subsequent phases separation and ex

subsequent phases separation and extracting of analyte in its
complexed form. Thus, acetone, acetonitrile, ethanol and methanol
were evaluated as dispersive solventwhereas 1,2-dichlorobenzene, carbon
tetrachloride and monochlorobenzene were evaluated as extraction
solvent. Initially, mixtures containing different compositions of
dispersive (500 μL) and extraction (100 μL) solvents and only those solutions
that showed a cloudy solution when mixed with wine samples
were used for further experiments. For the evaluation of the suitable
dispersive and extraction solvents for Cu and Fe determination by F
AAS, 10 mL of sample (with suitable dilution) was used followed by
the injection of different mixtures of solvents. Results are shown in
Fig. 1. As dispersive solvent, ethanol and methanol showed higher signals
for Cu combined with the other extraction solvents. However, it
was also observed for Fe only when 1,2-dichlorobenzene was used as
extraction solvent. Even ethanol has shown higher signals for Fe, the relative
standard deviation (RSD) was considerably high (about 16%). It is
important to mention that the droplet aspiration was difficult because
some crystals were formed during extraction, also contributing to the
increase of RSD. Thus,methanol and 1,2-dichlorobenzenewere selected
for both analytes as dispersive and extraction solvent, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอนต่อมาแยกและสกัดการวิเคราะห์ในของ
รูปแบบ complexed ดังนั้นอะซีโตน acetonitrile เอทานอลและเมทานอล
ได้รับการประเมินเป็น solventwhereas กระจาย 1,2-dichlorobenzene คาร์บอน
เตตราคลอไรด์และ monochlorobenzene ได้รับการประเมินการสกัด
ด้วยตัวทำละลาย ในขั้นต้นผสมที่มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันของการ
กระจาย (500 ไมโครลิตร) และการสกัด (100 ไมโครลิตร) ตัวทำละลายและมีเพียงการแก้ปัญหาเหล่านั้น
แสดงให้เห็นว่าวิธีการแก้ปัญหาที่มีเมฆเมื่อผสมกับตัวอย่างไวน์
ถูกนำมาใช้สำหรับการทดลองต่อไป สำหรับการประเมินผลที่เหมาะสม
กระจายและตัวทำละลายสกัดลูกบาศ์กและความมุ่งมั่นโดยเฟ F
AAS 10 มิลลิลิตรของกลุ่มตัวอย่าง (ที่มีการลดสัดส่วนที่เหมาะสม) ถูกนำมาใช้ตามด้วย
การฉีดสารผสมที่แตกต่างกันของตัวทำละลาย ผลการค้นหาจะแสดงใน
รูปที่ 1. ในฐานะที่เป็นตัวทำละลายกระจายเอทานอลและเมทานอลแสดงให้เห็นสัญญาณที่สูงขึ้น
สำหรับลูกบาศ์กรวมกับตัวทำละลายสกัดอื่น ๆ แต่ก็
พบว่ายังเฟเฉพาะเมื่อ 1,2-dichlorobenzene ถูกใช้เป็น
ตัวทำละลายในการสกัด แม้เอทานอลได้แสดงให้เห็นสัญญาณที่สูงขึ้นสำหรับเฟญาติ
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (RSD) อยู่ในระดับสูงมาก (ประมาณ 16%) มันเป็น
สิ่งสำคัญที่จะพูดถึงความทะเยอทะยานที่หยดเป็นเรื่องยากเพราะ
ผลึกบางคนเกิดขึ้นในระหว่างการสกัดยังเอื้อต่อการ
เพิ่มขึ้นของ RSD ดังนั้นเมทานอลและ 1,2-dichlorobenzenewere เลือก
ทั้งวิเคราะห์เป็นกระจายและตัวทำละลายในการสกัดตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การแยกและการสกัดของครูในขั้นตอนต่อมาของซับซ้อน
แบบฟอร์ม ดังนั้น อะซิโตน เอทานอล และเมทานอลไน
ได้รับการประเมินว่าเป็น solventwhereas กระจายตัว 1,2-dichlorobenzene tetrachloride คาร์บอน
monochlorobenzene , และประเมินเป็นตัวทำละลายในการสกัด

ตอนแรก ของผสมที่มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันของ
กระจายตัว ( 500 μ L ) และการสกัดด้วยตัวทำละลาย ( 100 μ L ) และโซลูชั่นเหล่านั้นมีเมฆโซลูชั่น

เมื่อผสมกับไวน์ตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองต่อไป สำหรับการประเมินที่เหมาะสม
กระจายตัวและการสกัดตัวทำละลายสำหรับทองแดง และเหล็กกำหนด f
AAS , 10 ml ของตัวอย่าง ( ด้วยเหมาะเจือจาง ) ถูกใช้ตาม
ฉีดผสมที่แตกต่างกันของสารละลายผลลัพธ์ที่แสดงในรูปที่ 1
. เป็นตัวทำละลายกระจายตัว เอทานอล และเมทานอล พบสัญญาณสูงกว่าที่ใช้
รวมกับสารละลายอื่น ๆการสกัด อย่างไรก็ตาม พบว่ามัน
,
1,2-dichlorobenzene เท่านั้นเมื่อใช้เป็นตัวทำละลายในการสกัด แม้ว่าเอทานอลได้แสดงสัญญาณที่สูงขึ้น , , ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์
( RSD ) คือสูงมาก ( ประมาณ 16 % ) มันคือ
สำคัญว่าหยดความทะเยอทะยานเป็นเรื่องยากเพราะ
ผลึกบางคนถูกสร้างขึ้นระหว่างการสกัดยังเอื้อต่อการเพิ่มขึ้นของ RSD
. ดังนั้นเลือกสำหรับสารเมทานอลและ 1,2-dichlorobenzenewere
ทั้งกระจายตัวและตัวทำละลาย , การสกัดตามลำดับ