UN urges global move to meat and da

UN urges global move to meat and dairy-free diet
Lesser consumption of animal products is necessary to save the world from the worst impacts of climate change, UN report says




A global shift towards a vegan diet is vital to save the world from hunger, fuel poverty and the worst impacts of climate change, a UN report said today.




As the global population surges towards a predicted 9.1 billion people by 2050, western tastes for diets rich in meat and dairy products are unsustainable, says the report from United Nations Environment Programme's (UNEP) international panel of sustainable resource management.

It says: "Impacts from agriculture are expected to increase substantially due to population growth increasing consumption of animal products. Unlike fossil fuels, it is difficult to look for alternatives: people have to eat. A substantial reduction of impacts would only be possible with a substantial worldwide diet change, away from animal products."


Professor Edgar Hertwich, the lead author of the report, said: "Animal products cause more damage than [producing] construction minerals such as sand or cement, plastics or metals. Biomass and crops for animals are as damaging as [burning] fossil fuels."


The recommendation follows advice last year that a vegetarian diet was better for the planet from Lord Nicholas Stern, former adviser to the Labour government on the economics of climate change. Dr Rajendra Pachauri, chair of the UN's Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC), has also urged people to observe one meat-free day a week to curb carbon emissions.

The panel of experts ranked products, resources, economic activities and transport according to their environmental impacts. Agriculture was on a par with fossil fuel consumption because both rise rapidly with increased economic growth, they said.

Ernst von Weizsaecker, an environmental scientist who co-chaired the panel, said: "Rising affluence is triggering a shift in diets towards meat and dairy products - livestock now consumes much of the world's crops and by inference a great deal of freshwater, fertilisers and pesticides.

Both energy and agriculture need to be "decoupled" from economic growth because environmental impacts rise roughly 80% with a doubling of income, the report found.

Achim Steiner, the UN under-secretary general and executive director of the UNEP, said: "Decoupling growth from environmental degradation is the number one challenge facing governments in a world of rising numbers of people, rising incomes, rising consumption demands and the persistent challenge of poverty alleviation."

The panel, which drew on numerous studies including the Millennium ecosystem assessment, cites the following pressures on the environment as priorities for governments around the world: climate change, habitat change, wasteful use of nitrogen and phosphorus in fertilisers, over-exploitation of fisheries, forests and other resources, invasive species, unsafe drinking water and sanitation, lead exposure, urban air pollution and occupational exposure to particulate matter.

Agriculture, particularly meat and dairy products, accounts for 70% of global freshwater consumption, 38% of the total land use and 19% of the world's greenhouse gas emissions, says the report, which has been launched to coincide with UN World Environment day on Saturday.

Last year the UN's Food and Agriculture Organisation said that food production would have to increase globally by 70% by 2050 to feed the world's surging population. The panel says that efficiency gains in agriculture will be overwhelmed by the expected population growth.

