1. MANAGEMENT GURU FRANK BUNKER GIL

1. MANAGEMENT GURU FRANK BUNKER GILBRETH (1868 TO 1924)
2. INTRODUCTION:  Born in Fairfield , Maine in 1868.  Start his early education from local academy.  In 1878 , moved to Boston , first attend Rice grammar school and later English high school.  Prepare to entry for Massachusetts institute of Technology(MIT) and passed the exam.  Like Taylor abandon his study and start work as an apprentice bricklayer in Whidden Construction Company from 1885 to 1895.  Rising from apprentice to become a supervisor and then chief superintendent at the age of 27.
3. INTRODUCTION:  In 1895 , as a member of American Society of Mechanical Engineers(ASME) left Whidden and establish his own company specialize in concrete construction.  Used first time his new inventions in his company like concrete mixer , conveyors and reinforcing bars.  Open office in Victoria street , London and expand his job from small jobs like waterproofing , cellar to building houses , factories , mills and civil engineering works like dams and canals.
4. INTRODUCTION:  Write different books to upgrade the current status of work and in order to minimize the unnecessary motions to make a job easy and increase the rest time.  Try to set a standardize accounting and work procedure to made the job easy and pleasurable.  Try to reduce the total motions in job from 18 to 4.5.
5. FLASHING POINTS OF GILBRETH MOTION STUDY :  Identify 15 variables of worker like anatomy ,creed , experience , mode of living , skill , temperament and training.  Identify 14 variables of surrounding , equipments and tools like lighting , heating, cooling ,ventilation , supervision , colors of the surrounding walls etc.  Identify 13 variables of motion including acceleration , automaticity , inertia and moment overcome , direction and effectiveness.  Together he develop 17 basic motion with the assistant of his wife Lillian Moller like select , hold , touch etc and they named it “therblig”
6. LILLIAN MOLLER GILBRETH :        Born in Oakland , California in 1878. Obtain BA and MA degree in English from university of California. Got married with Gillbreth in 1904. Due to interest of her husband toward the business , she turned her education direction from English to psychology. Receive her doctoral degree from university of California in 1915. In 1912 , they published “Primer of Scientific Management “ in which they expand the concept of Taylor scientific management and focus more on motion studies than time study. They describe the concept of “Micro motion study” for Butt company at New England that braided materials for electrical wiring.
7. GILBRETH AND LILLIAN CRITICISM ON TAYLOR WORK :    In 1920 , Gilbreth and Lillian declared the Taylor “Stop watch time study” as unethical , wasteful and inaccurate in their papers “An Indictment of Stop Watch Time Study”. They considered that it provide inaccurate and useless data. Gilbreth divide the fatigue into two categories :    Unnecessary : Resulting from the effort that does not need to achieve the desire results. Necessary : Resulting from the work that must be done in order to achieve the specific result. He considered that the unnecessary motions are eliminated through better design of workplace and necessary motion can be minimized through improved techniques and provision of rest periods.
8. GILBRETH AND LILLIAN CRITICISM ON TAYLOR WORK :  Gilbreth criticize the Taylor concept of depending on the physical capacity of the workers to overcome the fatigue.  He advocate in the reduction of the working days and introduce the increasing holidays with pay.  He emphasize the significance of total working environment in the maintenance of high level of productivity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. การจัดการ GURU FRANK บังเกอร์ GILBRETH (1868 ถึง 1924)
2 บทนำ: เกิดในแฟร์ฟิลด์เมนใน 1868 เริ่มศึกษาแรกของเขาจากสถาบันการศึกษาในท้องถิ่น ใน 1878 ย้ายไปบอสตันแรกที่เข้าร่วมข้าวโรงเรียนมัธยมและต่อมาโรงเรียนมัธยมภาษาอังกฤษ เตรียมรายการสำหรับ Massachusetts Institute of Technology (MIT) และผ่านการสอบ เช่นเดียวกับเทย์เลอร์ละทิ้งการศึกษาและการเริ่มต้นการทำงานของเขาเป็นช่างปูนฝึกงานใน บริษัท ก่อสร้างจาก Whidden 1885 to 1895 ที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกงานที่จะกลายเป็นผู้บังคับบัญชาและจากนั้นผู้กำกับหัวหน้าที่อายุ 27.
3 บทนำ: ในปี 1895 ในฐานะสมาชิกของสังคมอเมริกันของวิศวกรเครื่องกล (ASME) ซ้าย Whidden และสร้าง บริษัท ของตัวเองมีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างคอนกรีต ครั้งแรกที่ใช้สิ่งประดิษฐ์ใหม่ของเขาใน บริษัท ของเขาเช่นผสมคอนกรีต, สายพานลำเลียงและเหล็กเสริม สำนักงานเปิดในถนนวิกตอเรียลอนดอนและขยายงานของเขาจากงานเล็ก ๆ เช่นกันซึม, ห้องใต้ดินที่จะสร้างบ้าน, โรงงาน, โรงงานและงานวิศวกรรมโยธาทำงานเช่นเขื่อนและคลอง.
