ข้อดีและข้อเสียของนโยบายภาษีรถยนต์คันแรกในส่วนของภาครัฐบาลข้อดี (เพิ่ม การแปล - ข้อดีและข้อเสียของนโยบายภาษีรถยนต์คันแรกในส่วนของภาครัฐบาลข้อดี (เพิ่ม อาหรับ วิธีการพูด

ข้อดีและข้อเสียของนโยบายภาษีรถยนต์ค

ข้อดีและข้อเสียของนโยบายภาษีรถยนต์คันแรกในส่วนของภาครัฐบาล
ข้อดี (เพิ่มรายละเอียด)
1. กระตุ้นเศรษฐกิจภาครวมของประเทศ กรมสรรพากรเองก็ยังสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งภาษีกำไรจากค่ายรถยนต์ เพื่อนำไปชดเชยกับเงินที่หายไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท จากการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% ซึ่งในแง่เศรษฐกิจภาพรวมแล้ว ต้องถือว่า โครงการนี้มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่น้อยทีเดียวเพราะล่าสุดเศรษฐกิจไทยในปี 55 ที่ผ่านมา ก้าวกระโดดไปถึง 6.4% จากที่คาดว่าจะเติบโตได้เพียง 5.5% เท่านั้น
2. กระตุ้นการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย
3. สถานะทางสังคมของประเทศมีความเจริญขึ้นเนื่องจากมีรถยนต์เป็นดัชนีวัดความเจริญก้าวหน้าในทางหนึ่ง
4. มีการสร้างงานเนื่องจาก ภาค SME ในประเทศไทยมีการเจริญเติบโตขึ้นเช่น โรงงานผลิดอะไหล่รถยนต์ โรงงานผลิตของตกแต่งรถยนต์

ข้อเสีย
1. เป็นโครงการที่ไม่ได้ช่วยลดภาระ หรือช่วยเหลือ คนรากหญ้าที่เป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศแต่อย่างใด หนำซ้ำยังเน้นช่วยกลุ่มนายทุนรถยนต์ และชนชั้นกลาง
2. นโยบายนี้ เป็น การ "บิดเบือนโครงสร้างภาษี" อย่างชัดเจน เพราะก่อนนี้ต้องการ รณรงค์ให้อัตราภาษีสรรพสามิตไม่เท่ากันเพื่อ สนับสนุนการซื้อรถที่ใช้พลังงานทดแทน
3. สวนทางกับ การรณรงค์ประหยัดพลังงาน
4. เป็นนโยบายที่ สร้างปัญหาจราจร และทำลายระบบขนส่งมวลชนที่มีการรณรงค์มาโดยตลอด
5. เป็นนโยบายที่ขัดกับนโยบายที่รณรงค์ให้รักษาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้มีมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้น
6. เป็นนโยบายที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการบริหารประเทศ เนื่องจากมีการใช้ต้นทุนเงินที่สูงเพื่อให้กับทางประชาชนและไม่สามารถนำไปบริหารนโยบายในส่วนอื่นๆได้ เช่น ในส่วนของระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ
7. บริษัทขายรถจะยอดขายตก เต๊นท์ขายรถมือสองจะเลิกกิจการจำนวนมาก เพราะซื้อรถล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ปีนี้แล้ว ส่วนคนที่ผ่อนไม่ไหวก็จะยกรถให้ญาติไปผ่อนแทน รถมือสองจึงมากมายขณะที่หาคนซื้อได้ยากเต็มที
8. ประเทศจะเริ่มขาดดุลการค้า ที่ผ่านมาไทยได้ดุลการค้ามาตลอด มีเพียงบางเดือนที่เคยขาดดุลการค้า แต่ผลของจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น และคนไทยก็ไม่เคยประหยัดการใช้น้ำมันและสินค้าฟุ่มเฟือย ขณะที่การส่งออกก็ชะลอตัว จึงเป็นไปได้อย่างสูงที่ไทยจะขาดดุลการค้าในปีหน้า (น้ำมันเป็นสินค้านำเข้าที่มูลค่าสูงสุดของไทย)


อ้างอิง
1. รายงานข้อมูลเบื้องต้นการขอใช้สิทธิรถยนต์คันแรก
สรรพสามิต" แจง 10 เหตุผลทิ้งรถคันแรก
รายงานจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบันมียอดผู้ยกเลิกใช้สิทธิ์รับเงินคืนไม่เกิน 1 แสนบาท ในโครงการรถคันแรก จำนวน 4,837 รายเท่านั้น จากยอดผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1,258,988 ราย คิดเป็นเงิน 92,168 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตคาดการณ์ว่า ในปี 2556 ยอดจ่ายเงินคืนจะมีทั้งสิ้น 577,246 ราย เป็นเงิน 40,368 ล้านบาท ปี 2557 จำนวน 674,019 ราย เป็นเงิน 51,409 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 9 ก.ค. มีการคืนเงินรถคันแรกไปแล้ว 21,964 ล้านบาท เป็นจำนวนรถยนต์ 319,975 คัน ซึ่งมีการโอนเงินให้ผู้ได้สิทธิ์ไปแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบการยกเลิกขอใช้สิทธิ์โครงการรถคันแรกที่มีจำนวน 4,837 รายนั้น พบว่าส่วนใหญ่เกิดจากผู้ที่เคยขอใช้สิทธิ์ "ไม่ต้องการใช้สิทธิ์" แล้วถึง 1,261 ราย รองลงมาเกิดจาก "ต้องการขายหรือโอนรถ" ก่อนจะถือครองครบ 5 ปี จำนวน 785 ราย ขณะที่เกิดจาก "รถประสบอุบัติเหตุ/สูญหาย" 630 ราย
เกิดจากการ "บันทึกข้อมูลผิดพลาดหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล" 521 ราย เกิดจาก "เปลี่ยนยี่ห้อ/รุ่นรถ หรือเปลี่ยนใบจอง" 337 ราย เกิดจาก "เคยครอบครองรถมาก่อน หรือรถที่ขอใช้สิทธิ์เป็นรถมือสอง" 310 ราย เกิดจาก "ซื้อ/จองรถก่อนอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์" 150 ราย เกิดจากกรณี "เสียชีวิต" 126 ราย เกิดจาก "ซื้อ/จองรถก่อนวันที่ 16 ก.ย. 2554" จำนวน 103 ราย
นอกจากนี้ ยังมีที่เกิดจาก "ไม่ผ่านไฟแนนซ์ หรือมีปัญหาการเงิน" อีก 228 ราย เกิดจาก "ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเกิน 90 วันถัดจากวันรับมอบรถ" อีก 37 ราย และอื่น ๆ อาทิ ส่งมอบรถไม่ทัน มีปัญหาสุขภาพ ปัญหาครอบครัว เป็นต้น อีก 261 ราย รวมถึงไม่ระบุเหตุผลอีก 88 ราย
ส่วนกรณีผู้ขอใช้สิทธิ์ 19 รายที่กรมสรรพสามิตต้องติดตามเรียกเงินคืนนั้น มีสาเหตุหลัก ๆ ประกอบด้วย 1) ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ รถยนต์จึงถูกยึดและขายออก ทำให้มีเงินไม่พอส่งให้กรมสรรพสามิต 2) รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ เกิดความเสียหายและขายทอดตลาด แต่เงินส่งกรมสรรพสามิตไม่พอ และ 3) ผิดเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น
"กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างดำเนินการดังนี้ 1.ทำหนังสือถึงผู้ขอใช้สิทธิ์ที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข ให้นำเงินที่ได้รับไปมาคืน จำนวน 14 ราย 2.ทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณากรณีผู้ขอใช้สิทธิ์ขาดคุณสมบัติตามที่โครงการระบุไว้และได้รับเงินไปแล้ว ซึ่งจะขอผ่อนผันชำระ จำนวน 2 ราย และ 3) กำลังรวบรวมเอกสารเพื่อส่งให้กรมบัญชีกลางพิจารณาฟ้องผู้ขอใช้สิทธิ์ที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข จำนวน 3 ราย"
ขณะที่นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การทิ้งสิทธิ์รถคันแรกไม่น่าจะสูงอย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับรายงานจากผู้ประกอบการว่า ล่าสุดมียอดการส่งมอบรถสูงถึง 1,043,823 คันไปแล้ว จากที่มีผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1,258,988 ราย คิดเป็นเงิน 92,168 ล้านบาท และการส่งมอบรถจะยังมีไปจนถึงต้นปี 2557
2. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก – รถยนต์นั่ง
3. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก - รถยนต์กระบะ (PICK UP)
4. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก - รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (Double Cab)
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อาหรับ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ข้อดีและข้อเสียของนโยบายภาษีรถยนต์คันแรกในส่วนของภาครัฐบาล
ข้อดี (เพิ่ม ราย ละเอียด)
1.กระตุ้น เศรษฐกิจ ภาค รวม ของ ประเทศ กรมสรรพากรเองก็ยังสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ทั้ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้ง ภาษี กำไร จาก ค่าย รถยนต์ เพื่อ นำ ไป ชดเชย กับ เงิน ที่ หาย ไป กว่า 1.5 แสน ล้าน บาท จาก การ ลด ภาษี นิติบุคคล จาก 30٪ 23٪ เหลือ ซึ่ง ใน แง่ เศรษฐกิจ ภาพ รวม แล้ว ต้อง ถือว่า โครงการนี้มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่น้อยทีเดียวเพราะล่าสุดเศรษฐกิจไทยในปี 55 ที่ ผ่าน มา ก้าว กระโดด ไป ถึง 6.4٪ จาก ที่ คาด ว่า จะ เติบโต ได้ เพียง 5.5٪ เท่านั้น
2. กระตุ้นการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย
3. สถานะทางสังคมของประเทศมีความเจริญขึ้นเนื่องจากมีรถยนต์เป็นดัชนีวัดความเจริญก้าวหน้าในทางหนึ่ง
4.มี การ สร้าง งาน เนื่องจาก ภาค الشركات الصغيرة والمتوسطة ในประเทศไทยมีการเจริญเติบโตขึ้นเช่น โรงงาน ผลิ ด อะไหล่ รถยนต์ โรงงานผลิตของตกแต่งรถยนต์

ข้อเสีย
1.เป็น โครงการ ที่ ไม่ ได้ ช่วย ลด ภาระ หรือ ช่วยเหลือ คนรากหญ้าที่เป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศแต่อย่างใด หนำซ้ำยังเน้นช่วยกลุ่มนายทุนรถยนต์ และ ชนชั้น กลาง
2.นโยบาย นี้ เป็น การ "บิดเบือน โครงสร้าง ภาษี" อย่าง ชัดเจน เพราะ ก่อน นี้ ต้องการ รณรงค์ให้อัตราภาษีสรรพสามิตไม่เท่ากันเพื่อ สนับสนุนการซื้อรถที่ใช้พลังงานทดแทน
3. สวน ทาง กับ การ รณรงค์ ประหยัด พลังงาน
4.เป็น นโยบาย ที่ สร้าง ปัญหา จราจร และทำลายระบบขนส่งมวลชนที่มีการรณรงค์มาโดยตลอด
5. เป็นนโยบายที่ขัดกับนโยบายที่รณรงค์ให้รักษาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่มากขึ้น ส่ง ผล ให้ มี มลพิษ ใน อากาศ เพิ่ม ขึ้น
6.เป็นนโยบายที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการบริหารประเทศ เนื่องจากมีการใช้ต้นทุนเงินที่สูงเพื่อให้กับทางประชาชนและไม่สามารถนำไปบริหารนโยบายในส่วนอื่นๆได้ เช่น ใน ส่วน ของ ระบบ ขนส่ง มวลชน สาธารณะ
7.บริษัท ขาย รถ จะ ยอด ขาย ตก เต๊นท์ขายรถมือสองจะเลิกกิจการจำนวนมาก เพราะซื้อรถล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ปีนี้แล้ว ส่วนคนที่ผ่อนไม่ไหวก็จะยกรถให้ญาติไปผ่อนแทน รถมือสองจึงมากมายขณะที่หาคนซื้อได้ยากเต็มที
8.ประเทศ จะ เริ่ม ขาด ดุลการค้า ที่ ผ่าน มา ไทย ได้ ดุลการค้า มา ตลอด มี เพียง บาง เดือน ที่ เคย ขาด ดุลการค้า แต่ ผล ของ จำนวน รถ ที่ เพิ่ม ขึ้น และคนไทยก็ไม่เคยประหยัดการใช้น้ำมันและสินค้าฟุ่มเฟือย ขณะ ที่ การ ส่ง ออก ก็ ชะลอ ตัว


