The California Trail carried over 2

The California Trail carried over 250,000 gold-seekers and farmers to the gold fields and rich farmlands of the Golden State during the 1840s and 1850s, the greatest mass migration in American history. The general route began at various jumping off points along the Missouri River and stretched to various points in California Oregon, and the Sierra Nevada. The specific route that emigrants and forty-niners used depended on their starting point in Missouri, their final destination in California, the condition of their wagons and livestock, and yearly changes in water and forage along the different routes. The trail passes through the states of Missouri, Kansas Nebraska, Colorado, Wyoming, Idaho, Utah, Nevada, Oregon, and California.

Before the trail was blazed, the Great Basin region had only been partially explored during the days of Spanish and Mexican rule. However, that changed in 1832 when Benjamin Bonneville, a United States Army officer, requested a leave of absence to pursue an expedition to the west. The expedition was financed by John Jacob Astor, a rival of the Hudson Bay company. While Bonneville was exploring the Snake River in Wyoming, he sent a party of men under Joseph Walker to explore the Great Salt Lake and find an overland route to California.

Donner Lake EncampmentEarly settlers began to use the trail in the 1840's, the first of which was John Bidwell, who led the 1841 Bidwell-Bartleson Party. In 1842, a member of the Bidwell-Bartleson Party returned to Missouri on the Humboldt River Route.

Among them was a man named Joseph Chiles, who would lead another party to California in 1843 and play an important part in the subsequent opening of more segments of the California Trail. Throughout the 1840's settlers would develop short cuts on the route to California. One such short cut, called the Hastings Route, ran south of the main route. This "new" route would spell the death of many of those in the infamous Donner Party.

The main branch of the trail across the Great Plains generally followed the same path as the Oregon and Mormon Trails, but extended to California from various points in southern Wyoming and Idaho. The trail followed the Missouri River before crossing the great plains of Nebraska along the Platte and North Platte Rivers to present-day Wyoming. It then followed the Sweetwater River across Wyoming, then northwest along the Snake River to Fort Hall in present-day southeastern Idaho. Fort Hall was the Hudson Bay Company's post on the Snake River. From here, the primary route followed the Snake River south to American Falls, past Massacre Rocks, and Register Rock to cross the Raft River. After the crossing of the river, the trail split with the Oregon Trail, with the California bound emigrants turning south through the Raft River Valley to the City of Rocks.

The trail then climbed through the Pinnacle and Granite Passes, before dropping down to Goose Creek and meandering south through the northwest corner of Utah and into Nevada. At the headwaters of the Humboldt River in present-day northwestern Nevada the California Trail followed the north bank of the Humboldt River southwest through present day Elko, Nevada and the narrow Carlin Canyon, where, during periods of high water, the route was almost impassable.

West of Carlin, the California Trail climbed Emigrant Pass, descending into Emigrant Canyon to rejoin the Humboldt River at Gravelly Ford. Here, the route divided to follow the north and south sides of the river, before rejoining at Humboldt Bar. Various routes branched out across the Sierra Nevada, as the emigrants made there way to various destinations in California.



"I think that I may without vanity affirm that I have seen the elephant."

- Louisa Clapp

Early emigrants once called the California Trail an elephant, due to the difficult journey. If you wanted to get to California in pre-railroad times, you were guaranteed an arduous trek. California emigrants faced the greatest challenges of all the pioneer emigrants of the mid-19th century. In addition to the Rockies, these emigrants faced the barren deserts of Nevada and the imposing Sierra Nevada Range.

The travelers of the California Trail often quipped that if you had "seen the elephant," then you had hit some hard traveling.

When gold was discovered at Sutter's Mill in Coloma, California, the trickle of emigrants became a flood as thousands of prospectors and families made their way to the Golden State in hopes of finding their fortunes. According to some statistics, over 70,000 emigrants used the California Trail in 1849 and 1850 alone.

In the two decades of the 1840's and 1850's, the California Trail carried over 250,000 gold-seekers and farmers to the state's gold fields and rich farmlands. It was the greatest mass migration in American history.

