6. Temperature and Aboveground Grow

6. Temperature and Aboveground Growth and Biomass Production
The effects of growth temperature on perennials are wide ranging, influencing many aspects of development, including leaf morphology, petiole length and stem thickness [56]. Early spring plants start their aboveground development under particular ecological conditions, i.e., comparatively low air and soil temperatures and high insolation. However, these parameters are not essential environmental factors for the completion of their short lifecycle in spring [1]. Once the leaf apex has emerged early in spring, the rapid growth of the whole plant starts. This could be guaranteed by the fact that the chloroplast structure is formed during underground growth in darkness, prior to the appearance of photosynthesis, which allows the plant to reach a maximum photosynthetic rate rapidly [57–59]. Relatively high temperatures (18/14 °C day/night temperature) during the growth period lead to faster growth in geophytes and earlier flowering. However, in this temperature range, the plants have smaller flowers and exhibit a shorter duration of vegetation. Moreover, a warmer spring always results in a lower bulb yield than for plants grown at lower temperature. In a cooler temperature (12/8 °C), bulb growth and leaf activity are maintained for a longer period [1,29,60–62]. Shorter growth time can also be explained by early activation of different sucrose-cleaving enzymes in the bulbs grown under warmer temperatures, which results in the faster shift from elongation to cell maturation and to the earlier cessation of starch accumulation [29,62]. Additionally, the rate of carbon assimilation at warmer temperatures rapidly becomes too high for the capacity to incorporate carbon into the bulb, leading to feedback inhibition of the photosynthetic rate. Since the size of the bulb is considered to be one of the major parameters that influence the quality of flowers, low temperature conditions are more favorable during the aboveground growth of early spring plants. This will promote the production of larger underground organs and flowers in the next spring.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6. อุณหภูมิ และโผล่เจริญเติบโต และการผลิตชีวมวล ผลกระทบของอุณหภูมิที่เจริญเติบโตของไม้ยืนต้นมีกว้างตั้งแต่ มีอิทธิพลต่อการพัฒนาหลายประการ รวมใบสัณฐานวิทยา ความยาวก้านใบ และก้านหนา [56] พืชต้นฤดูใบไม้ผลิเริ่มพัฒนาการโผล่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจง เช่น ค่อนข้างต่ำอุณหภูมิอากาศและดินและสูง insolation อย่างไรก็ตาม พารามิเตอร์เหล่านี้ไม่ได้ปัจจัยสิ่งแวดล้อมสำเร็จอายุสั้นในฤดูใบไม้ผลิ [1] เมื่อปลายใบได้โผล่ออกมาในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ การเติบโตอย่างรวดเร็วของโรงงานทั้งหมดเริ่มทำงาน นี้สามารถทำได้ โดยความจริงที่ว่า โครงสร้างคลอโรพลาสต์จะเกิดขึ้นในระหว่างการเจริญเติบโตใต้ดินในความมืด ก่อนการปรากฏของการสังเคราะห์แสง ซึ่งช่วยให้พืชถึงอัตราสังเคราะห์แสงสูงสุดอย่างรวดเร็ว [57-59] อุณหภูมิที่สูง (อุณหภูมิกลางวันกลางคืน 18/14 ° C) ช่วงเติบโตนำไปสู่การเจริญเติบโตเร็วใน geophytes และดอกก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในอุณหภูมิ พืชมีดอกไม้ขนาดเล็ก และมีระยะเวลาสั้นกว่าพืช นอกจากนี้ ฤดูใบไม้ผลิอากาศอบอุ่นเสมอผลผลผลิตหลอดต่ำกว่าพืชที่ปลูกในที่อุณหภูมิต่ำ ในอุณหภูมิเย็น (12/8 ° C), หลอดเติบโตและใบกิจกรรมจะยังคงอยู่เป็นเวลานาน [1,29,60-62] เวลาเจริญเติบโตสั้นสามารถยังสามารถอธิบายได้ โดยเปิดใช้งานแรกของแตกผ่าซูโครสเอนไซม์ในหลอดที่ปลูกภายใต้อุณหภูมิที่อุ่นขึ้น ผลกะเร็วจากยืดตัว เพื่อเจริญเติบโตของเซลล์ และก่อนหน้านี้เลิกสะสมแป้ง [29,62] นอกจากนี้ อัตราการดูดซึมคาร์บอนที่อุณหภูมิอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วจะสูงเกินไปสำหรับความสามารถที่จะรวมคาร์บอนเข้าไปในหลอดไฟ นำไปสู่การยับยั้งผลป้อนกลับของอัตราการสังเคราะห์แสง เนื่องจากขนาดของหลอดไฟถือว่าเป็นหนึ่งในพารามิเตอร์ที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพของดอกไม้ สภาวะอุณหภูมิต่ำดีขึ้นในระหว่างการเจริญเติบโตของพืชต้นฤดูใบไม้ผลิโผล่ นี้จะส่งเสริมการผลิตของอวัยวะใต้ดินขนาดใหญ่และดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิถัดไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6. อุณหภูมิเหนือพื้นดินและการเจริญเติบโตและการผลิตชีวมวล
ผลของอุณหภูมิในการเจริญเติบโตของไม้ยืนต้นจะกว้างตั้งแต่ที่มีอิทธิพลต่อหลายแง่มุมของการพัฒนารวมทั้งการเปลี่ยนรูปร่างของใบยาวก้านใบและลำต้นหนา [56] พืชต้นฤดูใบไม้ผลิเริ่มพัฒนาของพวกเขาเหนือพื้นดินภายใต้เงื่อนไขของระบบนิเวศโดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออากาศและดินมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำและไข้แดดสูง อย่างไรก็ตามพารามิเตอร์เหล่านี้เป็นปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่ไม่จำเป็นสำหรับความสำเร็จของวงจรชีวิตสั้นของพวกเขาในฤดูใบไม้ผลิ [1] เมื่อเอเพ็กซ์ใบได้โผล่ออกมาในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเติบโตอย่างรวดเร็วของพืชทั้งเริ่มต้น ซึ่งอาจได้รับการรับประกันจากข้อเท็จจริงที่ว่าโครงสร้าง chloroplast จะเกิดขึ้นระหว่างการเจริญเติบโตใต้ดินในความมืดก่อนที่จะมีลักษณะของการสังเคราะห์แสงซึ่งจะช่วยให้พืชที่จะไปถึงอัตราการสังเคราะห์แสงสูงสุดอย่างรวดเร็ว [57-59] อุณหภูมิค่อนข้างสูง (18/14 ° C วัน / อุณหภูมิกลางคืน) ในช่วงที่นำไปสู่ช่วงการเจริญเติบโตการเจริญเติบโตเร็วขึ้นใน geophytes และการออกดอกก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามในช่วงที่อุณหภูมินี้พืชมีดอกขนาดเล็กและแสดงระยะเวลาสั้นของพืช นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่นเสมอส่งผลให้อัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่าหลอดไฟสำหรับพืชที่ปลูกในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า ในอุณหภูมิเย็น (12/8 ° C) การเจริญเติบโตของหลอดไฟและกิจกรรมของใบมีการบำรุงรักษาเป็นระยะเวลานาน [1,29,60-62] เวลาการเจริญเติบโตสั้นยังสามารถอธิบายได้ด้วยการเปิดใช้งานในช่วงต้นของเอนไซม์ซูโครส-ฝ่าแตกต่างกันในหลอดที่ปลูกภายใต้อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นซึ่งจะส่งผลในการเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้นจากการยืดตัวของเซลล์เจริญเติบโตและเลิกก่อนหน้านี้ของการสะสมแป้ง [29,62] นอกจากนี้อัตราการดูดซึมของคาร์บอนที่อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นสูงเกินไปสำหรับความสามารถในการรวมคาร์บอนไดออกไซด์สู่หลอดไฟที่นำไปสู่การยับยั้งข้อเสนอแนะของอัตราการสังเคราะห์แสง เนื่องจากขนาดของหลอดไฟจะถือเป็นหนึ่งในพารามิเตอร์ที่สำคัญที่มีผลต่อคุณภาพของดอกไม้ที่มีอุณหภูมิต่ำเกินไปเป็นอย่างดีมากขึ้นในช่วงการเจริญเติบโตเหนือพื้นดินของพืชต้นฤดูใบไม้ผลิ นี้จะส่งเสริมการผลิตของอวัยวะใต้ดินขนาดใหญ่และดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิถัดไป