเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของ NEFA ในระหว่างการเปลี่ยนแปลง
ระยะเวลาที่มีการคาดการณ์ของการลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์โดย
70 D หลังจากระยะเวลาการรอคอยด้วยความสมัครใจในการประเมินผล
ของ> 2,000 โคนมให้นมบุตร (Ospina et al., 2010b) หรือ
ลดลง 21- อัตราการตั้งครรภ์ D ในการประเมินผลฝูงระดับ
60 ฝูง freestall (Ospina et al., 2010A) เมื่อเร็ว ๆ นี้มีการศึกษา 156 โคนมให้นมบุตร (Garverick et al.,
2013) รายงานว่าน่าจะเป็นของการตั้งครรภ์ที่
แรกหมดเวลาเอไอ (TAI) ลดลงเมื่อ NEFA ซีรั่ม
ความเข้มข้นใน D-3 หลังคลอดเพิ่มขึ้น อื่น ๆ
การศึกษายังบ่งบอกถึงความสัมพันธ์เชิงลบระหว่าง
หลังคลอด NEFA หรือการสูญเสีย BCS และความอุดมสมบูรณ์ (López-
Gatius et al, 2003;.. Chapinal, et al, 2012b) ในทางตรงกันข้าม
ไม่มีผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นหรือ NEFA BHBA ความเข้มข้น
ในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ถูกพบในที่ผ่านมา
ที่มีขนาดใหญ่ (n = 2,365) การศึกษาหลายภูมิภาค (Chapinal et al.,
2012a) แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการศึกษาการจัดเตรียม
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดการโปรโตคอลสืบพันธุ์
ยกเว้น Garverick et al, (2013) ดังนั้นต่อไป
การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของการสมดุลพลังงานหลังคลอดต้น
ในการสืบพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝูง
โดยใช้โปรโตคอลระบบการประสานสืบพันธุ์
สามารถให้ข้อมูลที่มีคุณค่าทางชีวภาพ
กลไกการควบคุมประสิทธิภาพการสืบพันธุ์เช่นกัน
เป็นกลยุทธ์การปฏิบัติสำหรับการจัดการการสืบพันธุ์ใน
ฝูงโคนม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลง หมายถึง ระยะเวลาตั้งแต่ 3สัปดาห์ก่อนถึง 3 สัปดาห์ หลังคลอด แสดงถึงความท้าทายสำหรับโคนม เช่น การผลิตนมและดีเพิ่มอย่างรวดเร็ว ( ระฆัง , 1995 ; grummer , 1995 ; เฮต , 2000 )ในบางวัว , การขาดการประสานของกระบวนการเหล่านี้สามารถส่งผลในความสมดุลของพลังงานเชิงลบ( เอ็น ; เฮต , 2000 ; grummer , 2008 ) , การระดมไขมันจากเนื้อเยื่อไขมัน ( เฮต , 2000 ; เวเบอร์ et al . , 2013 )และการสูญเสียใน BCS และ BW ( 1996 ; grummer เฟอร์กูสันและ rastani , 2003 ) สมาคมของสถานะพลังงานในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงและประสิทธิภาพการสืบพันธุ์ในโคนมได้แสดงในหลายการศึกษาตัวอย่างเช่นการวิเคราะห์ย้อนหลัง 7 ศาสตร์prepartum โภชนาการพบว่า การให้อาหารพลังงานสูงอาหารในช่วงระยะใกล้ให้เพิ่มขึ้นหลังคลอดสูญเสีย BCS และเพิ่มเวลาที่จะตั้งครรภ์( คาร์โดโซ et al . , 2013 ) นอกจากนี้การศึกษาพบว่า 2เพิ่มความเข้มข้นใน nefa ช่วงระยะเวลาที่ถูกเพื่อลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์โดย70 D หลังจากการรอระยะเวลาในการประเมิน> 2000 โคนม ( ospina et al . , 2010b ) หรือลดอัตรา 21-d การตั้งครรภ์ในการประเมินผลระดับฝูง60 freestall ฝูง ( ospina et al . , 2010a ) เมื่อเร็ว ๆนี้การศึกษา 156 โคนม ( garverick et al . ,2013 ) รายงานว่า ความน่าจะเป็นของการตั้งครรภ์ที่ก่อน หมดเวลาไอ ( ใต้ ) ลดลงเป็นเซรั่ม nefaความเข้มข้นใน d-3 หลังคลอดเพิ่มขึ้น อื่น ๆการศึกษายังพบความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างหลังคลอด nefa หรือสูญเสีย BCS และความอุดมสมบูรณ์ ( โลเปซ -gatius et al . , 2003 ; chapinal et al . , 2012b ) ในทางตรงกันข้ามไม่มีผลของการเพิ่มขึ้น nefa หรือ bhba ความเข้มข้นในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงที่พบในล่าสุดขนาดใหญ่ ( n = 0 ) , การศึกษาภูมิภาคหลาย ( chapinal et al . ,2012a ) แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการศึกษาที่จัดข้อมูลเกี่ยวกับระบบการจัดการการสืบพันธุ์ยกเว้น garverick et al . ( 2013 ) ดังนั้น , เพิ่มเติมการศึกษาผลของสมดุลพลังงานหลังคลอดก่อนในการสืบพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝูงวัวการใช้ระบบการสืบพันธุ์ของโปรโตคอลสามารถให้ข้อมูลที่มีคุณค่าในทางชีวภาพกลไกการควบคุมประสิทธิภาพการสืบพันธุ์ เช่นกันเป็นประโยชน์สำหรับการจัดการระบบสืบพันธุ์ในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์นมวัว .