In Malaysia, the incumbent governme

In Malaysia, the incumbent government is trying to stay ahead of increased demand for change. Prime Minister Najib Razak scrapped fuel subsidies and will enact a 6% goods and services tax in April to improve his government’s fiscal position. Najib will likely accelerate his Economic Transformation Program by introducing further tax incentives for foreign investors. Further liberalization of the manufacturing and financial services sectors is likely as well. It’s a fair bet that as growth tapers in China (and the impact of that slowdown is felt in Malaysia), Najib’s government will feel pressure to boost public spending on infrastructure, education, and health care. That’s a good thing—particularly if authorities, as expected, continue to advance a broad fiscal reform agenda, with support from the middle class, to balance the nation’s budget by 2020.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในมาเลเซีย incumbent รัฐบาลกำลังพยายามอยู่ก่อนการเปลี่ยนแปลงขึ้น นายกรัฐมนตรี Najib ตุนเสียเงินอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง และจะประกาศใช้ 6% สินค้าและบริการภาษีในเดือนเมษายนเพื่อปรับปรุงตำแหน่งทางการเงินของรัฐบาลของเขา Najib มีแนวโน้มจะเร่งเขาโปรแกรมการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยการแนะนำเพิ่มเติมภาษีสิ่งจูงใจสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ การเปิดเสรีการบริการภาคการเงิน และผู้ผลิตมีแนวโน้มที่ดี มันเป็นการพนันที่แฟร์ที่ tapers เติบโตในจีน (และผลกระทบของการชะลอตัวนั้นจะรู้สึกในมาเลเซีย), Najib ของรัฐบาลจะรู้สึกกดดันให้เพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะในโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี — โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหน่วยงาน ตามที่คาดไว้ ยังเลื่อนวาระการปฏิรูปทางการเงินผ่อน ด้วยการสนับสนุนจากชนชั้นกลาง ดุลงบประมาณของประเทศ โดย 2020

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในประเทศมาเลเซียหน้าที่รัฐบาลพยายามที่จะอยู่ข้างหน้าของความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง นายกรัฐมนตรีนาจิบราซัคทิ้งเงินอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงและจะตราสินค้า 6% และบริการภาษีในเดือนเมษายนที่จะปรับปรุงฐานะการคลังของรัฐบาล นาจิบมีแนวโน้มที่จะเร่งการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของเขาโดยการแนะนำสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อไปสำหรับนักลงทุนต่างชาติ การเปิดเสรีต่อไปของการผลิตและภาคบริการทางการเงินมีโอกาสได้เป็นอย่างดี มันเป็นทางออกที่เป็นธรรมว่าชะลอการเจริญเติบโตในประเทศจีน (และผลกระทบของการชะลอตัวที่จะรู้สึกในมาเลเซีย) รัฐบาลนาจิบจะรู้สึกกดดันที่จะเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานการศึกษาและการดูแลสุขภาพ นั่นเป็นสิ่งที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสิ่งที่หน่วยงานเป็นไปตามคาดต่อไปล่วงหน้าวาระการปฏิรูปการคลังในวงกว้างด้วยการสนับสนุนจากชนชั้นกลางเพื่อความสมดุลของงบประมาณของประเทศในปี 2020

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในมาเลเซีย ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะอยู่ข้างหน้าของความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง นายกรัฐมนตรีนาจิบ Razak ยกเลิกเงินอุดหนุนเชื้อเพลิง และจะออกเป็น 6 % ภาษีสินค้าและบริการในเดือนเมษายนเพื่อปรับปรุงฐานะการคลังของรัฐบาลของเขา นาจิบ อาจจะเร่งโปรแกรมการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของเขาโดยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนต่างชาติการเปิดเสรีต่อไปของการผลิตและการบริการภาคการเงินมีแนวโน้มได้เป็นอย่างดี มันเป็นเดิมพันยุติธรรมที่เป็นแท่ง ( เติบโตในประเทศจีนและผลกระทบของการชะลอตัวจะรู้สึกในมาเลเซีย ) รัฐบาลนาจิบจะรู้สึกกดดันที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และการดูแลสุขภาพ นั่นเป็นสิ่งที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้มีอำนาจ ตามที่คาดไว้ยังคงเลื่อนวาระการปฏิรูปเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นกลาง ดุลงบประมาณของประเทศในปี 2020