Eventually, the portions of the railroad followed parts of the California Trail and as the automobile was introduced

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เส้นทางแคลิฟอร์เนียมา 250,000 ผู้แสวง หาทอง และเกษตรกรเขตทองและนาอุดมไปด้วยของรัฐทองถึงทศวรรษที่ 1840 และยุค 1850 อพยพมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา กระบวนการผลิตทั่วไปเริ่มที่ต่าง ๆ กระโดดออกจากจุดตามแม่น้ำมิสซูรี และยืดขยายไปหลายจุดในแคลิฟอร์เนียโอเรกอน และเซียร่าเนวาดา กระบวนการเฉพาะที่อพยพและ forty-niners ที่ใช้ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นในมิสซูรี ปลายในแคลิฟอร์เนีย สภาพของรถบรรทุก และปศุสัตว์ และการเปลี่ยนแปลงรายปีในน้ำและพืชอาหารสัตว์ตามเส้นทางต่าง ๆ เส้นทางผ่านรัฐมิสซูรี เนบรา สกาแคนซัส โคโลราโด วูมมิง ไอดาโฮ ยูทาห์ เนวาดา โอเรกอน และแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่เส้นทางถูกสร้าง ภูมิภาครทมีเฉพาะรับบางส่วนสำรวจในระหว่างวันของสเปนและเม็กซิกันกฎ อย่างไรก็ตาม ที่เปลี่ยนแปลงใน 1832 เมื่อเบนจามิน Bonneville กับเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐ ร้องขอลาการศึกษาการเดินทางไปทางทิศตะวันตก การเดินทางเป็นทุน โดย John Jacob Astor คู่แข่งของบริษัทอ่าวฮัดสัน ในขณะที่ Bonneville ถูกสำรวจแม่งูในไวโอมิง เขาส่งพรรคของคนใต้เอิบ เพื่อสำรวจทะเลสาบเกลือดีเป็นเส้นทางบกไปแคลิฟอร์เนีย ตั้งถิ่นฐาน EncampmentEarly เล donner เริ่มที่จะใช้เส้นทางใน 1840's ครั้งแรกที่ถูกจอห์น Bidwell ผู้นำพรรค Bidwell Bartleson 1841 ใน 1842 สมาชิกพรรค Bidwell Bartleson กลับไปมิสซูรีบนเส้นทางแม่น้ำฮัมโบลด์ ในหมู่พวกเขา เป็นคนที่ชื่อโจเซฟ Chiles ที่จะนำบุคคลอื่นไปแคลิฟอร์เนียใน 1843 และมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มเติมส่วนของเส้นทางแคลิฟอร์เนียเปิดตามมา ตลอด 1840's การ ตั้งถิ่นฐานจะพัฒนาตัดสั้นในเส้นทางไปแคลิฟอร์เนีย หนึ่งเช่นตัดสั้น ทางเฮสติ้งส์ วิ่งใต้เส้นทางหลัก เส้นทางใหม่"นี้จะสะกดการตายของหลายคนในพรรค Donner น่าอับอาย สาขาหลักของทางข้ามราบดีโดยทั่วไปตามตามโอเรกอนและเส้นทางมอ แต่ขยายจากจุดต่าง ๆ ในไวโอมิงและไอดาโฮภาคใต้แคลิฟอร์เนีย เส้นทางตามแม่น้ำมิสซูรีก่อนข้าม great plains ของเนบรัสกา Platte และเหนือแม่น้ำ Platte เพื่อไวโอมิงในปัจจุบัน มันแล้วตามแม่น้ำสวีตวอเตอร์ในไวโอมิง