4 บทนำ: เขียนหนังสือที่แตกต่างกันในการอัพเกรดสถานะปัจจุบันของการทำงานและเพื่อลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นเพื่อให้ได้งานที่ง่ายและเพิ่มเวลาที่เหลือ พยายามที่จะตั้งค่าบัญชีมาตรฐานและขั้นตอนการทำงานที่จะทำให้งานง่ายและมีความพึงพอใจ พยายามที่จะลดการเคลื่อนไหวทั้งหมดในงาน 18-4.5.
5 กระพริบจุด GILBRETH ศึกษา MOTION: ระบุ 15 ตัวแปรของผู้ปฏิบัติงานเช่นกายวิภาคเชื่อประสบการณ์โหมดของการอยู่อาศัยทักษะอารมณ์และการฝึกอบรม ระบุ 14 ตัวแปรโดยรอบอุปกรณ์และเครื่องมือเช่นแสงความร้อนความเย็น, การระบายอากาศ, การดูแลสีของผนังโดยรอบ ฯลฯ ระบุ 13 ตัวแปรของการเคลื่อนไหวรวมทั้งเร่ง automaticity, ความเฉื่อยและขณะเอาชนะทิศทางและประสิทธิผล เขาร่วมกันพัฒนาการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐาน 17 กับผู้ช่วยของภรรยาของลิเลียนมอลเลอร์ของเขาเหมือนเลือกถือสัมผัส ฯลฯ และพวกเขาตั้งชื่อมันว่า "therblig"
6 LILLIAN MOLLER GILBRETH: เกิดในโอ๊คแลนด์แคลิฟอร์เนียในปี 1878 ได้รับปริญญาตรีและปริญญาโทในภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ได้แต่งงานกับ Gillbreth ในปี 1904 เนื่องจากความสนใจของสามีที่มีต่อธุรกิจของเธอเธอหันทิศทางการศึกษาของเธอจากภาษาอังกฤษเป็นจิตวิทยา ได้รับปริญญาเอกของเธอจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในปี 1915 ในปี 1912 พวกเขาตีพิมพ์ "การจัดการศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งพวกเขาขยายแนวคิดของการจัดการทางวิทยาศาสตร์เทย์เลอร์และมุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาการเคลื่อนไหวกว่าการศึกษาเวลา พวกเขาอธิบายแนวคิดของ "การศึกษาการเคลื่อนไหว Micro" สำหรับ บริษัท ก้นที่นิวอิงแลนด์ที่ถักวัสดุสำหรับการเดินสายไฟฟ้า.
7 GILBRETH และ LILLIAN วิจารณ์ TAYLOR ทำ: ในปี 1920 GILBRETH และลิเลียนประกาศเทย์เลอร์ "หยุดการศึกษาเวลาในการดู" เป็นผิดจรรยาบรรณสิ้นเปลืองและไม่ถูกต้องในเอกสารของพวกเขา "คำฟ้องของนาฬิกาจับเวลาเวลาการศึกษา" พวกเขาคิดว่ามันให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและไม่มีประโยชน์ ความเมื่อยล้า GILBRETH แบ่งเป็นสองประเภท: ที่ไม่จำเป็น: เกิดจากความพยายามที่ไม่จำเป็นต้องเพื่อให้บรรลุผลความปรารถนา ที่จำเป็น: ผลจากการทำงานที่จะต้องทำเพื่อให้บรรลุผลที่เฉพาะเจาะจง เขาคิดว่าการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นจะถูกตัดออกผ่านการออกแบบที่ดีของการทำงานและการเคลื่อนไหวที่จำเป็นสามารถลดโดยใช้เทคนิคที่ดีขึ้นและบทบัญญัติของระยะเวลาที่เหลือ.
8 GILBRETH และ LILLIAN วิจารณ์ TAYLOR ทำ:  GILBRETH วิพากษ์วิจารณ์แนวคิดของเทย์เลอร์ขึ้นอยู่กับความจุทางกายภาพของคนงานที่จะเอาชนะความเหนื่อยล้า เขาสนับสนุนในการลดวันทำงานและวันหยุดแนะนำที่เพิ่มขึ้นกับการจ่าย เขาเน้นความสำคัญของสภาพแวดล้อมการทำงานทั้งหมดในการบำรุงรักษาระดับการผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . จัดการกูรูแฟรงค์บังเกอร์ Gilbreth ( 1868 2467 )
2 บทนำ : เกิดในแฟร์ฟิลด์ , Maine ใน 1868 . เริ่มการศึกษาแรกของเขาจากโรงเรียนท้องถิ่น ใน 1878 , ย้ายไปอยู่บอสตัน ก่อนเข้าร่วมประชุมข้าวโรงเรียนไวยากรณ์และต่อมาภาษาอังกฤษมัธยมปลาย เตรียมรายการสำหรับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ( MIT ) และผ่านการสอบเหมือนเทย์เลอร์ละทิ้งการศึกษาของเขาและเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยช่างปูนใน whidden บริษัทก่อสร้างจาก 2428 ถึง 1895 เพิ่มขึ้นจากเด็กฝึกงานที่จะกลายเป็นหัวหน้าแล้ว หัวหน้าผู้กำกับที่อายุ 27 .
3 บทนำ : ใน 1895 , ในฐานะสมาชิกของสังคมของวิศวกรชาวอเมริกัน ( ASME ) ซ้าย whidden และสร้าง บริษัท ของตัวเองเชี่ยวชาญในการก่อสร้างคอนกรีตใช้ครั้งแรกสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของเขาใน บริษัท ของเขา เช่น เครื่องผสมคอนกรีต , สายพาน และเหล็กเสริม . เปิดสำนักงานใน Victoria Street , ลอนดอนและขยายงานจากงานขนาดเล็ก เช่น การป้องกันการรั่วซึมห้องใต้ดินบ้าน , อาคาร , โรงงาน , โรงสีและงานวิศวกรรมโยธา เช่น เขื่อน และคลอง .
4 บทนำ :เขียนหนังสือต่าง ๆ เพื่ออัพเกรดสถานะปัจจุบันของงาน และเพื่อลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นเพื่อทำให้งานง่ายและเพิ่มเวลาเหลือ พยายามที่จะกำหนดมาตรฐานการบัญชีและวิธีปฏิบัติงาน เพื่อให้งานง่ายและความพึงพอใจ พยายามลดการเคลื่อนไหวโดยรวมในงาน จาก 18 4.5 .
5 จุดของการศึกษาการเคลื่อนไหว : Gilbreth แวบ ๆระบุ 15 ตัวแปรของคนงาน เช่น กายวิภาคศาสตร์ , ลัทธิ , ประสบการณ์ , โหมดของการใช้ชีวิต ทักษะ อารมณ์ และการฝึก ระบุ 14 ตัวแปรแวดล้อม อุปกรณ์และเครื่องมือ เช่น แสง ความร้อน ระบายความร้อน , การระบายอากาศ , การดูแล , สีผนังโดยรอบ ฯลฯ ระบุ 13 ตัวแปรของการเคลื่อนไหว รวมถึงการเร่งทำงานได้โดยอัตโนมัติและโมเมนต์ความเฉื่อยเอาชนะทิศทาง และมีประสิทธิผล ด้วยกันเขาพัฒนา 17 พื้นฐานการเคลื่อนไหวกับผู้ช่วยของภรรยาของเขา Lillian โมลเลอร์ เช่นเลือก จับ สัมผัส ฯลฯ และพวกเขาตั้งชื่อมัน " ทำสงคราม "
6 Lilian Gilbreth มอลเลอร์ : เกิดในโอ๊คแลนด์ แคลิฟอร์เนียใน 1878 . ได้รับปริญญา BA มาเป็นภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แต่งงานกับ gillbreth ใน 1904 .เนื่องจากความสนใจของสามีของเธอที่มีต่อธุรกิจ หล่อนหมุนตัวการศึกษาทิศทางภาษาอังกฤษจากจิตวิทยา เธอได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียใน 1915 ในปี 1912 พวกเขาตีพิมพ์ " แนวทางของการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ " ซึ่งพวกเขาได้ขยายแนวคิดของการจัดการทางวิทยาศาสตร์ เทย์เลอร์ และมุ่งเน้นที่การเคลื่อนไหวมากกว่าการศึกษาเวลาพวกเขาอธิบายแนวคิดของ " การศึกษา " เคลื่อนไหวไมโครสำหรับ บริษัท ก้นที่ประเทศอังกฤษที่ถักวัสดุสำหรับเดินสายไฟฟ้า .
7 และ Lillian Gilbreth วิจารณ์งาน เทเลอร์ : ในปี 1920 และ Lillian Gilbreth ประกาศ เทย์เลอร์ " หยุดดูศึกษา " เวลาเป็นจรรยาบรรณ ฟุ่มเฟือย และไม่ถูกต้องในเอกสาร " การศึกษา " เวลาหยุดดูพวกเขาพิจารณาว่ามันให้ถูกต้องและข้อมูลที่ไร้ประโยชน์ Gilbreth แบ่งอาการออกเป็นสองประเภท : ไม่จำเป็น : เป็นผลมาจากความพยายามที่ไม่ได้ต้องการที่จะบรรลุประสงค์ผล จำเป็น : ที่เกิดจากงานที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุผลที่เฉพาะเจาะจงเขา เห็นว่า การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นจะถูกตัดออกผ่านการออกแบบที่ดีของการทำงานที่จำเป็นและการเคลื่อนไหวสามารถทำได้ผ่านการปรับปรุงเทคนิคและการให้ระยะเวลาพัก .
8 และ Lillian Gilbreth วิจารณ์งาน เทเลอร์ :  Gilbreth วิจารณ์แนวคิดของ Taylor ขึ้นอยู่กับความสามารถทางกายภาพของคนงานที่จะเอาชนะความเหนื่อยล้าเขาสนับสนุนในการลดลงของวันทำการ และแนะนำการเพิ่มวันหยุด กับจ่าย เขาเน้นความสำคัญของสภาพแวดล้อมการทำงานโดยรวมในการรักษาระดับของการผลิต