Prof Hertwich, who is also the director of the industrial ecology programme at the Norwegian University of Science and Technology, said that developing countries – where much of this population growth will take place – must not follow the western world's pattern of increasing consumption: "Developing countries should not follow our model. But it's up to us to develop the technologies in, say, renewable energy or irrigation methods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สหประชาชาติที่ขอก่อนส่งกลับโลกไปเนื้อและอาหารโคนมฟรีปริมาณการใช้น้อยกว่าผลิตภัณฑ์สัตว์จำเป็นต้องบันทึกโลกจากผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สหประชาชาติรายงานว่ากะสากลต่ออาหารมังสวิรัติมีความสำคัญต่อการบันทึกโลกจากความหิว ความยากจนเชื้อเพลิง และผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายงานสหประชาชาติกล่าวว่า วันนี้ขณะที่ประชากรโลกกระชากต่อการคาดการณ์ 9.1 พันล้านคนภายในปี 2050 รสนิยมตะวันตกอาหารที่อุดมไปด้วยเนื้อสัตว์และนมจะ unsustainable กล่าวว่า รายงานจากสหประชาชาติโครงการสิ่งแวดล้อมของ (UNEP) แผงนานาชาติการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนกล่าวว่า: "ผลกระทบจากการเกษตรคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากอัตราการเติบโตเพิ่มปริมาณของผลิตภัณฑ์สัตว์ ซึ่งแตกต่างจากเชื้อเพลิงฟอสซิล จึงยากที่จะหาทางเลือก: คนต้องกิน ลดผลกระทบที่พบเท่านั้นจะได้ มีการเปลี่ยนแปลงอาหารพบทั่วโลก จากผลิตภัณฑ์สัตว์"ศาสตราจารย์ Edgar Hertwich ผู้เขียนนำรายงาน กล่าวว่า: "ผลิตภัณฑ์สัตว์ทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมกว่า [ผลิต] แร่ก่อสร้างเช่นทราย หรือซีเมนต์ พลาสติก หรือโลหะ พืชสัตว์และชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็น [เขียน] ทำลาย"ข้อแนะนำตามคำแนะนำเมื่อปีที่แล้วว่า อาหารมังสวิรัติดีกว่าสำหรับดาวเคราะห์จากพระเจ้านิโคลัสสเติร์น อดีตที่ปรึกษารัฐบาลแรงงานเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดร. Rajendra Pachauri เก้าอี้ของสหประชาชาติว่าด้วยแผงในสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (IPCC), ยังได้เรียกร้องให้คนเดียวฟรีเนื้อวันต่อสัปดาห์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแผงของผู้เชี่ยวชาญอันดับสินค้า ทรัพยากร กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการขนส่งตามผลกระทบของสิ่งแวดล้อม เกษตรไม่เท่าเทียมกันมีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเนื่องจากทั้งสองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น พวกเขากล่าวว่าเอิร์นสท์ฟอน Weizsaecker เป็นนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ร่วมประเทศแผง กล่าวว่า: affluence ไรซิ่งเป็นการทริกเกอร์กะในอาหารเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม - ปศุสัตว์ตอนนี้ใช้มากในโลกพืช และ โดยข้อปลา ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงมากขึ้นพลังงานและการเกษตรจำเป็นต้องมี "decoupled" จากการเติบโตทางเศรษฐกิจเนื่องจากผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นประมาณ 80% พร้อมจะกำไรขาดทุน รายงานพบAchim Steiner, UN under-secretary ผู้บริหารทั่วไป และผู้อำนวยการของ UNEP กล่าวว่า: "เจริญเติบโตจากการย่อยสลายของสิ่งแวดล้อมของ Decoupling เป็นความท้าทายอย่างที่หันหน้าไปทางรัฐบาลในโลกเพิ่มขึ้นจำนวนคน รายได้เพิ่ม ต้องการใช้เพิ่มขึ้นและความท้าทายในแบบการบรรเทาความยากจน"แผง ที่ดึงศึกษาจำนวนมากรวมถึงการประเมินระบบนิเวศมิลเลนเนียม สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดแรงกดดันต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญสำหรับรัฐบาลทั่วโลก: เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เปลี่ยนที่อยู่อาศัย wasteful การใช้ไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในปุ๋ย ประมง ป่าไม้ และอื่น ๆ ทรัพยากร พันธุ์รุกราน น้ำดื่มปลอดภัย และ สุขาภิบาล ประโยชน์เกินนำแสง เมืองมลพิษ และอุบัติเหตุกับเรื่องฝุ่นด้วยAgriculture, particularly meat and dairy products, accounts for 70% of global freshwater consumption, 38% of the total land use and 19% of the world's greenhouse gas emissions, says the report, which has been launched to coincide with UN World Environment day on Saturday.Last year the UN's Food and Agriculture Organisation said that food production would have to increase globally by 70% by 2050 to feed the world's surging population. The panel says that efficiency gains in agriculture will be overwhelmed by the expected population growth.Prof Hertwich, who is also the director of the industrial ecology programme at the Norwegian University of Science and Technology, said that developing countries – where much of this population growth will take place – must not follow the western world's pattern of increasing consumption: "Developing countries should not follow our model. But it's up to us to develop the technologies in, say, renewable energy or irrigation