4. Swing Trading-Simpson4.1 How to

4. Swing Trading-Simpson
4.1 How to Use Swing Trading
A Swing trader buys and holds stocks generally for a period of a few days to a couple of weeks. As a swing trader you don’t care about the fundamentals of a company or the products they sell but you focus on the technical analysis. Swing traders use technical analysis to look for stocks with short-term price momentum. Paying attention to a stock’s price trend and patterns are key to being a successful swing trader. A general motto for a swing trader is buy at the bottom and sell at the top.
Choosing when to buy and sell stocks is very important for a swing trader. The first thing to do is take a look at the stock charts. The first thing to look at is the stage the stock is in. There are four stages that a stock goes through with a time frame of a day, week, or even a month. Stage 1 is considered the time after a downtrend, stage 2 is the beginning of an uptrend, stage 3 is the peak or sideways trend and stage 4 is the beginning of a downtrend. A swing trader wants to buy stocks in stage 2 and sell stocks at stage 4. The second thing to look for is the strength of the current trend of the stock. A weak trend is when the stocks jump up and down all the time. A
swing trader is looking for a strong upward trend. The third thing a swing trader will look at is the relative strength of the industry. The best way to tell the relative strength of an industry is to compare it to the market. The industries that do well on days that the market falls on have good relative strength. Those are the industries a swing trader wants to be in. The final thing a swing trader will look at is the market capitalization. A swing trader wants to invest in a large market capitalization, greater than 10 B, because they are actively traded and tend to have large swings causing a greater profit is bought and sold correctly.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. สวิงซิมป์สันค้า4.1 การใช้สวิงค้าสวิงผู้ประกอบการซื้อ และถือหุ้นโดยทั่วไปเป็นระยะเวลาไม่กี่วันไปสักสองสัปดาห์ เป็นผู้ประกอบการสวิงคุณไม่สนใจเกี่ยวกับพื้นฐานของบริษัทหรือผลิตภัณฑ์จะขาย แต่เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค เทรดเดอร์สวิงใช้วิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อค้นหาหุ้นด้วยโมเมนตัมระยะสั้นของราคา ให้ความสนใจกับหุ้นแนวโน้มราคาและรูปแบบมีคีย์เป็น ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จแกว่ง คำขวัญทั่วไปสำหรับผู้ประกอบการที่แกว่งเป็นซื้อที่ด้านล่าง และขายที่ด้านบนเลือกเวลา การซื้อขายหุ้นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการที่แกว่ง สิ่งแรกที่ทำคือ ดูที่แผนภูมิหุ้น สิ่งแรกที่ต้องดูเป็นขั้นตอนที่หุ้นอยู่ใน มีสี่ขั้นตอนที่หุ้นที่ผ่านไปกับเวลา ของวัน สัปดาห์ เดือน ระยะ 1 ถือว่าเวลาหลังจาก downtrend เป็น 2 ขั้นเป็นต้นก่อนการ ขั้นตอนที่ 3 เป็นคหรือแนวโน้มด้านข้าง และระยะที่ 4 เป็นจุดเริ่มต้นของ downtrend เป็น ผู้ประกอบการที่สวิงต้องซื้อหุ้นใน 2 ขั้น และขายหุ้นในระยะ 4 สิ่งสองหามีความแข็งแรงของแนวโน้มปัจจุบันของหุ้น แนวโน้มที่อ่อนแอคือเมื่อหุ้นกระโดดขึ้นและลงตลอดเวลา Aสวิงผู้กำลังมองหาแนวโน้มขึ้นแข็งแกร่ง สิ่งสามคนสวิงจะดูความสัมพันธ์ของอุตสาหกรรมได้ วิธีที่ดีสุดเพื่อบอกความสัมพันธ์ของอุตสาหกรรมคือการ เปรียบเทียบตลาด อุตสาหกรรมที่ทำกันในวันที่ตลาดบน มีความสัมพันธ์ที่ดี ผู้เป็นอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการสวิงต้อง สิ่งสุดท้ายที่จะดูคนสวิงคือ มูลค่าตลาด สวิงผู้ประกอบการต้องการลงทุนมีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ 10 B มากกว่า เพราะพวกเขาจะซื้อขายอย่างแข็งขัน และมักจะ มีขนาดใหญ่ ก่อให้เกิดกำไรมากขึ้นกระเช้าชิงช้าซื้อ และขายได้อย่างถูกต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. สวิงเทรดดิ้งซิมป์สัน
4.1 วิธีการใช้เทรดดิ้งสวิง
สวิงผู้ประกอบการซื้อและถือหุ้นโดยทั่วไปเป็นระยะเวลาไม่กี่วันที่จะสองสามสัปดาห์ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการแกว่งที่คุณไม่สนใจเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของ บริษัท หรือผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาขาย แต่คุณมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ทางเทคนิค ผู้ค้าสวิงใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่จะมองหาหุ้นที่มีแรงผลักดันราคาในระยะสั้น ให้ความสนใจกับแนวโน้มของราคาหุ้นและรูปแบบการเป็นกุญแจสำคัญในการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จแกว่ง คำขวัญทั่วไปของผู้ประกอบการแกว่งเป็นซื้อที่ด้านล่างและขายที่ด้านบน.
