Indonesia's signature Buddhist monu

Indonesia's signature Buddhist monument, Borobudur is built from two million stone blocks in the form of a massive symmetrical stupa, literally wrapped around a small hill. Standing on a 118m by 118m base, its six square terraces are topped by three circular ones, with four stairways leading up through carved gateways to the top. Viewed from the air, the structure resembles a colossal three-dimensional tantric mandala (symbolic circular figure).

It has been suggested, in fact, that the people of the Buddhist community that once supported Borobudur were early Vajrayana or Tantric Buddhists who used it as a walk-through mandala. Though the paintwork is long gone, it’s thought that the grey stone of Borobudur was once coloured to catch the sun.

The monument was conceived as a Buddhist vision of the cosmos in stone, starting in the everyday world and spiralling up to nirvana, or enlightenment. At the base of the monument is a series of reliefs representing a world dominated by passion and desire, where the good are rewarded by reincarnation as a higher form of life, while the evil are punished with a lower reincarnation. These carvings and their carnal scenes are covered by stone to hide them from view, but they are partly visible on the southern side.

Starting at the main eastern gateway, go clockwise (as one should around all Buddhist monuments) around the galleries of the stupa. Although Borobudur is impressive for its sheer bulk, the delicate sculptural work is exquisite when viewed up close. The pilgrim’s walk is about 5km long and takes you along narrow corridors past nearly 1460 richly decorated narrative panels and 1212 decorative panels in which the sculptors have carved a virtual textbook of Buddhist doctrines as well as many aspects of Javanese life 1000 years ago – a continual procession of ships and elephants, musicians and dancing girls, warriors and kings.

On the third level there’s a lengthy panel sequence about a dream of Queen Maya, which involved a vision of white elephants with six tusks. Monks and courtiers interpret this as a premonition that her son would become a Buddha, and the sequence continues until the birth of Prince Siddhartha and his journey to enlightenment. Many other panels are related to Buddhist concepts of cause and effect or karma.

Some 432 serene-faced Buddha images stare out from open chambers above the galleries, while 72 more Buddha images (many now headless) sit only partly visible in latticed stupas on the top three terraces – one is considered the lucky Buddha. The top platform is circular, signifying neverending nirvana.

Admission to the temple includes entrance to Karmawibhangga archaeological museum, which is just east of the monument and contains 4000 original stones and carvings from Borobudur and some interesting photographs. You can also glimpse the so-called Elephant House, where two small elephants suffer, with their front feet chained together, moaning and crying to no avail. This is the black eye of Borobudur, folks.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของอินโดนีเซียเซ็นพุทธอนุสาวรีย์ บุโรพุทโธถูกสร้างขึ้นจากบล็อกหินสองล้านในฟอร์มใหญ่สมมาตรเจดีย์ อักษรรอบ ๆ เนินเขาเล็ก ๆ ยืนบน 118 เมตรโดยฐาน 118 เมตร ระเบียงของตารางหกจะมุง ด้วยสามวงกลมคน กับสี่บันไดนำผ่านเกตเวย์แกะสลักด้านบน มองจากทางอากาศ โครงสร้างคล้ายกับมหึมาสามมิติ tantric จักรวาล (สัญลักษณ์รูปวงกลม)มันได้ถูกแนะนำ ในความเป็นจริง ที่ คนของชุมชนชาวพุทธที่เคยสนับสนุนบุโรพุทโธถูกวัชรยานหรือพุทธ Tantric ที่ใช้มันเป็นจักรวาล walk-through เป็นต้น แม้ว่า paintwork หายไปนาน มันเป็นความคิดหินเทาของบุโรพุทโธถูกครั้งเดียวสีจะจับดวงอาทิตย์อนุสาวรีย์คือรู้สึกเป็นพุทธวิสัยทัศน์ของจักรวาลในหิน เริ่มต้นในโลกทุกวัน และ spiralling ถึงนิพพาน หรือตรัสรู้ ที่ฐานของอนุสาวรีย์เป็นชุดสรรเป็นตัวแทนของโลกที่ครอบงำ โดยการหลงใหลและความปรารถนา ที่ดีจะได้รับรางวัล โดยเกิดใหม่เป็นแบบที่สูงของชีวิต ในขณะที่ความชั่วร้ายเป็นโทษเกิดใหม่ที่ต่ำกว่า แกะสลักเหล่านี้และฉากของพวกเขาเต็มไปด้วยตัณหาอยู่ในหินจะซ่อนมุมมอง แต่พวกเขามีบางส่วนปรากฏอยู่บนด้านใต้ราคาเริ่มต้นที่เกตเวย์หลักสำหรับภาคตะวันออก ไปตามเข็มนาฬิกา (ดังหนึ่งควรทั่วทุกพุทธสถาน) รอบแกลเลอรี่ของเจดีย์ แม้ว่าบุโรพุทโธเป็นที่น่าประทับใจสำหรับขนาดใหญ่โปร่ง งานประติมากรรมที่ละเอียดอ่อนประณีตเมื่อดูระยะใกล้ได้ ผู้แสวงบุญเดินได้ยาวประมาณ 5 กิโลเมตรและใช้เวลาที่คุณไปตามทางเดินแคบ ๆ ผ่านเกือบ 1460 ตกแต่งเล่าเรื่องแผงและแผงตกแต่ง 1212 ซึ่งประติมากรที่ได้แกะสลักเป็นเสมือนตำราพุทธศาสนาเช่นเดียวกับหลายแง่มุมของชีวิตชวา 1000 ปีที่แล้ว – ขบวนเรือ และช้าง นักดนตรี และเต้นรำหญิง นักรบ และกษัตริย์อย่างต่อเนื่องแผงยาวลำดับเกี่ยวกับความฝันของราชินีมายา ที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ของช้างมีหกงา อยู่บนระดับสาม พระสงฆ์และ courtiers แปลนี้เป็นลางสังหรณ์ว่า ลูกชายของเธอจะกลายเป็น พระพุทธรูป และลำดับต่อไปจนกว่าการประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะและเขาเดินไปตรัสรู้ หลายแผ่นอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับหลักพุทธศาสนาสาเหตุ และผล หรือกรรมบาง 432 สงบประสบพระภาพ stare ออกจากห้องเปิดแกลเลอรี่ ในขณะที่ 72 เพิ่มเติมพระพุทธรูปมากตอนนี้โง่) นั่งเท่าที่มองเห็นได้บางส่วนในพระธาตุกรงระเบียงสามด้านบน – ข้างหนึ่งจะถือพระพุทธเจ้าโชคดี แพลตฟอร์มด้านบนเป็นวงกลม บ่งบอกอวอร์ดสนิพพานเข้าวัดมีทางเข้า Karmawibhangga พิพิธภัณฑ์โบราณคดี ซึ่งเป็นทางตะวันออกของอนุสาวรีย์ และประกอบด้วยหินและแกะสลักจากบุโรพุทโธและถ่ายรูปน่าสนใจเดิม 4000 นอกจากนี้คุณยังได้เห็นบ้านช้างเรียกว่า ที่สองเล็กช้างประสบ กับเท้าของพวกเขาหน้าเชนร่วมกัน เสียงสวด และร้องไห้ไม่มีประโยชน์ นี่คือตาดำของบุโรพุทโธ คน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลายเซ็นพุทธอนุสาวรีย์ของอินโดนีเซีย Borobudur ถูกสร้างขึ้นจากสองล้านแผ่นหินในรูปแบบของเจดีย์สมมาตรขนาดใหญ่ห่ออักษรรอบเนินเขาเล็ก ๆ ยืนอยู่บน 118m โดย 118m ฐานหกตารางระเบียงที่มีการราดด้วยสามคนวงกลมกับสี่บันไดนำไปผ่านเกตเวย์แกะสลักไปด้านบน ดูได้จากอากาศโครงสร้างคล้ายมหึมาสามมิติจักรวาล Tantric (รูปวงกลมสัญลักษณ์). มันได้รับการแนะนำในความเป็นจริงที่คนของชุมชนชาวพุทธที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการสนับสนุน Borobudur เป็นช่วงต้นวัชรยานหรือ Tantric พุทธศาสนาที่ใช้มันเป็น จักรวาลเดินผ่าน แม้ว่าทาสีหายไปนานก็คิดว่าหินสีเทาของ Borobudur เป็นสีหนึ่งครั้งเพื่อจับดวงอาทิตย์. อนุสาวรีย์ได้รู้สึกเป็นวิสัยทัศน์ทางพุทธศาสนาของจักรวาลอยู่ในหินที่เริ่มต้นในโลกในชีวิตประจำวันและลอยขึ้นไปนิพพานหรือการตรัสรู้ . ที่ฐานของอนุสาวรีย์เป็นชุดของสีสรรที่เป็นตัวแทนของโลกที่โดดเด่นด้วยความรักและความปรารถนาที่ดีจะได้รับรางวัลโดยการกลับชาติมาเกิดเป็นรูปแบบชีวิตที่สูงขึ้นในขณะที่ความชั่วร้ายจะต้องถูกลงโทษด้วยการเกิดใหม่ลดลง แกะสลักเหล่านี้และฉากกามารมณ์ของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยก้อนหินเพื่อซ่อนพวกเขาจากมุมมอง แต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่มองเห็นได้ทางทิศใต้. ราคาเริ่มต้นที่ประตูทางทิศตะวันออกหลักไปตามเข็มนาฬิกา (เป็นหนึ่งควรรอบอนุสาวรีย์พุทธ) รอบแกลเลอรี่ของเจดีย์ที่ . แม้ว่าโรพุทโธเป็นที่น่าประทับใจสำหรับกลุ่มที่แท้จริงของงานประติมากรรมที่ละเอียดอ่อนเป็นประณีตเมื่อมองใกล้ชิด การเดินของผู้แสวงบุญเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 5 กมยาวและใช้เวลาคุณไปตามทางเดินแคบ ๆ ที่ผ่านมาเกือบ 1,460 แผงการเล่าเรื่องที่ตกแต่งอย่างหรูหราและ 1,212 แผงตกแต่งที่ประติมากรที่มีการแกะสลักตำราเสมือนจริงของหลักคำสอนทางพุทธศาสนาเช่นเดียวกับหลายแง่มุมของชีวิตชวาปี 1000 ที่ผ่านมา - ความต่อเนื่อง ขบวนเรือและช้าง, นักดนตรีและหญิงเต้นรำนักรบและพระมหากษัตริย์. ในระดับที่สามมีลำดับแผงยาวเกี่ยวกับความฝันของสมเด็จพระราชินีมายาซึ่งเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ของช้างสีขาวที่มีหกงา พระสงฆ์และข้าราชบริพารแปลความหมายนี้เป็นสังหรณ์ใจว่าลูกชายของเธอจะกลายเป็นพระพุทธรูปและลำดับต่อไปจนกว่าการเกิดของเจ้าชาย Siddhartha และการเดินทางของเขาที่จะตรัสรู้ แผงอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางพุทธศาสนาของเหตุและผลหรือกรรม. บาง 432 อันเงียบสงบเผือดพระพุทธรูปจ้องมองออกจากห้องเปิดข้างต้นแกลเลอรี่ในขณะที่ 72 พระพุทธรูป (จำนวนมากในขณะหัวขาด) นั่งเพียงบางส่วนมองเห็นได้ในเจดีย์ไม้ระแนงบน ระเบียงด้านบนสาม - หนึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่โชคดี แพลตฟอร์มบนเป็นวงกลม signifying neverending นิพพาน. ค่าเข้าชมวัดรวมถึงทางเข้า Karmawibhangga พิพิธภัณฑ์โบราณคดีซึ่งเป็นเพียงทางตะวันออกของอนุสาวรีย์และมีก้อนหิน 