แล้วตะวันตกเฉียงเหนือตามแม่งูป้อมหอในไอดาโฮตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน หอป้อมเป็นของ บริษัทอ่าวฮัดสันลงแม่งู จากที่นี่ เส้นทางหลักตามแม่งูใต้ไปน้ำตกอเมริกัน หินของการสังหารหมู่ และร็อคลงทะเบียนข้ามแม่น้ำแพ หลังจากข้ามแม่น้ำ ทางแยกเส้นทางโอเรกอน พร้อมอพยพแคลิฟอร์เนียผูกที่เปิดใต้ผ่านหุบเขาแม่น้ำแพไปเมืองหิน เส้นทางจากนั้นปีนขึ้นผ่านพินนาเคิลและผ่านหินแกรนิต ก่อนจะปล่อยลงไป Goose Creek และใต้คดเคี้ยวผ่านเฉียงลง ในเนวาดายูทาห์ และ ที่อพยพแม่น้ำฮัมในเนวาดาตะวันตกเฉียงเหนือที่ปัจจุบัน เส้นทางแคลิฟอร์เนียตามของตะวันตกเฉียงใต้แม่น้ำฮัมผ่านวันปัจจุบัน Elko เนวาดาและแคบคาร์ลแคนยอน ที่ ในระหว่างที่น้ำสูง กระบวนการผลิตเป็น impassable เกือบ ทิศตะวันตกของคาร์ล แคลิฟอร์เนียทางปีน Emigrant Pass เป็นแคนยอน Emigrant เพื่อไปสมทบแม่น้ำฮัมก้อนกรวดฟอร์ด ที่นี่ กระบวนการผลิตแบ่งตามด้านเหนือและด้านใต้น้ำ ก่อนที่จะเข้าร่วมใหม่ที่ฮัมบาร์ หลายเส้นแยกออกข้ามเซียร์ราเนวาดา เป็นการอพยพทำให้มีวิธีการสถานที่ต่าง ๆ ในแคลิฟอร์เนีย "ผมคิดว่า ผมอาจไม่ มีโต๊ะเครื่องแป้งยืนยันว่า ฉันได้เห็นช้าง" -Louisa Clapp ต้นอพยพครั้งเดียวเรียกว่าแคลิฟอร์เนียทางช้าง เนื่องจากการเดินทางยาก ถ้าคุณอยากรับแคลิฟอร์เนียในครั้งก่อนรถไฟ คุณได้รับประกันการเดินทางลำบาก แคลิฟอร์เนียอพยพประสบความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งหมดอพยพผู้บุกเบิกของกลางศตวรรษ นอกจากเทือกเขาร็อกกี้ อพยพเหล่านี้ต้องเผชิญกับทะเลทรายแห้งแล้งของเนวาดาและเกรงขามเซียร์ราเนวาดาช่วง ผู้เดินทางของเส้นทางแคลิฟอร์เนียมักจะ quipped ว่า ถ้าคุณมี "เห็นช้าง แล้วคุณมีตีบางเดินทางยาก เมื่อค้นพบทองในโรงของซัท Coloma แคลิฟอร์เนีย หยดอพยพกลายเป็น น้ำท่วมเป็นพัน prospectors และครอบครัวเข้ามาในรัฐทองหวังของการค้นหาโชคชะตาของพวกเขา ตามสถิติบาง อพยพมากกว่า 70,000 ใช้ทางแคลิฟอร์เนียในปี 1849 และ 1850 คน ในทศวรรษที่สองของ 1840's และ 1850's แคลิฟอร์เนียทางดำเนินมากกว่า 250,000 ผู้แสวงหาทองและเกษตรกรของรัฐเขตทองและนาอุดมไปด้วย ได้อพยพมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา ในที่สุด บางส่วนของทางรถไฟตามส่วนของทางแคลิฟอร์เนีย และเป็นรถยนต์แนะนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แคลิฟอร์เนีย Trail ดำเนินการมากกว่า 250,000 ทองผู้สมัครและเกษตรกรทุ่งทองและผืนดินที่อุดมไปด้วยของรัฐแคลิฟอร์เนียในช่วงยุค 