ประเพณีบุญเบิกฟ้า “ประเพณีบุญเบิกฟ้

ประเพณีบุญเบิกฟ้า
“ประเพณีบุญเบิกฟ้า ช่วงวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ชาวนาอีสานตอบแทนผืนแผ่นดินทำกิน โดยการใช้ปุ๋ยคอกทำจากมูลสัตว์กลับคืนสู่ผืนดินให้มีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง อีกทั้งสายฝนแรกของปีก็กำลังจะมา ฟ้ากำลังจะร้อง เมื่อมาทิศใดก็จะทำนายความอุดมสมบูรณ์ในปีนั้นๆ ไปตามความเชื่อดั้งเดิม”
ชาวนาใช้ประโยชน์จากพื้นดินมายาวนาน ตลอดระยะเวลาการเพาะปลูก ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดินได้สูญสลายไป เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยว เมล็ดข้าวที่เติบโตจนได้สีทองล้วนเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้มอบให้ ซึ่งชาวนาต่างรู้และสำนึกในบุญคุณของผืนแผ่นดิน ด้วยการคืนธาตุ คืนอาหารเป็นการตอบแทน อาการที่ว่าก็คือปุ๋ยนั่นเอง เดือน ๓ เดือนมหัศจรรย์ของชาวอีสาน นอกจากเป็นเดือนที่อุดมสมบูรณ์แล้วยังเป็นเดือนเริ่มต้นฤดูฝน ซึ่งจะมีเสียงฟ้าร้อง และมีความเชื่อว่าในวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ นี้ เมื่อมีฟ้าร้องมาจากทิศทางใดจะเป็นสัญญาณบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของฝนในปีนั้นๆ การทำนายดังกล่าวนับว่ามีความแม่นยำจนมีการจดบันทึกคำทำนายเป็นกลอนไว้เป็นหลักฐาน ชื่อว่า “โสลกฝน” ประเพณีบุญเบิกฟ้าเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ ชาวบ้านแบก ตำบลนาทอง อำเภอเชียงยืน ได้ฟื้นฟูประเพณีหาบฝุ่นปุ๋ยคอกไปใส่แปลงนาทุกครัวเรือนเพื่อเป็นการฟื้นฟูประเพณีบำรุงดินแบบอีสานจากความร่วมมือของชุมชนปรากฏว่าผลผลิตข้าวในปีนั้นเพิ่มจำนวนขึ้นเท่าตัว ชาวบ้านจึงจัดงานประเพณีนี้เรื่อยมา และกลายเป็นงานประเพณีประจำปีของจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลา ๗ วัน ๗ คืน เมื่อถึงกำหนดงานชาวบ้านต่างช่วยกันหาบปุ๋ยคอกไปใส่ลงในแปลงนา ควบคู่กับพิธีบูชาพระแม่ธรณี ตั้งเครื่องสังเวย เหล้าไห ไก่ต้ม ของหวาน กล้วย อ้อย ตามรูปแบบพิธีกรรมดั้งเดิม ซึ่งนับเป็นประเพณีที่สมบูรณ์ และสะท้อนภาพวิถีชีวิตของชาวอีสานอย่างแท้จริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่วงวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตชาวนาอีสานตอบแทนผืนแผ่นดินทำกิน อีกทั้งสายฝนแรกของปีก็กำลังจะมาฟ้ากำลังจะร้อง
ตลอดระยะเวลาการเพาะปลูก เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยว ด้วยการคืนธาตุคืนอาหารเป็นการตอบแทนอาการที่ว่าก็คือปุ๋ยนั่นเองเดือน 3 เดือนมหัศจรรย์ของชาวอีสาน ซึ่งจะมีเสียงฟ้าร้องและมีความเชื่อว่าในวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 นี้ ชื่อว่า "โสลกฝน" ประเพณีบุญเบิกฟ้าเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 ชาวบ้านแบกตำบลนาทองอำเภอเชียงยืน ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลา 7 วัน 7 คืน ควบคู่กับพิธีบูชาพระแม่ธรณีตั้งเครื่องสังเวยเหล้าไหไก่ต้มของหวานกล้วยอ้อยตามรูปแบบพิธีกรรมดั้งเดิมซึ่งนับเป็นประเพณีที่สมบูรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเพณีบุญเบิกฟ้า
" ประเพณีบุญเบิกฟ้าช่วงวันขึ้นค่ำเดือนหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตชาวนาอีสานตอบแทนผืนแผ่นดินทำกินโดยการใช้ปุ๋ยคอกทำจากมูลสัตว์กลับคืนสู่ผืนดินให้มีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้งล่ะกันฟ้ากำลังจะร้องเมื่อมาทิศใดก็จะทำนายความอุดมสมบูรณ์ในปีนั้นๆไปตามความเชื่อดั้งเดิม "
ชาวนาใช้ประโยชน์จากพื้นดินมายาวนานตลอดระยะเวลาการเพาะปลูกความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดินได้สูญสลายไปเมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าวที่เติบโตจนได้สีทองล้วนเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้มอบให้ด้วยการคืนธาตุคืนอาหารเป็นการตอบแทนอาการที่ว่าก็คือปุ๋ยนั่นเองเดือนเดือนมหัศจรรย์ของชาวอีสานนอกจากเป็นเดือนที่อุดมสมบูรณ์แล้วยังเป็นเดือนเริ่มต้นฤดูฝนซึ่งจะมีเสียงฟ้าร้องกันไป ไป ค่ำเดือนนี้เมื่อมีฟ้าร้องมาจากทิศทางใดจะเป็นสัญญาณบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของฝนในปีนั้นๆการทำนายดังกล่าวนับว่ามีความแม่นยำจนมีการจดบันทึกคำทำนายเป็นกลอนไว้เป็นหลักฐานชื่อว่า " โสลกฝน "พ .ศ .๒๕๒๘ชาวบ้านแบกตำบลนาทองอำเภอเชียงยืนชาวบ้านจึงจัดงานประเพณีนี้เรื่อยมาและกลายเป็นงานประเพณีประจำปีของจังหวัดมหาสารคามซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลา๗ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า๗คืนเมื่อถึงกำหนดงานชาวบ้านต่างช่วยกันหาบปุ๋ยคอกไปใส่ลงในแปลงนา