Correlation and regression analysis

Correlation and regression analysis were the major statistical tools used in this study for investing and selecting the statistical significance in the relationship between household’s activities and DHF patients. The results revealed that out of 167 variables, 15 variables that were correlated with the number of cases of DHF patients. Pearson’s correlation coefficient of 15 variables showed positive significantly correlation between household’s activities and DHF patients. It found that 6 out of 15 variables in this study showed significant correlated with DHF patients. of regression analysis
(E[ei] = 0, Var [ei] approximate 1, independent of ei and ej; Durbin-Watson = 1.819>1.5). Interval of VIF of all significant variables were 1.003-1.038 which less than 5. Results of residual analysis were then used for the verification of the applicability of assembled regression model. The existences of influential and outlier observations were checked but not found in the model (maximum of standard error was not more than 3) (Table 3).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์และการถดถอยการวิเคราะห์เครื่องมือทางสถิติหลักที่ใช้ในการศึกษานี้สำหรับการลงทุน และเลือกที่นัยสำคัญทางสถิติในความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมของครัวเรือนและผู้ป่วย DHF ได้ ผลการเปิดเผยที่จาก 167 ตัวแปร ตัวแปร 15 ที่ถูก correlated กับจำนวนของกรณีและปัญหาของผู้ป่วย DHF สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันของตัวแปรที่ 15 แสดงให้เห็นในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมของครัวเรือนและผู้ป่วย DHF พบว่า 6 จาก 15 ตัวแปรในการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าสำคัญ correlated กับผู้ป่วย DHF การวิเคราะห์การถดถอย (E [ei] = 0, 1 อิสระของ ei และ ej ประมาณ Var [ei] Durbin-Watson = 1.819 > 1.5) ช่วงของ VIF ของตัวแปรที่สำคัญทั้งหมดถูก 1.003 1.038 ซึ่งน้อยกว่า 5 ผลการวิเคราะห์ที่เหลือแล้วใช้สำหรับการตรวจสอบความเกี่ยวข้องของแบบจำลองถดถอยที่ประกอบ Existences สังเกตที่ทรงอิทธิพลและ outlier ตรวจสอบ แต่ไม่พบในรูปแบบ (มาตรฐานข้อผิดพลาดได้สูงสุดไม่มากกว่า 3) (ตาราง 3)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยเป็นเครื่องมือทางสถิติที่สำคัญที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้การลงทุนและเลือกนัยสำคัญทางสถิติในความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมในครัวเรือนของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกและ ผลการศึกษาพบว่าจาก 167 ตัวแปร 15 ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับจำนวนของกรณีของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน 15 ตัวแปรที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกิจกรรมในครัวเรือนของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกและ พบว่า 6 จาก 15 ตัวแปรในการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก การวิเคราะห์การถดถอย
(E [เน] = 0, Var [เน] ประมาณ 1 เป็นอิสระจากเนและ EJ;-วัตสันเดอร์บิน = 1.819> 1.5) ช่วงเวลา VIF ของตัวแปรที่สำคัญทุกคน 1.003-1.038 ซึ่งน้อยกว่า 5 ผลการวิเคราะห์ที่เหลือถูกนำมาใช้สำหรับการตรวจสอบแล้วของการบังคับของรูปแบบการถดถอยประกอบการ ดำรงชีวิตของการสังเกตที่มีอิทธิพลและค่าผิดปกติถูกตรวจสอบ แต่ไม่พบในรูปแบบ (สูงสุดของข้อผิดพลาดมาตรฐานไม่เกิน 3) (ตารางที่ 3)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สหสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยเป็นหลักสถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เพื่อการลงทุนและการเลือกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมและผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในครัวเรือนของ ผลการศึกษาพบว่า ตัวแปร จาก 167 , 15 ตัวแปร ว่ามีความสัมพันธ์กับจำนวนของกรณีของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน จาก 15 ตัวแปร มีความสัมพันธ์ทางบวก กิจกรรมและผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในครัวเรือนของ พบว่า 6 จาก 15 ตัวแปรในการศึกษานี้แสดงความสัมพันธ์กับผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก การวิเคราะห์การถดถอยของ
( E [ ei ] = 0 var [ ei ] ประมาณ 1 , อิสระของ EI เดอร์บินวัตสัน และ 1.819 ej ; = > 1.5 )ช่วงของตัวแปรที่สำคัญทั้งหมด 1.003-1.038 VIF ) ซึ่งน้อยกว่า 5 จากการวิเคราะห์ผลตกค้างแล้วใช้สำหรับการตรวจสอบของการประยุกต์ใช้ประกอบแบบจำลองสมการถดถอย ที่อันหนักอึ้งของผู้มีอิทธิพลและค่าสังเกตดู แต่จะไม่พบในรุ่นสูงสุดของค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 3 ) ( ตารางที่ 3 )