1840 และ 1850 ที่อพยพย้ายถิ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน เส้นทางทั่วไปเริ่มต้นที่ต่างๆกระโดดออกจากจุดตามแม่น้ำมิสซูรี่และขยายให้ตามจุดต่าง ๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนียโอเรกอนและเซียร่าเนวาดา เส้นทางที่เฉพาะเจาะจงที่อพยพสี่สิบ Niners ใช้ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของพวกเขาในรัฐมิสซูรีปลายทางสุดท้ายของพวกเขาในแคลิฟอร์เนียสภาพของรถบรรทุกและปศุสัตว์ของพวกเขาและการเปลี่ยนแปลงเป็นประจำทุกปีในน้ำและอาหารสัตว์ตามเส้นทางที่แตกต่างกัน เส้นทางผ่านรัฐมิสซูรีแคนซัสเนบราสก้า, โคโลราโด, ไวโอมิง, Idaho, ยูทาห์, เนวาดา, โอเรกอนและแคลิฟอร์เนีย. ก่อนที่เส้นทางที่ถูกประกายในภูมิภาคลุ่มน้ำใหญ่เพิ่งได้รับการสำรวจบางส่วนในระหว่างวันของการปกครองของสเปนและเม็กซิกัน . แต่ที่มีการเปลี่ยนแปลงใน 1832 เมื่อเบนจามินบองเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐอเมริกาขอลาออกเพื่อติดตามการเดินทางไปทางทิศตะวันตก การเดินทางเป็นทุนโดยจอห์นจาค็อบสตอร์เป็นคู่แข่งของ บริษัท อ่าวฮัดสัน ในขณะที่บองกำลังสำรวจแม่น้ำงูในไวโอมิงเขาส่งพรรคของคนใต้โจเซฟวอล์คเกอร์ในการสำรวจทะเลสาบน้ำเค็มและหาเส้นทางบกไปยังแคลิฟอร์เนีย. เนอร์ทะเลสาบ EncampmentEarly ตั้งถิ่นฐานเริ่มที่จะใช้เส้นทางใน 1840 เป็นครั้งแรกที่ คือจอห์น Bidwell ที่นำ Bidwell 1841-Bartleson พรรค ใน 1,842 ซึ่งเป็นสมาชิกของพรรค Bidwell-Bartleson กลับไปมิสซูรีในฮัมชลมารค. ในหมู่พวกเขาเป็นคนที่ชื่อโจเซฟ Chiles ที่จะนำไปสู่บุคคลอื่นไปแคลิฟอร์เนียใน 1843 และเล่นเป็นส่วนสำคัญในการเปิดตามมาของส่วนเพิ่มเติม ของแคลิฟอร์เนียตาม ตลอด 1840 ตั้งถิ่นฐานจะพัฒนาตัดสั้นบนเส้นทางไปยังแคลิฟอร์เนีย หนึ่งตัดสั้นดังกล่าวเรียกว่าเฮสติ้งส์เส้นทางวิ่งทางตอนใต้ของเส้นทางหลัก นี้ "ใหม่" เส้นทางที่จะสะกดความตายของจำนวนของผู้ที่อยู่ในเรือนจำเนอร์เลี้ยงได้. สาขาหลักของเส้นทางข้าม Great Plains โดยทั่วไปตามเส้นทางเดียวกับโอเรกอนและมอร์มอนเส้นทาง แต่ขยายไปยังแคลิฟอร์เนียจากจุดต่าง ๆ ในภาคใต้ ไวโอมิงและไอดาโฮ เส้นทางตามแม่น้ำมิสซูรี่ก่อนที่จะข้ามที่ราบที่ดีของเนบราสก้าไปตามแม่น้ำแพลตต์และนอร์ทแพลตต์ที่จะนำเสนอวันไวโอมิง จากนั้นก็ใช้ Sweetwater แม่น้ำทั่วไวโอมิงแล้วทางตะวันตกเฉียงเหนือไปตามแม่น้ำงูฟอร์ตฮอลล์ในวันปัจจุบันทางตะวันออกเฉียงใต้ไอดาโฮ ฟอร์ตฮอลล์เป็นโพสต์อ่าว บริษัท