Forced DisclosureA problem, related

Forced Disclosure
A problem, related to context collapse, is the phenomenon of forced disclosure . It
follows the same principle of mandatory disclosure in the field of network security,
where mandatory disclosure of vulnerabilities is considered a possible solution
because it provide incentives for software firms to make the software code more
secure and to quickly fix vulnerabilities that are identified (Choi et al. 2010 ).
Similarly, in social network services, forced disclosure refers to the ongoing process
of clarifying private information through private information (according to Rosen
( 2001 )). This is necessary because a lot of self-representative information on social
network services is not put into context; for this reason, the only way to clarify this is
to augment the amount of disclosed (even private) information on these sites.
According to AA.VVSPION ( 2011 ), when private information is disclosed, the only
way of clarifying this is by giving more private information, in particular in situations
presenting multiple context collisions (e.g., when a person breaks up his relationship
with someone and changes his status from ‘in a relationship’ to ‘single’ only a couple
of people will know exactly what happened. The majority of people will not).
The concept of ‘reciprocal self-disclosure’ (Sprecheret al. 2013 ) can also be
considered a sort of ‘de facto’ forced disclosure. This kind of disclosure is ‘forced’
in the sense that, as it has been proved, participants who disclose reciprocally reports
greater liking, closeness, perceived similarity, and enjoyment of the interaction after
the first interaction than participants who disclose non-reciprocally.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บังคับให้เปิดเผยปัญหา เกี่ยวข้องกับบริบทยุบ ปรากฏการณ์บังคับให้เปิดเผยได้ มันตามหลักการเดียวกับการเปิดเผยข้อบังคับด้านความปลอดภัยเครือข่ายที่บังคับเปิดเผยช่องโหว่ถือเป็นการแก้ปัญหาได้เนื่องจากมันมีแรงจูงใจสำหรับบริษัทซอฟต์แวร์เพื่อให้ ซอฟต์แวร์รหัสเพิ่มเติมปลอดภัย และรวดเร็วแก้ไขช่องโหว่ที่ระบุ (Choi et al. 2010)ในทำนองเดียวกัน ในบริการเครือข่ายสังคม บังคับให้เปิดเผยถึงกระบวนการอย่างต่อเนื่องทำข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว (ตามโร(2001)) . จำเป็นเพราะจำนวนมากของข้อมูล self-representative บนสังคมไม่มีวางเครือข่ายบริการในบริบท ด้วยเหตุนี้ เป็นวิธีเดียวที่จะชี้แจงนี้การเพิ่มจำนวนการเปิดเผยข้อมูล (แม้ส่วนตัว) บนเว็บไซต์เหล่านี้ตาม AA VVSPION (2011), เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ส่งวิธีทำนี้คือการให้ข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์นำเสนอตามบริบทหลาย (เช่น เมื่อคนแบ่งค่าความสัมพันธ์ของเขากับผู้อื่น และเปลี่ยนสถานะจาก 'ในความสัมพันธ์' ของเขา 'เดี่ยว ' เพียงไม่กี่คนจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คนส่วนใหญ่จะไม่แนวคิดของ 'กันและตนเอง-เปิดเผย' ยังสามารถ (Sprecheret al. 2013)พิจารณาการเรียงลำดับของ 'เดิม' บังคับให้เปิดเผย เปิดเผยชนิดนี้เป็น 'บังคับ'ในแง่ที่ ตามที่จะได้รับการพิสูจน์ คนที่เปิดเผย reciprocally รายงานชื่นชอบมากขึ้น ความใกล้เคียง คล้ายรับรู้ และความเพลิดเพลินของการโต้ตอบหลังจากการโต้ตอบที่แรกกว่าคนที่เปิดเผยไม่ใช่-reciprocally

