The Manufacturing ProcessExtraction

The Manufacturing
Process
Extraction
1 The manufacture of instant coffee begins with brewing coffee in highly efficient extraction equipment. Softened water is passed through a series of five to eight columns of ground coffee beans. The water first passes through several "hot" cells (284-356°F, or 140-180°C), at least some of which operate at higher-than-atmospheric pressure, for extraction of difficult components like carbohydrates. It then passes through two or more "cold" cells (about 212°F, or 100°C) for extraction of the more flavorful elements. The extract is passed through a heat exchanger to cool it to about 40°F (5°C). By the end of this cycle, the coffee extract contains 20-30% solids.
Filtration and concentration
2 After a filtering step, the brewed coffee is treated in one of several ways to increase its concentration. The goal is to create an extract that is about 40% solids. In some cases, the liquid is processed in a centrifuge to separate out the lighter water from the heavier coffee extract. Another technique is to remove water by evaporation before cooling the hot, brewed extract. A third alternative is to cool the extract enough to freeze water, and then mechanically separate the ice crystals from the coffee concentrate.
Recovery of aromatic volatiles
3 Part of the enjoyment of making and drinking coffee is smelling the aroma. During the several steps of the manufacturing process, volatile aromatic elements are lost; they must be returned in a later step to produce an attractive instant coffee product. Aromatics can be recovered during several stages of the manufacturing process. For instance, gases released during the roasting and/or grinding processes can be collected. Ground, roasted coffee can be heated to release additional aromatic gases. Passing steam or appropriate solvents through a bed of ground, roasted coffee can strip and capture aromatic components. Aromatic oils can be expressed from spent coffee grounds by exerting pressure of at least 2,000 lb per sq in (14,000 kPa). Gases can also be distilled from coffee extract after the brewing process is complete.
4 To preserve as much of the aroma and flavor as possible, oxygen is removed from the coffee extract. This is accomplished by foaming other gases, such as carbon dioxide or nitrogen, through the liquid before it enters the dehydration phase of the manufacturing process.
Dehydration
Two basic methods are available for converting the liquid coffee extract to a dry form. Spray drying is done at a higher temperature, which affects the taste of the final product, but it is less costly than freeze drying.

Spray drying
5 Cooled, clarified liquid concentrate is sprayed through a nozzle at the top of a drying tower. The tower is at least 75 ft (23 m) tall. Air that has been heated to about 480°F (250°C) is blown downward through the mist to evaporate the water. The air is diverted out of the tower near the bottom, and it is filtered to remove fine particles, which can be recirculated back through the tower or reintroduced during the agglomeration step. The dry coffee powder collects in the bottom of the tower before being discharged for further processing. The resulting powder contains 2-4% moisture and consists of free-flowing, non-dusty particles.
6 Spray drying may be followed by a step to form the powder into coarser particles that will dissolve more completely in the consumer's cup. The agglomeration process Instant Coffee basically involves rewetting the surfaces of the coffee powder particles and bringing the particles into contact, so that they will adhere to each other and form larger, more granular particles. This is accomplished by exposing the powder to steam or a fine mist, while tumbling it in the air.
Freeze drying
7 Freeze drying may be used instead of spray drying. The process involves four steps, beginning with "primary freezing." Coffee extract is chilled to a slushy consistency at about 20°F (-6°C).
8 The prechilled slush is placed on a steel belt, trays, or drums and further cooled in a series of steps, until it reaches a temperature of -40-(-50)°F (-40-[-45]°C). Quick cooling processes (taking 30-120 seconds) result in smaller, lighter colored products, while slower processes (taking 10-180 minutes) generate larger, darker granules.
9 The slabs of ice are broken into pieces and ground into particles of the proper size for the drying step. The particles are sieved to ensure proper sizing, and those that are too small are melted and returned to the primary freezing stage.
10 The frozen particles are sent into a drying chamber where, under proper conditions of heat and vacuum, the ice vaporizes and is removed.
Aromatization
11 Volatile aromas that have been recovered from earlier steps in the manufacturing process are sprayed on the dry coffee particles. This may be done during the packaging operation.
Packaging
12 Instant coffee particles are hygroscopic—that is, they absorb moisture from the air. Consequently, they must be packaged under low humidity conditions in a moisture-proof container to keep the product dry until purchased and opened by the consumer. Also, to prevent loss of aroma and flavor, the product is packaged in a low-oxygen atmosphere (usually carbon dioxide or nitrogen).
