In 1986, Sean FitzPatrick became ch

In 1986, Sean FitzPatrick became chief executive of a small Irish commercial lender known as the City of Dublin Bank. Over the course of the next 18 years, FitzPatrick oversaw the growth of the City of Dublin bank into the 3rd largest bank in Ireland. By May 2007 the bank, now known as the Anglo Irish Bank, reached a peak value of €13 billion with a share price of €17.60.
Little over a year later, in December 2008, FitzPatrick stunned the financial world by announcing his resignation as chairman of the Anglo Irish Bank. The revelation that FitzPatrick had hidden over €87 million in loans he had made to himself capped off a tumultuous series of months that had seen the Bank’s value drop from a high of €13 billion to a low of €242 million. In the coming days, several more directors resigned over loan irregularities that threatened the financial integrity of the bank.
On 15 January 2009, the Irish government announced that it would nationalize the beleaguered bank. What went wrong? This case study will attempt to examine the ethical failings by senior executives that led to the collapse of the Anglo Irish Bank and continue to plague it to this day.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 1986 ฌอนฟิทซ์แพทริกเป็น นายกเล็กไอริชพาณิชย์ผู้ให้ยืมเรียกว่าธนาคารเมืองดับลิน ในช่วง 18 ปีถัดไป ฟิทซ์แพทริกดูแลการเจริญเติบโตของธนาคารเมืองดับลินเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 3 ในไอร์แลนด์ โดย 2007 may ธนาคาร ตอนนี้ เรียกว่า ธนาคารไอริชอังกฤษ ถึงค่าสูงสุดของ €13 พันล้านกับราคาหุ้นของ €17.60น้อยกว่าปีต่อมา ใน 2008 ธันวาคม ฟิทซ์แพทริกตะลึงโลกทางการเงิน โดยประกาศลาออกของเขาเป็นประธานของ ธนาคารอังกฤษไอริช เปิดเผยว่า ฟิทซ์แพทริกได้ซ่อนกว่า €87 ล้านบาทในเงินกู้ยืมเขาได้ทำให้พระองค์ปรบมือออกชุด tumultuous ของเดือนที่เห็นค่าของธนาคารที่ปล่อยจากสูงของ €13 พันล้านต่ำของ €242 ล้าน ในวันมา ลากรรมการหลายอย่างมากกว่าความผิดปกติเงินกู้ที่คุกคามความสมบูรณ์ทางการเงินของธนาคารออกวันที่ 15 2552 มกราคม รัฐบาลไอริชประกาศว่า มันจะ nationalize ธนาคาร beleaguered อาการที่ผิดปกติ กรณีศึกษานี้จะพยายามตรวจสอบความล้มเหลวด้านจริยธรรม โดยผู้บริหารระดับสูงที่นำไปสู่การล่มสลายของ ธนาคารอังกฤษไอริช และยังระบาดอยู่นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1986 ฌอนฟิทซ์กลายเป็นหัวหน้าผู้บริหารของผู้ให้กู้เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กของชาวไอริชที่รู้จักในฐานะเมืองดับลินธนาคาร ในช่วงอีก 18 ปีที่ผ่านมาฟิทซ์คุมการเจริญเติบโตของเมืองดับลินของธนาคารเข้ามาใน 3 ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์ โดยพฤษภาคม 2007 ธนาคารหรือที่รู้จักกันในขณะนี้เป็นแองโกลไอริชธนาคารถึงค่าสูงสุดของ€ 13000000000 กับราคาหุ้นของ€ 17.60.
เล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงหนึ่งปีต่อมาในเดือนธันวาคมปี 2008 ฟิทซ์ตะลึงโลกการเงินด้วยการประกาศลาออกของเขาในฐานะ ประธานของแองโกลไอริชธนาคาร เปิดเผยว่าฟิทซ์ซ่อนมากกว่า 87,000,000 €ในการให้สินเชื่อที่เขาได้ทำเพื่อตัวเองต่อยอดออกชุดป่วนเดือนที่ได้เห็นการลดลงของมูลค่าของธนาคารจากที่สูงของ€ 13000000000 เพื่อต่ำของ€ 242,000,000 ในวันที่มากรรมการอีกหลายลาออกไปความผิดปกติเงินกู้ที่ขู่ว่าความสมบูรณ์ทางการเงินของธนาคาร.
เมื่อวันที่ 15 เดือนมกราคม 2009 รัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศว่าจะให้สัญชาติธนาคารชั่วโมงที่ผ่านมา สิ่งที่ผิดพลาด? กรณีศึกษานี้จะพยายามที่จะตรวจสอบความล้มเหลวทางจริยธรรมโดยผู้บริหารระดับสูงที่นำไปสู่การล่มสลายของแองโกลไอริชธนาคารและยังคงทำให้เกิดภัยพิบัติมันไปในวันนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน 1986 , Sean Fitzpatrick เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของขนาดเล็กไอริชเชิงพาณิชย์กู้เรียกว่าเมืองดับลินของธนาคาร มากกว่าหลักสูตรของถัดไป 18 ปี ฟิตซ์แพทริคดูแลการเจริญเติบโตของเมืองดับลิน 3 ธนาคารเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์ ในเดือนพฤษภาคม 2550 ธนาคาร , ที่รู้จักกันในขณะนี้เป็นธนาคารแองโกล ไอริช ถึงจุดสูงสุดของโลกมูลค่า 13 ล้านกับราคาหุ้นของลูกค้า 17.60 .
น้อยกว่าปีต่อมาในเดือนธันวาคม 2008 , Fitzpatrick ตะลึงโลกการเงินด้วยการประกาศลาออกของเขาเป็นประธานของธนาคารแองโกลไอริช . เปิดเผยว่า ฟิตซ์แพทริคซ่อนมากกว่าด้าน 87 ล้านบาทในเงินให้กู้ยืมที่เขาทำขึ้นเองปกคลุมปิดชุดป่วนเดือนที่ได้เห็นคุณค่าของธนาคารลดลงจากที่สูงของโลก 13 พันล้านกับต่ำด้าน 242 ล้านบาท ในวันที่มา ,หลายเพิ่มเติมกรรมการลาออกมากกว่าเงินกู้ ความผิดปกติที่ขู่ความซื่อสัตย์ทางการเงินของธนาคาร .
ที่ 15 มกราคม 2009 , รัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศว่าจะสัญชาติธนาคารชั่วโมงที่ผ่านมา . เกิดอะไรขึ้น ? กรณีศึกษานี้จะพยายามตรวจสอบข้อบกพร่องทางจริยธรรมโดยผู้บริหารระดับสูงที่นำไปสู่การล่มสลายของธนาคารแองโกล ไอริช และยังคงรังควานมันวันนี้