ระบบประสาทระบบประสาทของไส้เดือนดิน ประกอบสมองที่มีลักษณะเป็นสองพู เพรา การแปล - ระบบประสาทระบบประสาทของไส้เดือนดิน ประกอบสมองที่มีลักษณะเป็นสองพู เพรา ไทย วิธีการพูด

ระบบประสาทระบบประสาทของไส้เดือนดิน

ระบบประสาท
ระบบประสาทของไส้เดือนดิน ประกอบสมองที่มีลักษณะเป็นสองพู เพราะเกิดจากปมประสาทด้านหน้าหลอดอาหารมาเชื่อมรวมกันอยู่เหนือหลอดอาหาร ปมประสาทสมอง 1 คู่ อยู่เหนือคอหอยปล้องที่ 3 เส้นประสาทรอบคอหอย 2 เส้น อ้อมรอบคอหอยข้างละเส้น เส้นประสาทใหญ่ด้านท้องจะมี ปมประสาทที่ปล้องประจำอยู่ทุกปล้อง ไส้เดือนดินยัง ไม่มีอวัยวะรับความรู้สึกใดๆ มีเพียงเซลล์รับความรู้สึก ( Sensory Cells ) ที่กระจายอยู่บริเวณผิวหนัง โดยเซลล์รับความรู้สึกแต่ละเซลล์จะมีขนเล็กๆ ยื่นออกมาเพื่อรับความรู้สึกจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งเซลล์รับความรู้สึกเหล่านี้เชื่อมต่อกับระบบประสาท นอกจากเซลล์รับความรู้สึกแล้ว ยังมีเซลล์รับแสง ( Photoreceptor cells ) ในชั้นของเอพิเดอร์มิส โดยจะมีมากบริเวณริมฝีปากบน ปล้องส่วนหัวและส่วนท้ายของลำตัว มีหน้าที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงไปยังระบบประสาท ถ้ามีแสงสว่างมากเกินไปพวกมันจะเคลื่อนที่หนีเข้าไปอยู่ในที่มี
ระบบสืบพันธุ์
ไส้เดือนดินเป็นสัตว์ที่มีทั้งรังไข่และอัณฑะ อยู่ในตัวเดียวกัน โดยทั่วไปจะไม่ผสมในตัวเองเนื่องจากตำแหน่งของอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งสองเพศไม่ สัมพันธ์กัน และมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ไม่พร้อมกัน ไส้เดือนดินจึงต้องมีการแลกเปลี่ยนสเปิร์มซึ่งกันและกัน
อวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้ ประกอบด้วย
1. อัณฑะ ( Testes ) ลักษณะเป็นก้อนสีขาวขนาดเล็กยื่นออกมาจากผนังของปล้อง
2. ปากกรวย รองรับสเปิร์ม ( Sperm funnel ) เป็นช่องรับสเปิร์มจากอัณฑะ
3. ท่อนำ สเปิร์ม ( Vas deferens ) เป็นท่อรับสเปิร์มจากปากกรวยไป ยังช่องสืบพันธุ์เพศผู้
4. ต่อมพร อสเตท ( Prostate gland ) เป็นต่อมสีขาวขนาดใหญ่มีรูปร่าง เป็นก้อนแตกแขนงคล้ายกิ่งไม้ 1 คู่ ทำหน้าที่สร้างของเหลวหล่อเลี้ยงสเปิร์ม
5. ช่องสืบ พันธุ์เพศผู้ ( male pores ) มี 1 คู่ อยู่ตรงด้านท้องปล้องที่ 18
6. ถุงเก็บ สเปิร์ม ( Seminal Vesicles ) มี 2 คู่ เป็นถุงขนาดใหญ่อยู่ในปล้องที่ 11 และ 12 ทำหน้าที่เก็บและพัฒนาสเปิร์มที่สร้างจากอัณฑะ