Byproducts/Waste
Spent coffee grounds from the brewing process are the primary waste product. At least one manufacturer burns these grounds to heat water and generate steam that is used in the manufacturing process. The process is designed to be environmentally friendly, minimizing waste products by maximizing the use of the raw materials.



Read more: http://www.madehow.com/Volume-3/Instant-Coffee.html#ixzz3qQ8ZD4id

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การผลิต กระบวนการสกัด1 การผลิตกาแฟสำเร็จรูปเริ่มต้น ด้วยการทำการหมักกาแฟอุปกรณ์สกัดที่มีประสิทธิภาพสูง น้ำก่อจะผ่านชุดของคอลัมน์ 5-8 เมล็ดกาแฟดิน แรกผ่านน้ำผ่านหลาย "ร้อน" เซลล์ (284-356° F, 140-180° C), น้อยบางที่ทำงานที่ความดันสูงกว่าบรรยากาศ การสกัดองค์ประกอบยากเช่นคาร์โบไฮเดรต แล้วผ่าน น้อยสอง "เย็น" เซลล์ (เกี่ยวกับ 212 ° F หรือ 100° C) สำหรับการแยกองค์ประกอบระบุเพิ่มเติม การดึงข้อมูลจะผ่านเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนเย็นถึงประมาณ 40° F (5° C) สิ้นสุดของรอบนี้ สารสกัดกาแฟประกอบด้วยของแข็ง 20-30%กรองและความเข้มข้น2 หลังจากขั้นตอนการกรอง การกาแฟจะถือว่าหนึ่งในหลายวิธีเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของ เป้าหมายคือการ สร้างส่วนที่เป็นของแข็งประมาณ 40% ในบางกรณี ของเหลวจะถูกประมวลผลในเครื่องหมุนเหวี่ยงเพื่อแยกน้ำเบาจากสารสกัดกาแฟหนัก อีกเทคนิคคือการ เอาน้ำ โดยระเหยก่อนเย็นสกัดร้อน สตรอเบอรี่ ทางเลือกที่สามคือให้เย็นสารสกัดพอแช่น้ำแข็ง แล้ว กลไกแยกผลึกน้ำแข็งจากข้นกาแฟกู้คืน volatiles หอมภาค 3 และพักผ่อนหย่อนใจ และดื่มกาแฟจะหอมกลิ่นหอม ในระหว่างขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการผลิต องค์ประกอบหอมระเหยหายไป จะต้องส่งคืนในขั้นตอนหลังการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปที่น่าสนใจ อะโรเมติกส์สามารถกู้คืนในระหว่างขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการผลิต ตัวอย่าง ก๊าซที่ปล่อยออกมาในระหว่างการคั่วหรือบดกระบวนสามารถรวบรวม ดิน กาแฟคั่วสามารถถูกความร้อนปล่อยก๊าซเพิ่มเติมหอม ผ่านไอน้ำหรือหรือสารทำละลายที่เหมาะสมผ่านเตียงล่าง คั่วกาแฟสามารถถอดเสื้อผ้า และจับหอมประกอบ สามารถแสดงน้ำมันหอมจากกาแฟที่ใช้จ่ายจาก โดยพยายามความดันของน้อย 2000 ปอนด์ต่อตร.ใน (14000 kPa) ก๊าซสามารถยังสามารถกลั่นจากสารสกัดกาแฟหลังจากกระบวนการศึกษาที่เสร็จสมบูรณ์4เพื่อรักษากลิ่นและรสเป็นไปได้มากที่สุด ออกซิเจนจะถูกเอาออกจากสารสกัดกาแฟ สำเร็จ โดยมีฟองก๊าซอื่น ๆ เช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือไนโตรเจน ผ่านของเหลวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการคายน้ำของกระบวนการผลิตคายน้ำมีสองวิธีการพื้นฐานสำหรับแปลงเหลวกาแฟสกัดแบบแห้ง สเปรย์แห้งจะกระทำที่อุณหภูมิสูง ซึ่งมีผลต่อรสชาติของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย แต่มันเป็นค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแห้งตรึงสเปรย์แห้ง5 Cooled ของเหลวข้นใสเป็นพ่นผ่านหัวฉีดที่ด้านบนของหออบแห้ง หอน้อย 75 ฟุต (23 เมตร) สูงได้ อากาศที่ความร้อนประมาณ 480° F (250° C) จะเป่าลงผ่านหมอกเพื่อระเหยน้ำ อากาศถูกเบี่ยงเบนจากทาวเวอร์อยู่ด้านล่าง และมีกรองเอาละออง ซึ่งสามารถ recirculated กลับถึงหอ หรือผลิตใหม่ในระหว่างขั้นตอนการ agglomeration ผงกาแฟแห้งรวบรวมด้านล่างของหอก่อนถูกปล่อยออกมาประมวลผลต่อไป ผงได้ประกอบด้วยความชื้น 2-4% และประกอบด้วยอนุภาควิ ไม่มีฝุ่น6 สเปรย์แห้งอาจจะตาม ด้วยขั้นตอนแบบผงเป็นอนุภาค coarser ที่จะละลายมากขึ้นทั้งหมดในถ้วยของผู้บริโภค การ agglomeration กาแฟโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับ rewetting พื้นผิวของอนุภาคผงกาแฟ และนำอนุภาคที่เป็นผู้ติดต่อ เพื่อว่าพวกเขาจะยึดติดกันและแบบฟอร์มใหญ่ granular มากขึ้นอนุภาค นี้ได้ โดยการเปิดเผยผงไอหรือหมอกดี ขณะตามในอากาศตรึงให้แห้งหยุด 7 แห้งอาจจะใช้แทนสเปรย์แห้ง กระบวนการเกี่ยวข้องกับสี่ขั้นตอนต่อไป เริ่มต้น ด้วย "หลักแช่แข็ง" กาแฟสกัดเป็นอาหารเพื่อความสอดคล้อง slushy ที่ประมาณ 20° F (-6 ° C)สเลอปี้ 8 prechilled วาง บนสายพานเหล็ก ถาด กลอง และเพิ่มเติม ความร้อนด้วยในตอน จนกว่าจะถึงอุณหภูมิของ-(-50)-40 ° F (-40-[-45]°C) ระบายความร้อนรวดเร็วประมวลผล (ใช้เวลา 30-120 วินาที) ผลขนาดเล็ก น้ำหนักเบาสีผลิตภัณฑ์ ในขณะที่กระบวนการที่ช้าลง (ใช้เวลา 10-180 นาที) สร้างเม็ดใหญ่ เข้ม9 แผ่นน้ำแข็งแตกเป็นชิ้น และพื้นดินอนุภาคขนาดเหมาะสมสำหรับขั้นตอนการอบแห้ง อนุภาคมี sieved ให้ปรับขนาดที่เหมาะสม และที่เล็กเกินกว่าจะหลอม และกลับไปตรึงเวทีหลัก10 อนุภาคน้ำแข็งจะถูกส่งเข้าไปในห้องอบแห้งที่ ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมของความร้อนและสุญญากาศ น้ำแข็ง vaporizes และถูกเอาออกAromatizationกลิ่นระเหย 11 ที่ได้รับการกู้คืนจากขั้นตอนก่อนหน้านี้ในกระบวนการผลิต จะพ่นบนอนุภาคแห้งกาแฟ ซึ่งอาจทำได้ในระหว่างการบรรจุภัณฑ์บรรจุภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูป 12 อนุภาคเป็น hygroscopic — นั่นคือ พวกเขาดูดซับความชื้นจากอากาศ ดังนั้น พวกเขาต้องถูกบรรจุภายใต้สภาพความชื้นต่ำในภาชนะกันความชื้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์แห้งจนซื้อ และเปิด โดยผู้บริโภค ด้วย เพื่อป้องกันการสูญเสียกลิ่นและรส ผลิตภัณฑ์ถูกบรรจุในบรรยากาศออกซิเจนต่ำ (ปกติคาร์บอนไดออกไซด์หรือไนโตรเจน)พลอย/เสียจากกาแฟที่ใช้จ่ายจากการศึกษาผลิตภัณฑ์เสียหลักได้ ผู้ผลิตที่เผาไหม้เหล่านี้จากความร้อนน้ำ และสร้างไอน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต การออกแบบมาให้กับสิ่งแวดล้อม ลดเสีย โดยการเพิ่มการใช้ของวัตถุดิบอ่านเพิ่มเติม: http://www.madehow.com/Volume-3/Instant-Coffee.html#ixzz3qQ8ZD4id

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การผลิตกระบวนการสกัด1 การผลิตกาแฟสำเร็จรูปเริ่มต้นด้วยเครื่องชงกาแฟเบียร์อุปกรณ์ในการสกัดที่มีประสิทธิภาพสูง น้ำนิ่มจะถูกส่งผ่านชุดของ 5-8 คอลัมน์ของเมล็ดกาแฟพื้นดิน น้ำแรกผ่านหลาย "ร้อน" เซลล์ (284-356 ° F หรือ 140-180 ° C) อย่างน้อยบางส่วนของที่ทำงานที่ความดันสูงกว่าบรรยากาศในการสกัดส่วนประกอบที่ยากลำบากเช่นคาร์โบไฮเดรต จากนั้นผ่านไปสองคนหรือมากกว่า "เย็น" เซลล์ (ประมาณ 212 ° F หรือ 100 ° C) การสกัดองค์ประกอบรสชาติมากขึ้น สารสกัดจะถูกส่งผ่านเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนให้เย็นมันจะประมาณ 40 ° F (5 ° C) ในตอนท้ายของรอบนี้, สารสกัดจากกาแฟมีของแข็ง 20-30%. กรองและความเข้มข้น2 หลังจากขั้นตอนการกรองที่กาแฟได้รับการปฏิบัติในหนึ่งในหลายวิธีที่จะเพิ่มความเข้มข้นของ เป้าหมายของเราคือการสร้างสารสกัดจากว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับของแข็ง 40% จาก ในบางกรณีของเหลวจะประมวลผลในเครื่องหมุนเหวี่ยงเพื่อแยกออกจากน้ำที่มีน้ำหนักเบาจากสารสกัดจากกาแฟหนัก เทคนิคก็คือเพื่อเอาน้ำจากการระเหยก่อนที่จะระบายความร้อนร้อนสารสกัดต้ม ทางเลือกที่สามคือการสกัดเย็นพอที่จะหยุดน้ำแล้วกลไกแยกผลึกน้ำแข็งจากสมาธิกาแฟ. การกู้คืนของสารระเหยที่มีกลิ่นหอม3 เป็นส่วนหนึ่งของความสุขในการทำและการดื่มกาแฟที่มีกลิ่นหอม ในช่วงหลายขั้นตอนของกระบวนการผลิตองค์ประกอบหอมระเหยหายไป; พวกเขาจะต้องกลับมาในขั้นตอนต่อไปในการผลิตผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปที่น่าสนใจ อะโรเมติกสามารถกู้คืนในช่วงหลายขั้นตอนของกระบวนการผลิต ยกตัวอย่างเช่นการปล่อยออกมาในระหว่างการคั่วและ / หรือกระบวนการบดสามารถเก็บรวบรวม พื้นกาแฟคั่วสามารถอุ่นจะปล่อยก๊าซที่มีกลิ่นหอมเพิ่มเติม ผ่านไอน้ำหรือตัวทำละลายที่เหมาะสมผ่านเตียงของพื้นดินกาแฟคั่วสามารถตัดและจับชิ้นส่วนที่มีกลิ่นหอม น้ำมันหอมสามารถแสดงจากกากกาแฟที่ใช้โดยพยายามกดดันอย่างน้อย£ 2,000 ต่อตารางใน (14,000 ปาสคาล) ก๊าซยังสามารถกลั่นจากสารสกัดจากกาแฟหลังจากที่กระบวนการผลิตเบียร์เสร็จสมบูรณ์. 4 ในการรักษาเท่าของกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นไปได้ออกซิเจนออกจากสารสกัดจากกาแฟ นี้สามารถทำได้โดยการเกิดฟองก๊าซอื่น ๆ เช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือไนโตรเจนเหลวผ่านก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการคายน้ำของกระบวนการผลิต. การคายน้ำสองวิธีการขั้นพื้นฐานที่มีอยู่สำหรับการแปลงสารสกัดจากกาแฟของเหลวรูปแบบแห้ง การอบแห้งสเปรย์จะทำที่อุณหภูมิที่สูงขึ้นซึ่งมีผลต่อรสชาติของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย แต่มันก็เป็นค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการอบแห้งแช่แข็ง. สเปรย์แห้ง5 ระบายความร้อนด้วยชี้แจงสมาธิของเหลวพ่นผ่านหัวฉีดที่ด้านบนของหอการอบแห้งที่ หอคอยเป็นอย่างน้อย 75 ฟุต (23 เมตร) สูง อากาศที่ได้รับความร้อนถึง 480 ° F (250 ° C) จะถูกเป่าลงผ่านหมอกระเหยน้ำ อากาศถูกเบี่ยงเบนออกจากหออยู่ด้านล่างและมันจะถูกกรองเพื่อเอาอนุภาคซึ่งสามารถหมุนเวียนกลับผ่านหอหรือแนะนำในขั้นตอนการรวมตัวกัน ผงกาแฟแห้งเก็บในด้านล่างของหอก่อนที่จะถูกปลดออกสำหรับการประมวลผลต่อไป ผงที่เกิดมีความชื้น 2-4% และประกอบด้วยฟรีไหลอนุภาคที่ไม่ได้เต็มไปด้วยฝุ่น. 6 การอบแห้งสเปรย์อาจจะตามด้วยขั้นตอนในรูปแบบผงเป็นอนุภาคหยาบที่จะละลายมากขึ้นอย่างสมบูรณ์ในถ้วยของผู้บริโภค กระบวนการการรวมตัวกันกาแฟสำเร็จรูปโดยทั่วไปเกี่ยวกับ rewetting พื้นผิวของอนุภาคผงกาแฟและนำอนุภาคในการติดต่อเพื่อที่ว่าพวกเขาจะเป็นไปตามแต่ละอื่น ๆ และรูปแบบที่มีขนาดใหญ่อนุภาคที่ละเอียดยิ่งขึ้น นี้สามารถทำได้โดยการเปิดเผยผงไอน้ำหรือหมอกปรับในขณะที่ไม้ลอยมันอยู่ในอากาศ. ตรึงอบแห้ง7 อบแห้งแช่แข็งอาจจะนำมาใช้แทนสเปรย์แห้ง กระบวนการเกี่ยวกับสี่ขั้นตอนเริ่มต้นด้วยการ "แช่แข็งหลัก." สารสกัดจากกาแฟเป็นแช่เย็นเพื่อความสอดคล้องเฉอะแฉะที่ประมาณ 20 ° F (-6 ° C). 8 โคลน prechilled วางอยู่บนสายพานเหล็ก, ถาดหรือกลองและระบายความร้อนต่อไปในชุดของขั้นตอนจนกว่าจะถึงอุณหภูมิของ -40 - (- 50) ° F (-40 - [- 45] ° C) กระบวนการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว (การ 30-120 วินาที) ส่งผลให้มีขนาดเล็กน้ำหนักเบาผลิตภัณฑ์สีในขณะที่กระบวนการที่ช้าลง (การ 10-180 นาที) ขนาดใหญ่สร้างเม็ดสีเข้ม. 9 แผ่นน้ำแข็งแตกออกเป็นชิ้น ๆ และบดเป็นอนุภาคที่เหมาะสม ขนาดสำหรับขั้นตอนการอบแห้ง อนุภาคจะร่อนเพื่อให้แน่ใจว่าการปรับขนาดที่เหมาะสมและผู้ที่มีขนาดเล็กเกินไปจะละลายและกลับไปยังเวทีการแช่แข็งหลัก. 10 อนุภาคแช่แข็งจะถูกส่งเข้าไปในห้องอบแห้งที่ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมของความร้อนและสูญญากาศที่ vaporizes น้ำแข็งและเป็น ลบออก. aromatization 11 กลิ่นหอมระเหยที่ได้รับการกู้คืนจากขั้นตอนก่อนหน้านี้ในกระบวนการผลิตที่มีการพ่นอนุภาคกาแฟแห้ง นี้อาจจะทำในระหว่างการดำเนินการบรรจุภัณฑ์. บรรจุภัณฑ์12 อนุภาคกาแฟสำเร็จรูปมีอุ้มน้ำ-นั่นคือพวกเขาดูดซับความชื้นจากอากาศ ดังนั้นพวกเขาจะต้องได้รับการบรรจุภายใต้เงื่อนไขความชื้นต่ำในภาชนะความชื้นหลักฐานเพื่อให้สินค้าแห้งจนซื้อและเปิดโดยผู้บริโภค นอกจากนี้เพื่อป้องกันการสูญเสียกลิ่นหอมและรสชาติของผลิตภัณฑ์ที่เป็นแพคเกจในบรรยากาศที่มีออกซิเจนต่ำ (ปกติก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือไนโตรเจน). ผลพลอยได้ / ของเสียที่อยู่ในระบบกากกาแฟจากกระบวนการผลิตเบียร์เป็นสินค้าหลักของเสีย อย่างน้อยหนึ่งในผู้ผลิตไหม้บริเวณเหล่านี้ลงไปในน้ำความร้อนและผลิตไอน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต กระบวนการนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, การลดของเสียโดยการเพิ่มการใช้วัตถุดิบ. อ่านเพิ่มเติม: http://www.madehow.com/Volume-3/Instant-Coffee.html#ixzz3qQ8ZD4id

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การผลิต


1 กระบวนการสกัดผลิตกาแฟสำเร็จรูป ชง กาแฟ ใน เริ่มต้นด้วยการแยกอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้น้ำที่ผ่านชุดของห้าถึงแปดคอลัมน์ของเมล็ดกาแฟบด น้ำแรก ผ่านหลายร้อน " " เซลล์ ( 284-356 องศา F หรือ 140-180 ° C ) อย่างน้อยบางส่วนที่ใช้งานในที่สูงกว่าความดันบรรยากาศสำหรับการสกัดส่วนประกอบที่ยากๆ เช่นคาร์โบไฮเดรต แล้วผ่านสองหรือมากกว่า " เย็น " เซลล์ ( ประมาณ 212 ° F หรือ 100 ° C ) สำหรับการสกัดองค์ประกอบเพิ่มเติม flavorful . สารสกัดที่ผ่านเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนเย็นไปประมาณ 40 องศา F ( 5 ° C ) โดยจุดสิ้นสุดของรอบนี้ กาแฟสกัดมี 20-30 % ของแข็ง .
การกรองและความเข้มข้น
2 หลังจากการกรอง ขั้นต้มกาแฟถือว่า หนึ่งใน หลายวิธีในการเพิ่มความเข้มข้นของ เป้าหมายคือการสร้างสารสกัดที่ประมาณ 40% ของแข็ง ในบางกรณี ของเหลวจะถูกประมวลผลใน centrifuge เพื่อแยกออกจากเบาไปหนัก น้ำกาแฟที่สกัดเข้มข้น อีกเทคนิคคือการเอาน้ำจากการระเหยก่อนร้อนชงสกัดเย็นทางเลือกที่สาม คือ สกัด เย็นจนจะแข็ง น้ำ และการแยกผลึกน้ำแข็งจากกาแฟที่เข้มข้น หอมสารระเหย
3
การกู้คืนส่วนหนึ่งของความเพลิดเพลินในการดื่มกาแฟจะหอมกลิ่น ในระหว่างขั้นตอนต่างๆของกระบวนการผลิต องค์ประกอบหอมระเหยจะหายพวกเขาต้องกลับมาในขั้นตอนหลังการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปที่น่าสนใจ เราสามารถกู้คืนในช่วงหลายขั้นตอนของกระบวนการผลิต เช่น แก๊สออกในระหว่างกระบวนการคั่วและ / หรือบดจะถูกเก็บรวบรวม บดกาแฟคั่วสามารถอุ่นปล่อยก๊าซหอมเพิ่มเติม ผ่านไอน้ำหรือตัวทำละลายที่เหมาะสมผ่านเตียงของพื้นดินกาแฟคั่วสามารถตัดและจับชิ้นส่วนหอม น้ำมันหอมสามารถแสดง ใช้กาแฟ โดยการพยายามกดดันอย่างน้อย 2000 ปอนด์ต่อตร. ( 14 , 000 กิโลปาสคาล ) ก๊าซที่กลั่นจากกาแฟยังสามารถสกัดหลังจากกระบวนการ brewing เสร็จ .
4 เพื่อรักษาเท่าของกลิ่นและรสที่เป็นไปได้ ออกซิเจนจะถูกลบออกจากกาแฟที่สกัดออกมา