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายบริบทเป็นปรากฏการณ์ของการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกบังคับ
มันเป็นไปตามหลักการเดียวกันของการเปิดเผยข้อมูลที่บังคับใช้ในด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่เปิดเผยบังคับของช่องโหว่ถือเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้เพราะมันให้สิ่งจูงใจสำหรับบริษัท ซอฟต์แวร์เพื่อให้รหัสซอฟแวร์อื่น ๆมีความปลอดภัยและการแก้ไขช่องโหว่ได้อย่างรวดเร็วที่มีการระบุ (Choi et al. 2010). ในทำนองเดียวกันในการให้บริการเครือข่ายทางสังคมเปิดเผยบังคับหมายถึงกระบวนการที่ต่อเนื่องของการทำความเข้าใจข้อมูลส่วนตัวผ่านข้อมูลส่วนตัว (ตามโรเซ่น (2001)) นี้เป็นสิ่งจำเป็นเพราะข้อมูลจำนวนมากที่ตัวเองเป็นตัวแทนของสังคมบริการเครือข่ายไม่ได้ใส่ลงไปในบริบท; ด้วยเหตุนี้วิธีเดียวที่จะชี้แจงนี้คือเพื่อเพิ่มปริมาณของการเปิดเผย (แม้ส่วนตัว) ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์เหล่านี้. ตาม AA.VVSPION (2011) เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกเปิดเผยเพียงวิธีการที่ชัดเจนคือการให้ข้อมูลส่วนตัวมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่นำเสนอชนบริบทหลาย(เช่นเมื่อคนเลิกความสัมพันธ์ของเขากับคนและการเปลี่ยนแปลงสถานะของเขาจาก'ความสัมพันธ์' เป็น 'เดียว' เพียงไม่กี่คนที่จะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น. โดย คนส่วนใหญ่จะไม่ได้). แนวคิดของ 'ซึ่งกันและกันการเปิดเผยตนเอง (Sprecheret al. 2013) นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาการจัดเรียงของ' พฤตินัยบังคับเปิดเผย ชนิดของการเปิดเผยข้อมูลนี้ 'บังคับ' ในแง่ที่ว่าในขณะที่มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าผู้เข้าร่วมที่เปิดเผยซึ่งกันและกันรายงานชื่นชอบมากขึ้นความใกล้ชิด, ความคล้ายคลึงกันการรับรู้และความเพลิดเพลินของการทำงานร่วมกันหลังจากที่มีปฏิสัมพันธ์แรกกว่าผู้เข้าร่วมที่เปิดเผยที่ไม่กันและกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บังคับให้เปิดเผย
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของปรากฏการณ์ของการบังคับให้มีการเปิดเผย มันคือหลักการเดียวกัน
ของข้อบังคับการเปิดเผยในด้านความปลอดภัยเครือข่ายที่จำเป็นของการเปิดเผยช่องโหว่

ถือว่าเป็นทางออกที่เป็นไปได้ เพราะมันสร้างแรงจูงใจสำหรับ บริษัท ซอฟต์แวร์เพื่อให้ซอฟต์แวร์รหัสเพิ่มเติม
ปลอดภัยและรวดเร็ว แก้ไขช่องโหว่ที่ระบุ ( Choi et al . 2010 ) .
ในทํานองเดียวกันในการให้บริการเครือข่ายทางสังคม , บังคับให้เปิดเผยข้อมูลหมายถึงกระบวนการต่อเนื่อง
ชี้แจงข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางข้อมูลส่วนบุคคล ( ตามโรเซน
( 2001 ) นี้เป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากมากของข้อมูลที่แทนตนเอง บริการเครือข่ายทางสังคม
จะไม่ใส่ลงไปในบริบท ; สำหรับเหตุผลนี้วิธีเดียวที่จะอธิบายนี้ เพื่อเพิ่มปริมาณของ
( แม้ส่วนตัว ) เปิดเผยข้อมูลบนเว็บไซต์เหล่านี้ .
ตาม aa.vvspion ( 2011 ) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลถูกเปิดเผย วิธีเดียว
ชี้แจงนี้โดยการให้ข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์
นำเสนอการชนบริบท ( เช่นเมื่อหลาย คนบอกเลิกความสัมพันธ์
กับใครบางคน และการเปลี่ยนแปลงสถานะของเขาจาก ' ความสัมพันธ์ ' ' เดี่ยว ' เฉพาะคู่
คนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ )
แนวคิดของ ' การเปิดเผยตนเองซึ่งกันและกัน ( sprecheret อัล 2013 ) ยังสามารถพิจารณาการจัดเรียงของ
' ' โดยพฤตินัยบังคับให้เปิดเผย ชนิดนี้ของการ ' บังคับ '
ในความรู้สึกว่า มันได้ถูกพิสูจน์ผู้เปิดเผยซึ่งกันและกันรายงาน
มากกว่าชอบ , ใกล้ชิด , การรับรู้ความคล้ายคลึง และความเพลิดเพลินของปฏิสัมพันธ์หลังจาก
แรกปฏิสัมพันธ์มากกว่าผู้ไม่เปิดเผยซึ่งกันและกัน .