When nurses reported for enrollment

When nurses reported for enrollment, the study nurse rolled a die, and those with odd numbers were assigned to the soap group, and those with even numbers were assigned to the alcoholic–hand-gel group.

When nurses reported for enrollment, the study nurse rolled a die, and those
with odd numbers were assigned to the soap group, and those with even numbers were assigned to the alcoholic–hand-gel group.

Stratification was used to assure that a comparable number of nurses were assigned to the soap group or the alcoholic–hand-gel group on each ward.

Nurses in the soap group washed their hands with nonmedicated soap (Soft N Sure, Steris Corp, St Louis, MO) between care of most patients.

A few patients on study wards were on Contact Precautions, and nurses were asked
to wash with an antiseptic liquid soap containing 2% chlorhexidine gluconate (Steris) after caring for these patients.

The alcoholic hand gel used in the trial was Purell Instant Hand Sanitizer (Gojo Industries, Akron, OH).

This product contains 62% ethyl alcohol,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พยาบาลรายงานสำหรับการลงทะเบียน พยาบาลศึกษาสะสมตาย ผู้ที่ มีเลขคี่ถูกกำหนดให้กับกลุ่มสบู่ และผู้ที่ มีเลขคู่ถูกกำหนดให้กับกลุ่มแอลกอฮอล์มือเจ เมื่อพยาบาลรายงานสำหรับการลงทะเบียน พยาบาลศึกษาสะสมการตาย และผู้ด้วยคี่หมายเลขถูกกำหนดให้กับกลุ่มสบู่ และผู้ที่ มีเลขคู่ถูกกำหนดให้กับกลุ่มแอลกอฮอล์มือเจ สาระใช้เพื่อให้มั่นใจที่สามารถเปรียบเทียบจำนวนพยาบาลกลุ่มสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ – มือกลุ่มในผู้ป่วยแต่ละพยาบาลในกลุ่มสบู่ล้างมือ ด้วยสบู่ nonmedicated (Soft N แน่ Steris Corp, St Louis, MO) ระหว่างดูแลผู้ป่วยมากที่สุด ผู้ป่วยกี่ศึกษา 12mm บนมาติดต่อข้อควรระวัง และพยาบาลได้ถามล้าง ด้วยตัวยาฆ่าเชื้อ ของเหลวสบู่มี 2% chlorhexidine gluconate (Steris) หลังจากการดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ Purell ทันทีล้างมือ (Gojo อุตสาหกรรม Akron, OH) เจมือแอลกอฮอล์ที่ใช้ในการทดลองได้ ประกอบด้วย 62% เอทิลแอลกอฮอล์ < isopropanol 10% และemollients ตู้ติดตั้งใน cubicles ผู้ป่วยฉุกเฉินใน และ นอกห้องผู้ป่วย 12mm อื่น ๆ ที่ทดลองที่เกิดขึ้นบน พยาบาลใช้เจลแอลกอฮอล์มือไม่ต้องใช้เจลระหว่างติดต่อดูแลผู้ป่วยมากที่สุด แต่ได้รับอนุญาต ให้ล้าง ด้วยน้ำและสบู่ nonmedicated ในกรณีที่มือของพวกเขากลายเป็นปนเปื้อนกับดินหรือวัสดุ proteinaceous หรือเอาโลหิตของ emollients ในมือของพวกเขา พยาบาลในกลุ่มสบู่และกลุ่มแอลกอฮอล์เจลถูกต้องละเว้นจากการใช้มือครีมหรือโลชั่นใด ๆ ในระหว่างระยะเวลาทดลองใช้ พยาบาลพัฒนาระคายเคืองอย่างรุนแรงหรือความแห้งกร้านก่อนเสร็จสิ้นการทดลองที่ได้รับอนุญาตให้ใช้โลชั่น และนี้ถูกบันทึกไว้ในแบบฟอร์มการประเมินระยะที่ 1 กินเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ระยะที่ 1 ได้ตาม 2 สัปดาห์ช่วงเวลาเหลือ ซึ่งพยาบาลทั้งหมดใช้การมาตรฐานสบู่ และน้ำระบบการปกครอง (nonmedicated สบู่ ยกเว้นเมื่อดูแลผู้ป่วยไม่กี่บนระวังติดต่อ) และได้รับอนุญาตให้ใช้มือโลชั่นหรือครีม ระยะ 2 ซึ่งกินเวลา 2 สัปดาห์ พยาบาลที่อยู่เริ่มต้นในกลุ่มสบู่สลับการเจลแอลกอฮอล์ – มือ และในทางกลับกัน ทั้งสองยังได้ขอให้ refra

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

When nurses reported for enrollment, the study nurse rolled a die, and those with odd numbers were assigned to the soap group, and those with even numbers were assigned to the alcoholic–hand-gel group.

When nurses reported for enrollment, the study nurse rolled a die, and those
with odd numbers were assigned to the soap group, and those with even numbers were assigned to the alcoholic–hand-gel group.

Stratification was used to assure that a comparable number of nurses were assigned to the soap group or the alcoholic–hand-gel group on each ward.

Nurses in the soap group washed their hands with nonmedicated soap (Soft N Sure, Steris Corp, St Louis, MO) between care of most patients.

A few patients on study wards were on Contact Precautions, and nurses were asked
to wash with an antiseptic liquid soap containing 2% chlorhexidine gluconate (Steris) after caring for these patients.

The alcoholic hand gel used in the trial was Purell Instant Hand Sanitizer (Gojo Industries, Akron, OH).

This product contains 62% ethyl alcohol, <10% isopropanol, and
emollients.

Dispensers were installed in patient cubicles in the ICU and outside each patient room on the other wards where the trial took place.

Nurses using the alcoholic hand gel were asked to use the gel between most patient-care contacts but were allowed to wash with the nonmedicated soap and water in the event that their hands became contaminated with dirt or proteinaceous material, or to remove buildup of emollients on their hands.

Nurses in both the soap group and the alcoholic-gel group were asked to refrain from using any hand creams or lotions during the trial periods.

Nurses who developed severe irritation or dryness before the completion of the trial were allowed to use lotion, and this was recorded on evaluation forms.

Phase 1 lasted approximately 2 weeks.

Phase 1 was followed by a 2-week rest period, during which all nurses used the standard soap-and-water regimen (nonmedicated soap, except when caring for the few patients on Contact Precautions) and were allowed to use hand lotion or cream.

During phase 2, which lasted 2 weeks, nurses who were initially in the soap group
switched to the alcoholic–hand-gel group, and vice versa. Both groups also were asked to refra

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อพยาบาลรายงานการลงทะเบียนการศึกษาพยาบาลกลิ้งตาย และมี ตัวเลข ได้รับ กลุ่ม สบู่ และผู้ที่มีหมายเลข แม้ได้รับแอลกอฮอล์เจลสำหรับมือกลุ่ม

เมื่อพยาบาลรายงานการลงทะเบียนการศึกษาพยาบาลกลิ้งตาย และบรรดา
กับเลขคี่ แบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มสบู่และผู้ที่มีหมายเลข แม้ได้รับแอลกอฮอล์เจลสำหรับมือกลุ่ม

การใช้เพื่อให้มั่นใจว่าการเปรียบจำนวนพยาบาลมอบหมายให้กลุ่มสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์–มือกลุ่มในแต่ละวอร์ด

พยาบาลในกลุ่มสบู่ล้างมือด้วยสบู่อ่อน nonmedicated N และตกแต่งอย่างดีเยี่ยมครับ คอร์ป , เซนต์ หลุยส์ โม ) ระหว่างการดูแลผู้ป่วยมากที่สุด

ไม่ผู้ป่วยบนหอผู้ป่วย ศึกษาอยู่ติดต่อมาตรการป้องกัน พยาบาลถาม
ล้างด้วยสบู่เหลวล้างมือที่มี 2% คลอเฮกซิดีน กลูโคเนต ( ตกแต่งอย่างดีเยี่ยม ) หลังจากการดูแลผู้ป่วยเหล่านี้

มีแอลกอฮอล์แฮนด์เจลที่ใช้ในการทดลองคือการให้ทันทีมือ sanitizer ( โกโจอุตสาหกรรม , แอครอน , โอไฮโอ ) .

ผลิตภัณฑ์นี้มี 62 % เอธิลแอลกอฮอล์ , < 10% ไอโซโพรพานอลและ
97 .

ตู้ติดตั้งใน cubicles ผู้ป่วยในห้อง ICU และภายนอกคนไข้แต่ละห้องบนอีกตึกที่ทดลองเอาสถานที่

พยาบาลโดยใช้แอลกอฮอล์แฮนด์เจลถูกถามที่จะใช้เจลระหว่างการดูแลผู้ป่วย การติดต่อมากที่สุด แต่ได้รับอนุญาตให้ล้างด้วยสบู่และน้ำ nonmedicated ในกรณีที่มือกลายเป็นปนเปื้อนด้วยสิ่งสกปรก หรือ proteinaceous วัสดุหรือลบ buildup ของ 97 บนมือ

พยาบาลทั้งในกลุ่มสบู่และแอลกอฮอล์เจลกลุ่ม งดการใช้ครีมหรือโลชั่นมือใด ๆในระหว่างระยะเวลาการทดลอง

พยาบาลที่พัฒนารุนแรงระคายเคืองหรือแห้งกร้าน ก่อนเสร็จสิ้นการพิจารณาอนุญาตให้ใช้โลชั่น และถูกบันทึกไว้ในรูปแบบการประเมินผล

เฟส 1 กินเวลาประมาณ 2 สัปดาห์

ระยะที่ 1 ตามด้วย 2 เหลือระยะเวลาในระหว่างที่พยาบาลทั้งหมดที่ใช้สบู่และน้ำ ( มาตรฐานการ nonmedicated สบู่ , ยกเว้นเมื่อการดูแลผู้ป่วยไม่กี่บนติดต่อมาตรการป้องกัน ) และได้รับอนุญาตให้ใช้มือของโลชั่นหรือครีม

ในเฟส 2 ซึ่งกินเวลานาน 2 สัปดาห์ พยาบาลที่เริ่มในกลุ่มสบู่
เปลี่ยนไปเป็นแอลกอฮอล์เจลสำหรับมือ 2 และในทางกลับกันทั้งสองกลุ่มยังถูกขอให้ refra