IntroductionColeus (Coleus forskohl

Introduction
Coleus (Coleus forskohlii Briq.) is cultivated mainly for their
medicinal values in India. In India it is cultivated on about 2,500
hectares with an annual production of 1500 tonnes, especially in parts
of Rajasthan, Maharashtra, Karnataka and Tamil Nadu. In Tamil
Nadu alone, it is cultivated on more than 1000 hectares across. The
crop is subjected to attack by many fungal diseases, namely leaf spot
(Botryodiplodia theobromae), stem blight (Phytophthora nicotianae
var. Nicotianae), collar rot (Sclerotium rolfsii, and Rhizoctonia
bataticola), root rot (Fusarium chlamydosporum, Rhizoctonia solani
and Macrophomina phaseolina) downy mildew (Peronospora sp) [1,2].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
Coleus (Coleus Forskohlii Briq.) เป็นที่ปลูกส่วนใหญ่ของพวกเขาสำหรับ
ค่ายาในประเทศอินเดีย ในประเทศอินเดียก็มีการปลูกประมาณ 2,500
ไร่ที่มีการผลิตปีละ 1,500 ตันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วน
ของรัฐราชสถาน, Maharashtra, Karnataka และรัฐทมิฬนาฑู ในรัฐทมิฬ
นาฑูอยู่คนเดียวก็มีการปลูกในมากกว่า 1000 ไร่ทั่ว
พืชอยู่ภายใต้การโจมตีโดยโรคเชื้อราหลายคือใบจุด
(Botryodiplodia theobromae), ก้านทำลาย (Phytophthora nicotianae
var. nicotianae) ปกเน่า (Sclerotium rolfsii และ Rhizoctonia
bataticola) รากเน่า (Fusarium chlamydosporum, Rhizoctonia solani
และ Macrophomina phaseolina) โรคราน้ำค้าง (Peronospora SP) [1,2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนะนำใบ ( ใบ forskohlii briq ) ซึ่งส่วนใหญ่ของพวกเขาคุณค่าสมุนไพรในอินเดีย ในอินเดียเป็นที่เพาะปลูกใน 2500ไร่ ด้วยการผลิตปี 1 , 500 ตัน โดยเฉพาะในส่วนของรัฐราชสถาน , Maharashtra , อินเดียและทมิฬ Nadu ในภาษาทมิฬนาฑูเพียงอย่างเดียว มันมีมากกว่า 1 , 000 ไร่ ข้าม ที่พืชอยู่ภายใต้การโจมตีโดยโรคราใบจุดหลาย ได้แก่( ผล theobromae ) , โรคลำต้นไหม้ ( nicotianaevar nicotianae ) ปกเปื่อย ( Sclerotium rolfsii และไรซอคโทเนียbataticola ) , โรครากเน่า ( chlamydosporum เชื้อรา Fusarium ,macrophomina downy mildew และชีวภาพ ) ( peronospora SP ) [ 1 , 2 ]