ฮัดสันในแม่น้ำงู จากที่นี่เส้นทางหลักตามแม่น้ำงูไปทางทิศใต้อเมริกันฟอลส์ที่ผ่านมาการสังหารหมู่โขดหินและลงทะเบียนร็อคที่จะข้ามแม่น้ำแพ หลังจากข้ามแม่น้ำที่แยกทางกับ Oregon Trail กับอพยพแคลิฟอร์เนียผูกพันหันไปทางทิศใต้ผ่านแพหุบเขาแม่น้ำไปยังเมืองของโขดหิน. เส้นทางแล้วปีนขึ้นไปผ่านพินนาเคิและหินแกรนิตอ้อมก่อนที่จะทิ้งลงไป Goose Creek และคดเคี้ยวใต้ผ่านมุมตะวันตกเฉียงเหนือของยูทาห์และเข้าไปในเนวาดา ต้นกำเนิดของแม่น้ำฮัมวันในปัจจุบันทางตะวันตกเฉียงเหนือเนวาดาแคลิฟอร์เนีย Trail ตามฝั่งเหนือของแม่น้ำฮัมทิศตะวันตกเฉียงใต้ในปัจจุบันวันเอลโกเนวาดาและแคบคาร์แคนยอนซึ่งในช่วงระยะเวลาของน้ำสูงเส้นทางที่ไม่สามารถใช้ได้เกือบ . ทางทิศตะวันตกของคาร์ลแคลิฟอร์เนียเส้นทางปีนขึ้นไปอพยพผ่านลงไปในหุบเขาลึกอพยพเพื่อไปสมทบกับแม่น้ำฮัมที่ห้าวฟอร์ด นี่คือเส้นทางแบ่งออกไปตามทางทิศเหนือและทิศใต้ของแม่น้ำก่อนเข้าร่วมในฮัมบาร์ เส้นทางต่างๆแยกออกไปทั่วเซียร์ราเนวาดาเป็นผู้อพยพที่ทำมีวิธีการสถานที่ต่างๆในรัฐแคลิฟอร์เนีย. "ผมคิดว่าผมอาจจะโดยไม่ต้องโต๊ะเครื่องแป้งยืนยันว่าฉันได้เห็นช้าง." - ลูอิซ่าแคลปป์ผู้อพยพในช่วงต้นครั้งเดียวที่เรียกว่าแคลิฟอร์เนียตามช้าง เนื่องจากการเดินทางที่ยากลำบาก หากคุณต้องการที่จะได้รับไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียในครั้งก่อนรถไฟคุณรับประกันช่วงระยะการเดินทางที่ยากลำบาก อพยพแคลิฟอร์เนียต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งหมดอพยพผู้บุกเบิกช่วงกลางศตวรรษที่ 19 นอกเหนือไปจากเทือกเขาร็อกกี้อพยพเหล่านี้ต้องเผชิญกับทะเลทรายที่แห้งแล้งเนวาดาและการจัดเก็บภาษี Sierra Nevada ช่วง. นักท่องเที่ยวของแคลิฟอร์เนียตามมักจะเหน็บว่าถ้าคุณได้ "เห็นช้าง" แล้วคุณได้ตีบางอย่างหนักเดินทาง. เมื่อทอง ค้นพบในมิลล์ซัทเทอใน Coloma, California, หยดผุกร่อนกลายเป็นน้ำท่วมเป็นพันของแร่และครอบครัวทำทางของพวกเขาไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียในความหวังของการหาโชคชะตาของพวกเขา ตามสถิติบางอย่างมากกว่า 70,000 อพยพใช้แคลิฟอร์เนียตามใน 1849 และ 1850 เพียงอย่างเดียว. ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาของ 1840 และ 1850 ที่แคลิฟอร์เนียตามดำเนินการมากกว่า 250,000 ทองผู้สมัครและเกษตรกรทุ่งทองของรัฐและผืนดินที่อุดมไปด้วย มันเป็นอพยพย้ายถิ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน. ในที่สุดบางส่วนของทางรถไฟที่ใช้ชิ้นส่วนของแคลิฟอร์เนียตามและเป็นรถยนต์ที่ได้รับการแนะนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เส้นทางรัฐแคลิฟอร์เนียกวาดกว่า 250 , 000 ทองผู้แสวงหาและเกษตรกรทองและเขตนาอุดมของรัฐโกลเด้นและในช่วง 1840 1850 มวลการย้ายถิ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา เส้นทางทั่วไปเริ่มกระโดดออกจากจุดที่ต่าง ๆตามแม่น้ำมิสซูรี่และขยายไปยังจุดต่างๆในโอเรกอนแคลิฟอร์เนีย และ Sierra Nevada โดยเฉพาะเส้นทางอพยพและสี่สิบไนเนอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับของพวกเขาที่จุดเริ่มต้นใน Missouri , ปลายทางสุดท้ายของพวกเขาในแคลิฟอร์เนีย , สภาพของเกวียนและปศุสัตว์และการเปลี่ยนแปลงรายปีในน้ำและหาอาหารตามเส้นทางที่แตกต่างกัน เส้นทางผ่านรัฐของมิสซูรี , แคนซัส เนบราสก้า , โคโลราโด , ไวโอมิง , Idaho , ยูทาห์ , เนวาดา , โอเรกอนและแคลิฟอร์เนียก่อนที่จะเป็นเส้นทางที่เจิดจ้า , ลุ่มน้ำเขตได้เพียงบางส่วน โดยในระหว่างวันของภาษาสเปนและกฎเม็กซิกัน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงใน 1832 เมื่อเบนจามินบอง เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐอเมริกา ขอพักงานเพื่อติดตามการเดินทางไปทางทิศตะวันตก การเดินทางคือ financed โดยจอห์น เจคอบ แอสเตอร์ เป็นคู่แข่งของบริษัทฮัดสันเบย์ ในขณะที่บองคือการสำรวจแม่น้ำงูในไวโอมิง , เขาส่งพรรคของคนใต้ โจเซฟวอล์คเกอร์ที่จะสำรวจทะเลสาบเกลือที่ดีและหาเส้นทางทางบก แคลิฟอร์เนียทะเลสาบดอนเนอร์ encampmentearly ตั้งถิ่นฐานเริ่มใช้เส้นทางใน 1840 , แรกที่จอห์น บิดเวลล์ ผู้ นำ ร้าน บิดเวลล์ bartleson พรรค ใน 1842 , สมาชิกของพรรค บิดเวลล์ bartleson กลับไป Missouri ในแม่น้ำฮัมเส้นทางในหมู่พวกเขาเป็นผู้ชาย ชื่อ โจเซฟ ชิลี ซึ่งจะทำให้พรรคอื่นที่แคลิฟอร์เนียใน 1843 และเล่นเป็นส่วนสำคัญในการเปิดที่ตามมาของส่วนเพิ่มเติมของเส้นทางรัฐแคลิฟอร์เนีย ตลอด 1840 การตั้งถิ่นฐานจะพัฒนาตัดสั้นบนเส้นทางรัฐแคลิฟอร์เนีย หนึ่ง เช่น ตัดสั้น เรียกว่า เส้นทาง เฮสติ้ง วิ่งทางใต้ของเส้นทางหลัก " ใหม่ " เส้นทางจะสะกดความตายของหลายคนในพรรคให้น่าอับอายสาขาหลักของเส้นทางข้ามที่ราบโดยทั่วไปตามเส้นทางเดียวกับเส้นทางโอเรกอน มอร์มอน แต่ขยายไปยังแคลิฟอร์เนียจากจุดต่าง ๆในภาคใต้ของรัฐไวโอมิ่ง และ ไอดาโฮ เส้นทางตามแม่น้ำมิสซูรี่ก่อนข้ามที่ราบของเนบราสก้าตามผืนแม่น้ำเหนือผืนเพื่อปัจจุบันไวโอมิง จากนั้นก็ตาม Sweetwater แม่น้ำในรัฐไวโอมิง แล้วทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือตามงูแม่น้ำฟอร์ทฮอลล์ในไอดาโฮ Southeastern วันปัจจุบัน . ฟอร์ทฮอลล์เป็นอ่าวฮัดสันบริษัทโพสต์เมื่องูแม่น้ำ จากที่นี่ เส้นทางหลักตามแม่น้ำงูใต้ตกชาวอเมริกัน อดีต หมู่หิน หิน และลงทะเบียนข้ามแพแม่น้ำ หลังจากข้ามแม่น้ำ , เส้นทางแยกกับเส้นทางโอเรกอนกับ California ผูกพันอพยพหันไปทางใต้ผ่านล่องแพแม่น้ำหุบเขาสู่เมืองหินเส้นทางปีนขึ้นไปถึงยอดและผ่านหินแกรนิต ก่อนที่จะปล่อยลงใน Goose Creek และคดเคี้ยวใต้ทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือของยูทาห์ในเนวาดา ที่ต้นน้ำของแม่น้ำฮัมในสมัยปัจจุบันทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเนวาดาเส้นทางแคลิฟอร์เนียตามธนาคารทางเหนือของแม่น้ำฮัมตะวันตกเฉียงใต้ผ่านปัจจุบันเอลโกเนวาดา และ แคนยอน คาร์ลินแคบที่ไหน ในช่วงที่น้ำสูง เส้นทางเกือบที่เป็นทางตันทางทิศตะวันตกของคาร์ลิน , แคลิฟอร์เนียตามปีนอพยพผ่านลงสู่สาธารณชน แคนยอน เพื่อไปสมทบกับแม่น้ำฮัมที่เสียงแหบ ฟอร์ด ที่นี่เส้นทางแบ่งตามทิศเหนือและทิศใต้ของแม่น้ำ ก่อนจากที่บาร์ฮัม . เส้นทางต่างๆแตกแขนงออกไปใน เซียร์ราเนวาดา เป็นอพยพทำให้มีทางไปยังสถานที่ต่างๆในแคลิฟอร์เนีย" ฉันคิดว่า ฉันอาจจะไม่หยิ่งยืนยันว่าเคยเห็นช้าง”- Louisa แคลปอพยพก่อนเคยเรียกว่าแคลิฟอร์เนียตามช้าง เนื่องจากการเดินทางลำบาก ถ้าคุณต้องการที่จะได้รับไปยังแคลิฟอร์เนียก่อนรถไฟครั้ง , คุณได้รับประกัน trek ลําบาก ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแคลิฟอร์เนียอพยพทั้งหมดผู้บุกเบิกอพยพของศตวรรษที่ 19 นอกจากเทือกเขาร็อกกี้อพยพเหล่านี้ประสบ , ทะเลทรายแห้งแล้งของเนวาดาและสง่างาม เซียร์ราเนวาดาช่วงเดินทางเส้นทางแคลิฟอร์เนียมักจะติดตั้ง ถ้าคุณมี " เห็นช้าง " แล้วคุณก็กดยาก เดินทางเมื่อทองถูกค้นพบที่ซัตเตอร์ของโรงสีใน Coloma , แคลิฟอร์เนีย , หยดของอพยพกลายเป็นน้ำท่วมเป็นพันของตัวแทนและครอบครัวที่ทำทางของพวกเขาไปยังรัฐโกลเด้นในความหวังของการหาโชคชะตาของพวกเขา ตามสถิติบางกว่า 70 , 000 อพยพใช้เส้นทางแคลิฟอร์เนีย 1849 แล้ว 1850 คนเดียวในช่วงสองทศวรรษ 1840 1850 และ , แคลิฟอร์เนียตามกวาดกว่า 250 , 000 ทองผู้แสวงหาและเกษตรกรทองและเขตอุดมนาของรัฐ มันเป็นมวลการย้ายถิ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกาในที่สุด ส่วนของทางรถไฟตามส่วนของเส้นทางแคลิฟอร์เนียและเป็นรถยนต์ที่ใช้