methods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สหประชาชาติเรียกร้องให้ย้ายทั่วโลกเพื่อเนื้อสัตว์และอาหารนมฟรีบริโภคเลสเบี้ยนของผลิตภัณฑ์จากสัตว์เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยโลกจากผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรายงานของสหประชาชาติกล่าวว่ากะทั่วโลกที่มีต่ออาหารมังสวิรัติเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยโลกจากความหิวน้ำมันเชื้อเพลิงความยากจนและผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นรายงานของสหประชาชาติกล่าวว่าวันนี้. ในขณะที่ประชากรโลกกระชากไปสู่การคาดการณ์ 9100000000 คนภายในปี 2050 รสนิยมตะวันตกอาหารที่อุดมไปด้วยเนื้อและผลิตภัณฑ์นมมีความไม่ยั่งยืนกล่าวว่ารายงานจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติของ . (UNEP) แผงระหว่างประเทศของการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนมันกล่าวว่า"ผลกระทบจากการเกษตรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการเติบโตของประชากรที่เพิ่มขึ้นการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ซึ่งแตกต่างจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมันเป็นเรื่องยากที่จะมองหาทางเลือก.. คนมีกิน . ลดลงอย่างมากของผลกระทบที่จะเป็นไปได้ด้วยที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงอาหารทั่วโลกอยู่ห่างจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ "ศาสตราจารย์เอ็ดการ์Hertwich, ผู้เขียนนำรายงานกล่าวว่า" ผลิตภัณฑ์สัตว์ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่า [ผลิต] แร่ธาตุก่อสร้างเช่นทรายหรือ ซีเมนต์พลาสติกหรือโลหะ ชีวมวลและพืชสัตว์จะเป็นที่สร้างความเสียหายเป็น [การเผาไหม้] เชื้อเพลิงฟอสซิล. "คำแนะนำต่อไปนี้คำแนะนำที่ปีที่ผ่านมาว่าอาหารมังสวิรัติเป็นเรื่องที่ดีสำหรับโลกจากพระเจ้านิโคลัสสเติร์นอดีตที่ปรึกษารัฐบาลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศดร. ราเชนท Pachauri ประธานคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ได้กระตุ้นให้คนยังจะสังเกตวันเนื้อฟรีหนึ่งสัปดาห์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน. แผงของผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์การจัดอันดับทรัพยากรกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการขนส่งตามพวกเขา . ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกษตรในหุ้นที่มีปริมาณการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเนื่องจากทั้งสองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นพวกเขากล่าวว่า. เอิร์นส์ฟอน Weizsaecker นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ร่วมเป็นประธานแผงกล่าวว่า "ที่เพิ่มขึ้นความมั่งคั่งจะเรียกการเปลี่ยนแปลงในอาหารที่มีต่อ เนื้อและผลิตภัณฑ์นม - ปศุสัตว์ตอนนี้กินมากของพืชของโลกและโดยการอนุมานจัดการที่ดีของน้ำจืดปุ๋ยและยาฆ่าแมลง. ทั้งพลังงานและการเกษตรจะต้องมีการ "หลุดพ้น" จากการเติบโตทางเศรษฐกิจเพราะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นประมาณ 80% ที่มีการเพิ่มขึ้นของ . รายได้รายงานว่าAchim Steiner สหประชาชาติภายใต้เลขานุการผู้อำนวยการทั่วไปและการบริหารของ UNEP กล่าวว่า "การเจริญเติบโตของ Decoupling จากความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนหนึ่งในความท้าทายที่หันหน้าไปทางรัฐบาลในโลกของตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของคนรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น . ความต้องการการบริโภคและการท้าทายถาวรของการบรรเทาความยากจน "แผงที่ดึงในการศึกษาจำนวนมากรวมถึงการประเมินระบบนิเวศที่มิลเลนเนียมอ้างอิงแรงกดดันต่อไปนี้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นลำดับความสำคัญสำหรับรัฐบาลทั่วโลก: เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยของใช้สิ้นเปลืองของไนโตรเจน และฟอสฟอรัสในปุ๋ยการแสวงหาผลประโยชน์มากกว่าการประมงป่าไม้และทรัพยากรอื่น ๆ ชนิดแพร่กระจายน้ำดื่มที่ไม่ปลอดภัยและสุขอนามัยนำไปสู่การเปิดรับมลพิษทางอากาศในเมืองและการสัมผัสสารอนุภาค. เกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อและผลิตภัณฑ์นมบัญชีสำหรับ 70% ของการบริโภคน้ำจืดทั่วโลก 38% ของการใช้ที่ดินและ 19% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกกล่าวว่ารายงานที่ได้รับการเปิดตัวให้ตรงกับวันสหประชาชาติสิ่งแวดล้อมโลกในวันเสาร์. ปีที่ผ่านมาอาหารของสหประชาชาติและเกษตรกล่าวว่า การผลิตอาหารจะต้องมีการเพิ่มทั่วโลกโดย 70% ภายในปี 2050 ที่จะเลี้ยงประชากรพล่านของโลก แผงกล่าวว่าการเพิ่มประสิทธิภาพในการเกษตรจะถูกครอบงำด้วยการเติบโตของประชากรที่คาดหวัง. ศ Hertwich ซึ่งยังเป็นผู้อำนวยการโปรแกรมระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่มหาวิทยาลัยนอร์เวย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวว่าประเทศกำลังพัฒนา - ที่มากของการเจริญเติบโตของประชากรกลุ่มนี้ ที่จะเกิดขึ้น - ต้องไม่เป็นไปตามรูปแบบโลกตะวันตกของบริโภคที่เพิ่มขึ้น: "ประเทศกำลังพัฒนาไม่ควรเป็นไปตามรูปแบบของเรา แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเราในการพัฒนาเทคโนโลยีในการพูดการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือวิธีการชลประทาน.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยูเอ็นเรียกร้องโลกย้ายเนื้อและผลิตภัณฑ์นมฟรีอาหาร
น้อยกว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยโลกจากผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ , รายงานของสหประชาชาติกล่าว




