Globalization involves the reconfig

Globalization involves the reconfiguration of states. Earlier analyses claimed that globalization leads to the retreat and rerosion of states (Strange 1996). According to a radical view, globalization means the onset of a borderless world. (Ohmae 1992), the end of the nation state, and the formation of region states (Ohmae 1995). Stephen Kobrin notes, “A critical issue raised by globalization is the lack of meaning of geographically rooted jurisdictions when markets are constructed in electronic space” (1998: 362). Thus, a general account of the political implications of globalization is the erosion of boundaries. and the growth of crossborder and supraterritorial relations (Scholte 2000). These arguments now come with more nuanced views about the role of states.
According to sociological perspectives on globalization; the form of globalization from the nineteenth century onward was the growing pre-dominance of nation states (Robertson 1992). Between 1840 and 1960, nation states were the leading format of political organization worldwide

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับการกำหนดค่าของอเมริกา วิเคราะห์ก่อนหน้านี้อ้างว่า โลกาภิวัตน์ที่นำไปสู่สถานที่พักผ่อนและ rerosion ของอเมริกา (แปลก 1996) ตามดูรุนแรง โลกาภิวัตน์หมายถึง ของโลกที่ไร้ขอบ (Ohmae 1992) ปลายประเทศรัฐ และการก่อตัวของภูมิภาคอเมริกา (Ohmae 1995) หมายเหตุ Stephen Kobrin "ปัญหาสำคัญขึ้น โดยโลกาภิวัตน์คือ การขาดของความหมายของการดูแลรากกันทางภูมิศาสตร์เมื่อตลาดได้สร้างพื้นที่อิเล็กทรอนิกส์" (1998:362) จึง บัญชีทั่วไปของการเมืองผลกระทบของโลกาภิวัตน์เป็นการพังทลายของขอบเขต และการเติบโตของความสัมพันธ์พาและ supraterritorial (Scholte 2000) อาร์กิวเมนต์นี้มาตอนนี้ มีเพิ่มเติมฉับมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของอเมริกา ตามมุมมองสังคมวิทยาในโลกาภิวัตน์ รูปแบบของโลกาภิวัตน์จากศตวรรษเป็นต้นไปถูกครอบงำก่อนเจริญเติบโตของประเทศอเมริกา (โรเบิร์ตสัน 1992) ระหว่าง 1840 และ 1960 ประเทศอเมริกาได้นำรูปแบบขององค์กรทางการเมืองทั่วโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โลกาภิวัตน์ที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างของรัฐ วิเคราะห์ก่อนหน้านี้อ้างว่าโลกาภิวัตน์นำไปสู่การถอยและ rerosion ของรัฐ (แปลก 1996) ตามมุมมองที่รุนแรงโลกาภิวัตน์หมายถึงการโจมตีของโลกที่ไร้พรมแดน (Ohmae 1992) ในตอนท้ายของรัฐชาติและการก่อตัวของรัฐในภูมิภาค (Ohmae 1995) สตีเฟ่น Kobrin โน้ต "ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นโดยโลกาภิวัตน์คือการขาดของความหมายของเขตอำนาจศาลที่หยั่งรากทางภูมิศาสตร์เมื่อตลาดมีการสร้างในพื้นที่อิเล็กทรอนิกส์" (1998: 362) ดังนั้นบัญชีทั่วไปของผลกระทบทางการเมืองของโลกาภิวัตน์คือการพังทลายของขอบเขต และการเติบโตของ crossborder และความสัมพันธ์ supraterritorial นี้ (Scholte 2000) ข้อโต้แย้งเหล่านี้ในขณะนี้มาพร้อมกับมุมมองที่เหมาะสมยิ่งขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของรัฐ.
ตามมุมมองทางสังคมวิทยาในโลกาภิวัตน์ รูปแบบของโลกาภิวัตน์จากศตวรรษที่สิบเก้าเป็นต้นไปคือการปกครองก่อนที่เพิ่มขึ้นของประเทศสหรัฐอเมริกา (โรเบิร์ต 1992) ระหว่าง 1840 และ 1960, ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นรูปแบบชั้นนำขององค์กรทางการเมืองทั่วโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โลกาภิวัตน์กับการปรับของสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้ โดยอ้างว่าโลกาภิวัตน์นำไปสู่ถอยและ rerosion ของรัฐ ( แปลก 1996 ) ตามมุมมองที่รุนแรง , โลกาภิวัตน์หมายถึงการเริ่มโลกไร้พรมแดน . ( ชิ โอมาเ 1992 ) , สิ้นสุดของรัฐประชาชาติ และการก่อตัวของรัฐภาค ชิ โอมาเ 1995 ) สตีเฟน kobrin หมายเหตุ" วิกฤตปัญหาขึ้นโดยโลกาภิวัตน์คือการขาดของความหมายของภูมิศาสตร์ ถอนศาล เมื่อตลาดถูกสร้างขึ้นในพื้นที่อิเล็กทรอนิกส์ " ( 2541 : 362 ) ดังนั้น บัญชีทั่วไปของผลกระทบทางการเมืองของโลกาภิวัตน์คือการกัดเซาะของขอบเขต และการเติบโตของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่าง และ supraterritorial ( โชลต์ 2000 )อาร์กิวเมนต์เหล่านี้มาเพิ่มเติมโดยความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของรัฐ
ตามมุมมองทางสังคมวิทยาในยุคโลกาภิวัตน์ รูปแบบของโลกาภิวัตน์จากศตวรรษที่สิบเก้าจึงเป็นการเติบโตก่อนการปกครองของรัฐชาติ ( โรเบิร์ต 1992 ) ระหว่าง ค.ศ. 1840 และ 1960 , ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นรูปแบบชั้นนำทั่วโลกขององค์กรทางการเมือง