4000 เดิมและการแกะสลักจาก Borobudur และบางภาพที่น่าสนใจ นอกจากนี้คุณยังสามารถเหลือบที่เรียกว่าช้างบ้านที่สองช้างขนาดเล็กต้องทนทุกข์ทรมานกับเท้าด้านหน้าของพวกเขาที่ถูกล่ามโซ่ด้วยกันเสียงสวดและร้องไห้จะไม่มีประโยชน์ นี้เป็นตาสีดำของ Borobudur คน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินโดนีเซียลายเซ็นพุทธอนุสาวรีย์ , Borobudur ถูกสร้างขึ้นจากสองล้านก้อนใหญ่ในรูปแบบของสมมาตรเจดีย์ หมายห่อรอบเนินเขาเล็ก ๆ ยืนอยู่บน 118m โดย 118m ฐานหกเหลี่ยม ระเบียงที่ถูกราดด้วยสามคนที่วงกลม มีบันไดขึ้นทางแกะสลักเกตเวย์ไปด้านบน มองจากทางอากาศ โครงสร้างคล้ายยักษ์สามมิติ Tantric มันดาลา ( สัญลักษณ์วงกลมรูป )มันได้รับการแนะนำในความเป็นจริงที่ผู้คนในชุมชนชาวพุทธที่ครั้งสนับสนุนในวัชรยานก่อน หรือเป็นพุทธ Tantric ที่ใช้มันเป็นเดินผ่านมันดาลา . แม้ภาพจะหายไปนาน ก็คิดว่าศิลาสีเทาของ Borobudur เคยสีจับดวงอาทิตย์อนุสาวรีย์นี้เป็นพุทธวิสัยของจักรวาลในหิน เริ่มต้นในโลกทุกวัน และหมุนขึ้นสู่นิพพาน หรือตรัสรู้ ที่ฐานของอนุสาวรีย์เป็นชุดของ reliefs แสดงโลกครอบงำด้วยกิเลสและความปรารถนาที่ดีจะตอบแทนโดยการกลับชาติมาเกิดเป็นรูปแบบที่สูงขึ้นของชีวิตในขณะที่ความชั่วร้ายจะถูกทำโทษด้วยการกลับชาติมาเกิดใหม่ ลด งานแกะสลักและฉากของเขาถูกปกคลุมด้วยหินเพื่อซ่อนพวกเขาจากมุมมอง แต่ก็มีบางส่วนที่ปรากฏบนด้านใต้เริ่มต้นที่ประตูตะวันออกหลักไปตามเข็มนาฬิกา ( เป็นหนึ่งควรรอบอนุสาวรีย์พระพุทธศาสนา ) รอบ แกลลอรี่ของเจดีย์ . แม้ว่าใน เป็นที่น่าประทับใจสำหรับการเชียร์กลุ่มงานแกะสลักอ่อนช้อยงดงามเมื่อมองใกล้ๆ ของนักเดินทางเดินประมาณ 5 กม. ยาวและพาคุณไปตามทางเดินแคบ ๆที่ผ่านมาเกือบ 460 รุ่นตกแต่งแผงและการเล่าเรื่อง 1212 แผงตกแต่งที่แกะสลักได้แกะสลักหนังสือเสมือนจริงของหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกับหลาย ๆด้านของชีวิตชวา 1000 ปีที่ผ่านมา–ขบวนอย่างต่อเนื่องของเรือและช้าง ดนตรี และการเต้นรำ นักรบ และ กษัตริย์บนชั้นที่มีความยาวแผงลำดับความฝันของควีนมายะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ของช้างเผือก 6 งา พระสงฆ์และข้าราชบริพารแปลเป็นสังหรณ์ว่าลูกชายของเธอจะเป็นพระพุทธเจ้า และลำดับต่อไปจนกว่าจะเกิดของเจ้าชายสิทธัตถะ และการเดินทางสู่การตรัสรู้ แผงอื่น ๆอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา แนวคิด ของ เหตุ และ ผล หรือ กรรมบางและเงียบสงบเผชิญพระพุทธรูปมองออกไปจากห้องข้างบนเปิดแกลลอรี่ , ในขณะที่ 72 มากกว่าพระพุทธรูป ( มีหัว ) นั่งเพียงบางส่วนที่ปรากฏในด้านบนสามเจดีย์ latticed ระเบียง–หนึ่ง นับว่าเป็นพระพุทธรูปที่โชคดี แพลตฟอร์มด้านบนเป็นวงกลม , signifying ที่นิพพานค่าเข้าชมวัด รวมถึงทางเข้า ? เธอบาดเจ็บเหรอ ? ทำไมถึง พิพิธภัณฑ์โบราณคดี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอนุสาวรีย์และประกอบด้วยหินและแกะสลักจากเดิม 4000 รอบ และบางภาพที่น่าสนใจ นอกจากนี้คุณยังสามารถแวบที่เรียกว่า บ้านช้าง ซึ่งช้างสองตัว ขนาดเล็ก ประสบ กับ เท้าหน้าของพวกเขาถูกล่ามโซ่ด้วยกัน . . ไม่เจอ นี่คือดวงตาสีดำของ Borobudur , folks .