ทั่วโลกเปลี่ยนต่ออาหารมังสวิรัติเป็นสําคัญที่จะช่วยโลกจากความหิวความยากจนเชื้อเพลิงและผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ , รายงานของสหประชาชาติกล่าวว่า วันนี้




เป็นประชากรโลก กระชากต่อค่า 91 พันล้านคน ภายในปี 2050 , รสนิยมตะวันตก สำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยเนื้อสัตว์และนมจะไม่ยั่งยืน กล่าวว่า จากรายงานของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ( UNEP ) แผงระหว่างประเทศของการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

มันกล่าวว่า : " ผลกระทบจากการเกษตร ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการเติบโตของประชากรเพิ่มการบริโภคของผลิตภัณฑ์สัตว์ ซึ่งแตกต่างจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมันเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาทางเลือก คนต้องกิน การลดลงอย่างมากของผลกระทบเท่านั้นจะเป็นไปได้ด้วยการเปลี่ยนอาหารทั่วโลกที่สำคัญจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ "


hertwich ศาสตราจารย์เอ็ดการ์ , ผู้เขียนหลักของรายงานกล่าวว่า " ผลิตภัณฑ์สัตว์ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่า [ การผลิต ] สร้างแร่ธาตุเช่นทราย หรือปูน , พลาสติก หรือโลหะชีวมวลพืชและสัตว์จะสร้างความเสียหายเป็น [ การเผาไหม้ ] เชื้อเพลิงฟอสซิล "


แนะนำตามคำแนะนำเมื่อปีที่แล้วว่าอาหารมังสวิรัติจะดีกว่าสำหรับดาวเคราะห์จากพระเจ้านิโคลัส สเติร์น อดีตที่ปรึกษารัฐบาลแรงงานต่อเศรษฐศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดร ราเชนทรา ปาจา รี , เก้าอี้ของสหประชาชาติแผงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( IPCC )ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนสังเกตหนึ่งเนื้อฟรีวันต่อสัปดาห์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

แผงของผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดอันดับผลิตภัณฑ์ ทรัพยากร กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการขนส่งตามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม . การเกษตรบน par กับเชื้อเพลิงฟอสซิล เพราะทั้งสองลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เขากล่าวว่า weizsaecker Ernst von

,สิ่งแวดล้อมนักวิทยาศาสตร์ที่ร่วมเป็นประธานแผง , กล่าวว่า : " ความมั่งคั่งคือการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นในอาหารที่มีต่อผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และนมปศุสัตว์ - ตอนนี้ใช้มากของโลกพืชและการจัดการที่ดีของปลา ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง

ทั้งพลังงานและการเกษตรต้องมี " แบบ " จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นประมาณ 80% เป็นสองเท่าของรายได้ รายงานพบ

Achim Steiner , สหประชาชาติภายใต้เลขาธิการและกรรมการบริหารของ UNEP กล่าวว่า : " decoupling การเจริญเติบโตจากความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งความท้าทายหันหน้าไปทางรัฐบาลใน โลกของตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของผู้คนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการบริโภค ความต้องการและความท้าทายถาวรของความยากจน . "

แผงซึ่งมาศึกษามากมายรวมทั้งสหัสวรรษระบบนิเวศการประเมิน cites ต่อไปนี้แรงกดดันในสภาพแวดล้อมที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับรัฐบาลทั่วโลก : การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ , การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม ใช้ฟุ่มเฟือยของไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในปุ๋ย ,มากกว่าการประมง ป่าไม้ และทรัพยากรอื่น ๆที่แพร่กระจายพันธุ์ น้ำดื่ม ปลอดภัยและสะอาด นำแสง มลพิษอากาศในเมือง และการสัมผัสฝุ่นละออง

ภาคการเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม , 70% ของปริมาณน้ำจืด ( 38% ของทั้งหมดการใช้ที่ดิน และ 19% ของ โลกของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กล่าวรายงานซึ่งได้เปิดตัวให้ตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลกสหประชาชาติเมื่อวันเสาร์

ปีที่แล้วของสหประชาชาติองค์การอาหารและเกษตร กล่าวว่า การผลิตอาหารจะต้องเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดย 70% ภายในปี 2050 เพื่อเลี้ยงประชากรของโลกเพิ่มขึ้น . แผงกล่าวว่าประสิทธิภาพในการเกษตรจะได้รับอย่างแน่นอน โดยคาดว่า การเติบโตของประชากร .

hertwich ศ ,ที่ยังเป็นผู้อำนวยการของนิเวศวิทยาอุตสาหกรรมหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยนอร์เวย์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การพัฒนาประเทศและการเติบโตของประชากรที่มากมายนี้จะเกิดขึ้นและต้องไม่ตามแบบโลกตะวันตกของการบริโภคเพิ่ม : " การพัฒนาประเทศไม่ควรตามแบบของเรา แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเราที่จะพัฒนาเทคโนโลยีในการ พูด