เลือกเมื่อมีการซื้อและขายหุ้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเป็นผู้ประกอบการแกว่ง สิ่งแรกที่ต้องทำคือการใช้เวลาดูแผนภูมิหุ้น สิ่งแรกที่ต้องดูที่เป็นเวทีหุ้นอยู่ใน. มีสี่ขั้นตอนที่หุ้นจะผ่านไปกับกรอบเวลาของวัน, สัปดาห์หรือแม้กระทั่งเดือน ขั้นตอนที่ 1 คือการพิจารณาครั้งหลังจากขาลงระยะที่ 2 เป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นเวที 3 เป็นจุดสูงสุดหรือแนวโน้มด้านข้างและขั้นตอนที่ 4 เป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง ผู้ประกอบการแกว่งต้องการที่จะซื้อหุ้นในระยะที่ 2 และขายหุ้นในขั้นตอนที่ 4 สิ่งที่สองที่จะมองหาคือความแข็งแรงของแนวโน้มปัจจุบันของหุ้น แนวโน้มอ่อนแอคือเมื่อหุ้นกระโดดขึ้นและลงตลอดเวลา
ผู้ประกอบการแกว่งที่กำลังมองหาแนวโน้มสูงขึ้นแข็งแกร่ง สิ่งที่สามที่เป็นผู้ประกอบการแกว่งจะดูที่เป็นความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรม วิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกความแข็งแรงของอุตสาหกรรมคือการเปรียบเทียบกับตลาด อุตสาหกรรมที่ทำดีในวันที่ตลาดตรงกับวันที่มีความแข็งแรงญาติดี ผู้ที่เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ประกอบการแกว่งต้องการที่จะอยู่ใน. สิ่งสุดท้ายที่เป็นผู้ประกอบการแกว่งจะดูที่เป็นมูลค่าตลาด ผู้ประกอบการแกว่งต้องการที่จะลงทุนในตลาดทุนขนาดใหญ่มากกว่า 10 B, เพราะพวกเขามีการซื้อขายอย่างแข็งขันและมีแนวโน้มที่จะมีชิงช้าขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดกำไรมากขึ้นมีการซื้อและขายได้อย่างถูกต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . สวิงเทรดดิ้งซิมป์สัน
4.1 วิธีการใช้สวิงเทรดดิ้ง
สวิงค้าซื้อและถือหุ้นโดยทั่วไปสำหรับระยะเวลาไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ เป็นผู้ประกอบการสวิง คุณไม่สนใจเกี่ยวกับพื้นฐานของ บริษัท หรือผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาขาย แต่คุณมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ทางเทคนิค ผู้ค้าแกว่งใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาราคาหุ้นด้วยโมเมนตัมระยะสั้นให้ความสนใจกับแนวโน้มราคาของหุ้นและรูปแบบเป็นคีย์ที่จะเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ สวิง คติพจน์ทั่วไปสำหรับผู้ประกอบการสวิงคือซื้อที่จุดต่ำสุดและขายที่ด้านบน .
เลือกเมื่อซื้อและขายหุ้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการสวิง สิ่งแรกที่ต้องทำคือดูที่แผนภูมิหุ้น . สิ่งแรกที่ต้องดูคือขั้นตอนหุ้นเป็นในมีอยู่สี่ขั้นตอนที่หุ้นจะผ่านกับกรอบเวลาของวัน , สัปดาห์ หรือเป็นเดือน ขั้นที่ 1 ถือว่าเป็นหลังจากเวลาขาลงระยะที่ 2 เป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นขั้นที่ 3 คือ สูงสุด หรือ ข้าง แนวโน้ม และขั้นที่ 4 คือจุดเริ่มต้นของ downtrend สวิงค้าต้องการที่จะซื้อหุ้นในขั้นที่ 2 และขายหุ้นในขั้นตอนที่ 4สิ่งที่สองที่จะมองหาคือความแรงของแนวโน้มปัจจุบันของหุ้น แนวโน้มที่อ่อนแอ คือ เมื่อหุ้นกระโดดขึ้นและลงตลอดเวลา a
แกว่งเจ้ากำลังมองหาที่แข็งแกร่งแนวโน้มสูงขึ้น สิ่งสามชิงช้าผู้ประกอบการค้าจะดูคือความแข็งแรงสัมพัทธ์ของอุตสาหกรรม วิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกความแรงสัมพัทธ์ของอุตสาหกรรมคือการเปรียบเทียบกับตลาดอุตสาหกรรมที่ทำกันในวัน ที่ตลาดจะมีความแข็งแรงสัมพัทธ์ดี นั่นเป็นผู้ประกอบการแกว่งเจ้าต้องการจะเข้าไป สิ่งสุดท้ายที่แกว่งผู้ประกอบการค้าจะดูมีมูลค่าตลาด ชิงช้าผู้ประกอบการค้าต้องการที่จะลงทุนในตลาดทุนที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 Bเพราะพวกเขามีการซื้อขายอย่างแข็งขันและมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นๆลงๆทำให้ไรมากกว่า คือซื้อและขายได้อย่างถูกต้อง