อ้างอิง 1. รายงานข้อมูลเบื้องต้นการขอใช้สิทธิรถยนต์คันแรก
สรรพสามิต" แจง 10 เหตุผล ทิ้ง รถ คัน แรก
รายงาน จาก กรม สรรพสามิต เปิดเผย ว่า จนถึงปัจจุบันมียอดผู้ยกเลิกใช้สิทธิ์รับเงินคืนไม่เกิน 1 แสน บาท ใน โครงการ รถ คัน แรก จำนวน 4،837 ราย เท่านั้น จาก ยอด ผู้ ขอ ใช้ สิทธิ์ ทั้งสิ้น 1258988 ราย คิด เป็น เงิน 92168 ล้าน บาท
ทั้งนี้ กรม สรรพสามิต คาด การณ์ ว่า ใน ปี 2556 ยอด จ่าย เงิน คืน จะ มี ทั้งสิ้น 577246 ราย เป็น เงิน 40368 ล้าน บาท ปี 2557 จำนวน 674019 ราย เป็น เงิน 51409 ล้าน บาท ขณะ ที่ ณ วัน ที่ 9 ก.ค. มี การ คืน เงิน รถ คัน แรก ไป แล้ว 21،964 ล้าน บาท เป็น จำนวน รถยนต์ 319975 คัน ซึ่งมีการโอนเงินให้ผู้ได้สิทธิ์ไปแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง
ผู้สื่อข่าว รายงาน ว่า จากการตรวจสอบการยกเลิกขอใช้สิทธิ์โครงการรถคันแรกที่มีจำนวน 4،837 ราย นั้น พบว่าส่วนใหญ่เกิดจากผู้ที่เคยขอใช้สิทธิ์ "ไม่ ต้องการ ใช้ สิทธิ์" แล้ว ถึง 1،261 ราย รอง ลง มา เกิด จาก "ต้องการ ขาย หรือ โอน รถ" ก่อน จะ ถือ ครอง ครบ 5 ปี จำนวน 785 ราย ขณะ ที่ เกิด จาก "รถ ประสบ อุบัติเหตุ / สูญหาย" 630 ราย
เกิด จาก การ "บันทึกข้อมูลผิดพลาดหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล" 521 ราย เกิด จาก "เปลี่ยน ยี่ห้อ / รุ่น รถ หรือ เปลี่ยน ใบจอง" 337 ราย เกิด จาก "เคย ครอบครอง รถ มา ก่อน หรือ รถ ที่ ขอ ใช้ สิทธิ์ เป็น รถ มือ สอง" 310 ราย เกิด จาก21 ปี บริบูรณ์ "150 ราย เกิด จาก กรณี" เสีย ชีวิต "126 ราย เกิด จาก" ซื้อ / จอง รถ ก่อน วัน ที่ 16 ก.ย. 2554 "จำนวน 103 ราย
นอกจาก นี้ ยัง มี ที่ เกิด จาก "ไม่ ผ่าน ไฟแนนซ์ หรือ มี ปัญหา การเงิน" อีก 228 ราย เกิด จาก "ยื่น เอกสาร เพิ่มเติม เกิน 90 วัน ถัด จาก วัน รับ มอบ รถ" อีก 37 ราย และ อื่น ๆ อาทิ ส่ง มอบ รถ ไม่ทัน มี ปัญหา สุขภาพ ปัญหา ครอบครัว เป็นต้น อีก 261รวม ถึง ไม่ ระบุ เหตุผล อีก 88 ราย
ส่วน กรณี ผู้ ขอ ใช้ สิทธิ์ 19 รายที่กรมสรรพสามิตต้องติดตามเรียกเงินคืนนั้น มี สาเหตุ หลัก ๆ ประกอบด้วย 1) ไม่ สามารถ ผ่อนชำระ ค่า งวด ได้ รถยนต์ จึง ถูก ยึด และ ขาย ออก ทำให้มีเงินไม่พอส่งให้กรมสรรพสามิต 2)เกิด ความ เสียหาย และ ขายทอดตลาด แต่ เงิน ส่ง กรม สรรพสามิต ไม่ พอ และ 3) ผิด เงื่อนไข การ เข้า ร่วม โครงการ เป็นต้น
"กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างดำเนินการดังนี้ 1.ทำหนังสือถึงผู้ขอใช้สิทธิ์ที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข ให้ นำ เงิน ที่ ได้ รับ ไป มา คืน จำนวน 14 ราย 2.ทำ หนังสือ ถึง กรม บัญชี กลาง เพื่อพิจารณากรณีผู้ขอใช้สิทธิ์ขาดคุณสมบัติตามที่โครงการระบุไว้และได้รับเงินไปแล้ว ซึ่ง จะ ขอ ผ่อนผัน ชำระ จำนวน 2 ราย และ 3)จำนวน 3 ราย "
ขณะ ที่ นาย สมชาย พูล สวัสดิ์ อธิบดี กรม สรรพสามิต กล่าว ว่า การทิ้งสิทธิ์รถคันแรกไม่น่าจะสูงอย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับรายงานจากผู้ประกอบการว่า ล่าสุด มี ยอด การ ส่ง มอบ รถ สูง ถึง 1،043،823 คัน ไป แล้ว จาก ที่ มี ผู้ ขอ ใช้ สิทธิ์ ทั้งสิ้น 1258988 ราย คิด เป็น เงิน 92168 ล้าน บาท และ การ ส่ง มอบ รถ จะ ยัง มี ไป จนถึง ต้น ปี 2557
2. ข้อมูล คืน เงิน รถยนต์ ใหม่ คัน แรก - รถยนต์ นั่ง
3.ข้อมูล คืน เงิน รถยนต์ ใหม่ คัน แรก - รถยนต์ กระบะ (التقاط)
4. ข้อมูล คืน เงิน รถยนต์ ใหม่ คัน แรก - รถยนต์ นั่ง ที่ มี กระบะ (كابينة مزدوجة)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อาหรับ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ข้อดีและข้อเสียของนโยบายภาษีรถยนต์คันแรกในส่วนของภาครัฐบาล
ข้อดี (เพิ่มรายละเอียด)
1. กระตุ้นเศรษฐกิจภาครวมของประเทศ กรมสรรพากรเองก็ยังสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งภาษีกำไรจากค่ายรถยนต์ เพื่อนำไปชดเชยกับเงินที่หายไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท จากการลดภาษีนิติบุคคลจาก เหลือ 30% ซึ่งในแง่เศรษฐกิจภาพรวมแล้ว 23% ต้องถือว่า โครงการนี้มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่น้อยทีเดียวเพราะล่าสุดเศรษฐกิจไทยในปี 55 ที่ผ่านมา ก้าวกระโดดไปถึง 6.เท่านั้น 5.5% จากที่คาดว่าจะเติบโตได้เพียง 4%
2. กระตุ้นการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย
3. สถานะทางสังคมของประเทศมีความเจริญขึ้นเนื่องจากมีรถยนต์เป็นดัชนีวัดความเจริญก้าวหน้าในทางหนึ่ง
4. มีการสร้างงานเนื่องจาก ภาค الشركات الصغيرة والمتوسطة ในประเทศไทยมีการเจริญเติบโตขึ้นเช่น โรงงานผลิดอะไหล่รถยนต์ โรงงานผลิตของตกแต่งรถยนต์

ข้อเสีย
1. เป็นโครงการที่ไม่ได้ช่วยลดภาระ หรือช่วยเหลือ คนรากหญ้าที่เป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศแต่อย่างใด หนำซ้ำยังเน้นช่วยกลุ่มนายทุนรถยนต์ และชนชั้นกลาง
2. เป็น นโยบายนี้ การ อย่างชัดเจน "บิดเบือนโครงสร้างภาษี" เพราะก่อนนี้ต้องการ สนับสนุนการซื้อรถที่ใช้พลังงานทดแทน รณรงค์ให้อัตราภาษีสรรพสามิตไม่เท่ากันเพื่อ
3. สวนทางกับ การรณรงค์ประหยัดพลังงาน
4. เป็นนโยบายที่ สร้างปัญหาจราจร และทำลายระบบขนส่งมวลชนที่มีการรณรงค์มาโดยตลอด
5. เป็นนโยบายที่ขัดกับนโยบายที่รณรงค์ให้รักษาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้มีมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้น
6. เป็นนโยบายที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการบริหารประเทศ เนื่องจากมีการใช้ต้นทุนเงินที่สูงเพื่อให้กับทางประชาชนและไม่สามารถนำไปบริหารนโยบายในส่วนอื่นๆได้ เช่น ในส่วนของระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ
7. บริษัทขายรถจะยอดขายตก เต๊นท์ขายรถมือสองจะเลิกกิจการจำนวนมาก เพราะซื้อรถล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ปีนี้แล้ว ส่วนคนที่ผ่อนไม่ไหวก็จะยกรถให้ญาติไปผ่อนแทน รถมือสองจึงมากมายขณะที่หาคนซื้อได้ยากเต็มที
8. ประเทศจะเริ่มขาดดุลการค้า ที่ผ่านมาไทยได้ดุลการค้ามาตลอด มีเพียงบางเดือนที่เคยขาดดุลการค้า แต่ผลของจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น และคนไทยก็ไม่เคยประหยัดการใช้น้ำมันและสินค้าฟุ่มเฟือย ขณะที่การส่งออกก็ชะลอตัว (น้ำมันเป็นสินค้านำเข้าที่มูลค่าสูงสุดของไทย)


อ้างอิง
1. รายงานข้อมูลเบื้องต้นการขอใช้สิทธิรถยนต์คันแรก
สรรพสามิต "เหตุผลทิ้งรถคันแรก แจง 10
รายงานจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบันมียอดผู้ยกเลิกใช้สิทธิ์รับเงินคืนไม่เกิน 1 แสนบาท ในโครงการรถคันแรก จำนวน 4,837 รายเท่านั้น จากยอดผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1,258,988 ราย คิดเป็นเงิน 92,168 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตคาดการณ์ว่า ในปี 2556 ยอดจ่ายเงินคืนจะมีทั้งสิ้น 577,246 ราย เป็นเงิน 40,368 ล้านบาท ปี 2557 จำนวน 674,019 ราย เป็นเงิน 51,409 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 9 ก.ค-มีการคืนเงินรถคันแรกไปแล้ว 21،964 ล้านบาท เป็นจำนวนรถยนต์ 319,975 คัน ซึ่งมีการโอนเงินให้ผู้ได้สิทธิ์ไปแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบการยกเลิกขอใช้สิทธิ์โครงการรถคันแรกที่มีจำนวน 4،837 รองลงมาเกิดจาก ราย แล้วถึง 1,261 รายนั้น พบว่าส่วนใหญ่เกิดจากผู้ที่เคยขอใช้สิทธิ์ "ไม่ต้องการใช้สิทธิ์" "ต้องการขายหรือโอนรถ" ก่อนจะถือครองครบ 5 จำนวน 785 ปี ราย ราย ขณะที่เกิดจาก "รถประสบอุบัติเหตุ/สูญหาย" 630
"บันทึกข้อมูลผิดพลาดหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล" 521 เกิดจากการ ราย "หรือเปลี่ยนใบจอง เปลี่ยนยี่ห้อ/รุ่นรถ" เกิดจาก เกิดจาก ราย 337 "เคยครอบครองรถมาก่อน หรือรถที่ขอใช้สิทธิ์เป็นรถมือสอง" เกิดจาก 310 ราย 21 ปีบริบูรณ์ "150 ราย เกิดจากกรณี" เสียชีวิต "126 ราย เกิดจาก" ซื้อ/จองรถก่อนวันที่ 16 ก.จำนวน 103 ราย ย-2554 "
นอกจากนี้ ยังมีที่เกิดจาก "ไม่ผ่านไฟแนนซ์ หรือมีปัญหาการเงิน" อีก 228 ราย เกิดจาก "ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเกิน 90 วันถัดจากวันรับมอบรถ" อีก 37 ราย และอื่น ๆ อาทิ ส่งมอบรถไม่ทัน มีปัญหาสุขภาพ ปัญหาครอบครัว เป็นต้น อีก 261 ราย รวมถึงไม่ระบุเหตุผลอีก 88
ทำให้มีเงินไม่พอส่งให้กรมสรรพสามิต รถยนต์จึงถูกยึดและขายออก ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ ส่วนกรณีผู้ขอใช้สิทธิ์ 19 รายที่กรมสรรพสามิตต้องติดตามเรียกเงินคืนนั้น มีสาเหตุหลัก ๆ ประกอบด้วย 1) 2) เป็นต้น ผิดเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ เกิดความเสียหายและขายทอดตลาด แต่เงินส่งกรมสรรพสามิตไม่พอ และ 3)
"กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างดำเนินการดังนี้ 1.ทำหนังสือถึงผู้ขอใช้สิทธิ์ที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข ให้นำเงินที่ได้รับไปมาคืน จำนวน 14 ราย 2.ทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณากรณีผู้ขอใช้สิทธิ์ขาดคุณสมบัติตามที่โครงการระบุไว้และได้รับเงินไปแล้ว ซึ่งจะขอผ่อนผันชำระ จำนวน 2 ราย และ 3) ราย จำนวน 3 "
ขณะที่นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การทิ้งสิทธิ์รถคันแรกไม่น่าจะสูงอย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับรายงานจากผู้ประกอบการว่า ล่าสุดมียอดการส่งมอบรถสูงถึง 1,043،823 คันไปแล้ว จากที่มีผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1,258,988 ราย คิดเป็นเงิน 92,168 ล้านบาท และการส่งมอบรถจะยังมีไปจนถึงต้นปี 2557
2. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก – รถยนต์นั่ง
3. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก-รถยนต์กระบะ (التقاط)
4. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก-รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (Cab مزدوجة)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อาหรับ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ข้อดีและข้อเสียของนโยบายภาษีรถยนต์คันแรกใน (เพิ่มรายละเอียด(
1.กระตุ้นเศรษฐกิจภาครวมของประเทศ กรมสรรพากรเองก็ยังสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งภาษีกำไรจากค่ายรถยนต์ เพื่อนำไปชดเชยกับเงินที่หายไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท จากการลดภาษีนิติบุคคลจาก เหลือ 30% 23% ซึ่งในแง่เศรษฐกิจภาพรวมแล้ว ต้องถือว่า โครงการนี้มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่น้อยท ที่ผ่านมา ก้าวกระโดดไปถึง 55 6.4% จากที่คาดว่าจะเติบโตได้เพียง 5.5% เท่านั้น
2. กระตุ้นการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมรถยนต สถานะทางสังคมของประเทศมีความเจริญขึ้นเนื่อالمشاريع الصغيرة والمتوسطة الحجم มีการสร้างงานเนื่องจาก ภาค ในประเทศไทยมีการเจริญเติบโตขึ้นเช่น โรงงานผลิดอะไหล่รถยนต์ โรงงานผลิตของตกแต่งรถยนต์

ข้อเสีย
1.เป็นโครงการที่ไม่ได้ช่วยลดภาระ หรือช่วยเหลือ คนรากหญ้าที่เป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศแต่อย่าง หนำซ้ำยังเน้นช่วยกลุ่มนายทุนรถยนต์ และชนชั้นกลาง
2.นโยบายนี้ เป็น การ "บิดเบือนโครงสร้างภาษี" อย่างชัดเจน เพราะก่อนนี้ต้องการ รณรงค์ให้อัตราภาษีสรรพสามิตไม่เท่ากันเพื่อ สนับสนุนการซื้อรถที่ใช้พลังงานทดแทน
3. สวนทางกับ การรณรงค์ประหยัดพลังงาน
4.เป็นนโยบายที่ สร้างปัญหาจราจร และทำลายระบบขนส่งมวลชนที่มีการรณรงค์มาโดยต เป็นนโยบายที่ขัดกับนโยบายที่รณรงค์ให้รักษา ส่งผลให้มีมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้น
6.เป็นนโยบายที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการบริหา เนื่องจากมีการใช้ต้นทุนเงินที่สูงเพื่อให้ก เช่น ในส่วนของระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ
7.บริษัทขายรถจะยอดขายตก เต๊นท์ขายรถมือสองจะเลิกกิจการจำนวนมาก เพราะซื้อรถล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ปีนี้แล้ว ส่วนคนที่ผ่อนไม่ไหวก็จะยกรถให้ญาติไปผ่อนแท รถมือสองจึงมากมายขณะที่หาคนซื้อได้ยากเต็มทประเทศจะเริ่มขาดดุลการค้า ที่ผ่านมาไทยได้ดุลการค้ามาตลอด มีเพียงบางเดือนที่เคยขาดดุลการค้า แต่ผลของจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น และคนไทยก็ไม่เคยประหยัดการใช้น้ำมันและสินค ขณะที่การส่งออกก็ชะลอตัว(น้ำมันเป็นสินค้านำเข้าที่มูลค่าสูงสุดของไท

อ้างอิง
1. 10 รายงานข้อมูลเบื้องต้นการขอใช้สิทธิรถยนต์คั แจง เหตุผลทิ้งรถคันแรก الفولطية
1 รายงานจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบันมียอดผู้ยกเลิกใช้สิทธิ์รับเงิ แสนบาท ในโครงการรถคันแรก จำนวน 4,837 รายเท่านั้น จากยอดผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1,258,988 ราย คิดเป็นเงิน 92,168 ล้านบาท الفولطية
2556 ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตคาดการณ์ว่า ในปี ยอดจ่ายเงินคืนจะมีทั้งสิ้น 577,246 ราย เป็นเงิน ล้านบาท ปี 2557 40,368 จำนวน 674,019 ราย เป็นเงิน ล้านบาท ขณะที่ 51,409 9 ณ วันที่ ก"ค. มีการคืนเงินรถคันแรกไปแล้ว 21,964 ล้านบาท เป็นจำนวนรถยนต์ 319,975 คัน ซึ่งมีการโอนเงินให้ผู้ได้สิทธิ์ไปแล้วทั้งส ครั้ง
9 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบการยกเลิกขอใช้สิทธิ์โครงการรถ 4,837 รายนั้น พบว่าส่วนใหญ่เกิดจากผู้ที่เคยขอใช้สิทธิ์ "ไม่ต้องการใช้สิทธิ์" แล้วถึง 1,261 ราย รองลงมาเกิดจาก "ต้องการขายหรือโอนรถ" ก่อนจะถือครองครบ 785 5 ปี จำนวน ราย ขณะที่เกิดจาก "รถประสบอุบัติเหตุ/สูญหาย" 630 ราย
เกิดจากการ "บันทึกข้อมูลผิดพลาดหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล" 521 ราย เกิดจาก "เปลี่ยนยี่ห้อ/รุ่นรถ หรือเปลี่ยนใบจอง" 337 ราย เกิดจาก "เคยครอบครองรถมาก่อน หรือรถที่ขอใช้สิทธิ์เป็นรถมือสอง" 310 ราย เกิดจาก21 ปีบริบูรณ์" 150 ราย เกิดจากกรณี "เสียชีวิต" 126 ราย เกิดจาก "ซื้อ/จองรถก่อนวันที่ ก 16.ย. 103 2554" จำนวน ราย الفولطية
นอกจากนี้ ยังมีที่เกิดจาก "ไม่ผ่านไฟแนนซ์ หรือมีปัญหาการเงิน" อีก ราย เกิดจาก 228 90 "ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเกิน วันถัดจากวันรับมอบรถ" 37 อีก ราย และอื่น ๆ อาทิ ส่งมอบรถไม่ทัน มีปัญหาสุขภาพ ปัญหาครอบครัว เป็นต้น อีก 26188 รวมถึงไม่ระบุเหตุผลอีก ราย الفولطية
19 ส่วนกรณีผู้ขอใช้สิทธิ์ รายที่กรมสรรพสามิตต้องติดตามเรียกเงินคืนนั มีสาเหตุหลัก ๆ ประกอบด้วย 1) ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ รถยนต์จึงถูกยึดและขายออก ทำให้มีเงินไม่พอส่งให้กรมสรรพสามิต 2)เกิดความเสียหายและขายทอดตลาด แต่เงินส่งกรมสรรพสามิตไม่พอ และ 3) ผิดเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น الفولطية
"กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างดำเนินการดังนี้ 1.ทำหนังสือถึงผู้ขอใช้สิทธิ์ที่ปฏิบัติผิดเงื ให้นำเงินที่ได้รับไปมาคืน จำนวน ราย 14 2.ทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณากรณีผู้ขอใช้สิทธิ์ขาดคุณสมบัติ ซึ่งจะขอผ่อนผันชำระ จำนวน ราย และ 2 3)3 จำนวน ราย"
ขณะที่นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การทิ้งสิทธิ์รถคันแรกไม่น่าจะสูงอย่างที่เป เนื่องจากได้รับรายงานจากผู้ประกอบการว่า ล่าสุดมียอดการส่งมอบรถสูงถึง 1,043,823 คันไปแล้ว จากที่มีผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1,258,988 ราย คิดเป็นเงิน 92,168 ล้านบาท และการส่งมอบรถจะยังมีไปจนถึงต้นปี 2557
2. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก - รถยนต์นั่ง
3.ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก - รถยนต์กระบะ (الاصطحاب(
4. ข้อมูลคืนเงินรถยนต์ใหม่คันแรก - รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (دبل كاب)
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: