utilized availability sampling, thu

utilized availability sampling, thus making
generalizations difficult. Another significant
limitation of the research is the reliance on
self-report measures. For instance,
grandparents reported their grandchild’s
diagnosis. There were no reliability or validity
data pertaining to the accuracy of the selfreported
diagnosis. Finally, there was only
one controlled study found examining a
specific intervention for this population.
Previous researchers have done well to
identify a “new” population of need, but
further research is needed to fully understand
the scope of the problem and how best to
intervene. Further research could clarify
whether interventions that work with parents
would also be effective with grandparents.
Most importantly, this review of research
points out that there is a large variation in the
experience of caring for a child with a
disability. Practitioners need to be aware of
the fact that care giving produces both positive
and negative experiences. Parents and
grandparents may react to the care giving
experience in many different ways. In
addition, practitioners need to keep in mind
that caregivers and other family members
have needs for support in addition to the needs
of the child with the disability. This review of
literature points out that healthy family
functioning is important and that practitioners
need to support the needs of the entire family
and not just the needs of the child with a
disability. Finally, the research suggests that
the way family members perceive their care
giving experience may be just as important
for their coping and functioning as the actual
day-to-day demands of care giving.
Practitioners working with young children
can play an important role in helping family
members reframe their care giving experience
in positive ways and assisting family members
in feeling like they have the knowledge, skills,
and ability to successfully advocate for what
their children need.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้การสุ่มตัวอย่างมีอยู่ จึง ทำให้generalizations ยาก อีกอย่างมีนัยสำคัญข้อจำกัดของการวิจัยคือ ความเชื่อมั่นในรายงานการประเมินตนเอง ตัวอย่างปู่ย่าตายายของหลานชายของพวกเขาได้รายงานวินิจฉัย มีความน่าเชื่อถือหรือความไม่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความถูกต้องของ selfreportedวินิจฉัย ในที่สุด มีเท่านั้นหนึ่งควบคุมศึกษาพบการตรวจสอบการแทรกแซงที่เฉพาะเจาะจงสำหรับประชากรนี้ก่อนหน้านี้นักวิจัยได้ทำดีระบุประชากรจำเป็น "ใหม่" แต่เพิ่มเติม งานวิจัยจะต้องเข้าใจขอบเขตของปัญหา และวิธีที่ดีที่สุดแทรกแซง การวิจัยได้ชี้แจงว่า งานวิจัยที่ทำงานกับผู้ปกครองนอกจากนี้ยังจะมีผลกับปู่ย่าตายายสำคัญที่สุด นี้ทบทวนงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในการมีประสบการณ์ดูแลเด็กที่มีความพิการ ผู้ที่จำเป็นต้องทราบความจริงที่ว่า ดูแลให้ผลิตทั้งบวกและประสบการณ์เชิงลบ ผู้ปกครอง และปู่ย่าตายายอาจตอบสนองกับการดูแลประสบการณ์ในหลายวิธี ในนอกจากนี้ ผู้ต้องการเก็บไว้ในใจที่เรื้อรังและสมาชิกในครอบครัวมีความต้องการสำหรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากความต้องการเด็กที่พิการ ตรวจทานนี้เอกสารประกอบการชี้ให้เห็นว่าครอบครัวสุขภาพทำงานเป็นสิ่งสำคัญ และผู้ที่ต้องการรองรับความต้องการของครอบครัวทั้งหมดและไม่ใช่แค่ความต้องการของเด็กด้วยการdisability. Finally, the research suggests thatthe way family members perceive their caregiving experience may be just as importantfor their coping and functioning as the actualday-to-day demands of care giving.Practitioners working with young childrencan play an important role in helping familymembers reframe their care giving experiencein positive ways and assisting family membersin feeling like they have the knowledge, skills,and ability to successfully advocate for whattheir children need.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใช้การสุ่มตัวอย่างความพร้อมจึงทำให้ภาพรวมเรื่องยาก อย่างมีนัยสำคัญอีกข้อ จำกัด ของการวิจัยคือความเชื่อมั่นในมาตรการตนเองรายงาน ยกตัวอย่างเช่นปู่ย่าตายายรายงานหลานของพวกเขาวินิจฉัย ไม่มีความน่าเชื่อถือหรือความถูกต้องเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความถูกต้องของ selfreported วินิจฉัย ในที่สุดก็มีเพียงการศึกษาหนึ่งที่ควบคุมพบว่าการตรวจสอบการแทรกแซงที่เฉพาะเจาะจงสำหรับประชากรกลุ่มนี้. นักวิจัยก่อนหน้านี้ได้ทำดีเพื่อระบุ "ใหม่" ประชากรของความจำเป็น แต่การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เข้าใจขอบเขตของปัญหาและวิธีการที่ดีที่สุดที่จะเข้ามาแทรกแซง. นอกจากนี้การวิจัยจะชี้แจงว่าการแทรกแซงที่ทำงานร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองก็จะมีประสิทธิภาพกับปู่ย่าตายาย. สิ่งสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ามีความแตกต่างขนาดใหญ่ในประสบการณ์ในการดูแลเด็กที่มีความพิการ ผู้ประกอบการจะต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่าให้ดูแลการผลิตทั้งในเชิงบวกประสบการณ์และลบ ผู้ปกครองและปู่ย่าตายายอาจจะตอบสนองต่อการดูแลให้ประสบการณ์ในหลายๆ ในนอกจากนี้ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องเก็บไว้ในใจว่าผู้ดูแลผู้ป่วยและสมาชิกในครอบครัวอื่นๆ ที่มีความต้องการสำหรับการสนับสนุนนอกเหนือไปจากความต้องการของเด็กที่มีความพิการ การทบทวนนี้วรรณกรรมชี้ให้เห็นว่าครอบครัวมีสุขภาพดีการทำงานเป็นสิ่งสำคัญและผู้ปฏิบัติงานที่จำเป็นเพื่อรองรับความต้องการของครอบครัวทั้งหมดและไม่เพียงแต่ความต้องการของเด็กที่มีความพิการ ในที่สุดการวิจัยแสดงให้เห็นว่าวิธีการที่สมาชิกในครอบครัวรับรู้ดูแลของพวกเขาประสบการณ์ให้อาจจะเป็นเพียงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเผชิญปัญหาของพวกเขาและทำงานเป็นจริงความต้องการแบบวันต่อวันของการให้การดูแล. ผู้ประกอบการที่ทำงานกับเด็กเล็กสามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยครอบครัวสมาชิกวางใหม่ดูแลของพวกเขาให้ประสบการณ์ในทางบวกและให้ความช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวในความรู้สึกเหมือนพวกเขามีความรู้ทักษะและความสามารถในการประสบความสำเร็จในสิ่งที่สนับสนุนให้เด็กของพวกเขาต้องการ