อวัยวะสืบ พันธุ์เพศเมีย ประกอบด้วย
1. รังไข่ ( Ovaries ) ทำหน้าที่สร้างไข่ 1 คู่ ติดอยู่กับเยื่อ กั้น ( Septum ) ของปล้องที่12/13 ใน Pheretimaไข่จะเรียงตัวกันเป็นแถวอยู่ในพูรังไข่
2. ปากกรวย รองรับไข่ ( Ovarian funnel ) ทำหน้าที่รองรับไข่ที่ เจริญเต็มที่แล้วจากถุงไข่
3. ท่อนำไข่ ( Oviducts ) ท่อนำไข่เป็นท่อที่ต่อจากปากกรวยรองรับไข่ในปล้องที่ 13 เปิดออกไปยังรูตัวเมีย ตรงกึ่งกลางด้านท้องของปล้องที่ 14
4. สเปิร์มมาทีกา ( Spermathecaหรือ Seminal receptacles ) เป็นถุงเก็บสเปิร์มตัวอื่นที่ได้จากการจับคู่แลกเปลี่ยน เพื่อเก็บไว้ผสมกับไข่ มีอยู่ 3 คู่
1.3 ลักษณะภายนอกของไส้เดือนดิน
ลักษณะภายนอกที่เด่นชัดของไส้เดือนดินคือการที่มีลำตัวเป็น ปล้องตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงส่วนท้าย มีรูปร่างเป็นรูปทรงกระบอก มีความยาว ในแต่ละชนิดไม่เท่ากัน เมื่อโตเต็มที่จะมีปล้องประมาณ 120 ปล้อง แต่ละปล้องจะมีเดือยเล็กๆ เรียงอยู่โดยรอบปล้อง ไม่มีส่วนหัวที่ชัดเจน ไม่มีตา มีไคลเทลลัม ซึ่งจะเห็นได้ชัด ในระยะสืบพันธุ์ และยังประกอบด้วยอวัยวะต่างๆที่สำคัญ (ดังภาพที่ 3)
1.พรอสโตเมียม ( Prostomium) มีลักษณะเป็นพูเนื้อที่ยืดหดได้ติดอยู่กับผิวด้านบนของ ช่องปาก เป็นตำแหน่งหน้าสุดของไส้เดือนดิน ทำหน้าที่คล้ายริมฝีปาก ไม่ถือว่าเป็นปล้อง มีหน้าที่สำหรับกวาดอาหารเข้าปาก
2.เพอริสโตเมียม ( Peristomium ) ส่วน นี้นับเป็นปล้องแรกของไส้เดือนดิน มีลักษณะเป็นเนื้อบางๆ อยู่รอบช่องปากและยืดหดได้
3. ช่องปาก อยู่ในปล่องที่ 1-3 เป็นช่องทางเข้าออกของอาหารเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะมีต่อมน้ำลายอยู่ในเยื่อบุช่องปากด้วย
4.เดือนหรือขน ( Setae ) จะมีลักษณะ เป็นขนแข็งสั้น ซึ่งเป็นสารพวกไคติน ที่งอกออกมาบริเวณผนังชั้นนอก สามารถยืดหดหรือขยายได้ เดือนนี้มีหน้าที่ ในการช่วยเรื่องการยึดเกาะและเคลื่อนที่ของไส้เดือนดิน
5.ช่องเปิดกลางหลัง ( Dorsal pore ) เป็นช่องเปิดขนาดเล็กตั้งอยู่ในร่อง ระหว่างปล้อง บริเวณแนวกลางหลังสามารถพบช่องเปิดชนิดนี้ได้ในไส้เดือนดินเกือบทุกชนิด ยกเว้นไส้เดือนจำพวกที่อาศัยอยู่ในน้ำหรือกึ่งน้ำ ในร่องระหว่างปล้องแรกๆ บริเวณส่วนหัวจะไม่ค่อยพบช่องเปิดด้านหลัง ช่องเปิดดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับช่องภายในลำตัวและของเหลวในช่องลำตัว มีหน้าที่ขับของเหลวหรือเมือกภายในลำตัวออกมาช่วยลำตัวภายนอกชุ่มชื่น ป้องกันการระคายเคือง ทำให้เคลื่อนไหวง่าย
6.รูขับถ่ายของเสีย ( Nephridiopore ) เป็นรูที่มีขนาดเล็กมาก สังเกตเห็นได้ยาก เป็นรูสำหรับขับของเสียออกจากร่างกาย เป็นรูเปิดภายนอก ซึ่งมีอยู่เกือบทุกปล้อง ยกเว้น 3-4 ปล้องแรก
7.ช่องสืบพันธุ์เพศผู้ ( Male pore ) เป็นช่องสำหรับปล่อยสเปิร์ม จะมีอยู่ 1 คู่ ตั้งอยู่บริเวณลำตัวด้านท้องหรือข้างท้อง ในแต่ละสายพันธุ์ช่องสืบพันธุ์อยู่ในปล้องที่ไม่เหมือนกัน มีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายหลอดเล็กยาวเข้าไปภายใน
8.ช่องสืบพันธุ์เพศเมีย ( Female pore ) เป็นช่องสำหรับออกไข่ โดยทั่วไปมักตั้งอยู่ในปล้องถัดจากปล้องที่มีรังไข่ ( avary) มักจะพบเพียง 1 คู่ ตั้งอยู่ในร่องระหว่างปล้องหรือบนปล้อง ตำแหน่งที่ตั้งมักจะแตกต่างกันในไส้เดือนแต่ละพันธุ์
9.ช่องเปิดสเปิร์มมาทีกา ( Spermathecalporse ) เป็นช่องรับสเปิร์มจากไส้เดือนดินคู่ผสมอีกตัวหนึ่งขณะ มีการผสมพันธุ์แลกเปลี่ยนสเปิร์มซึ่งกันและกัน เมื่อรับสเปิร์มแล้วจะนำไปเก็บไว้ในถุงเก็บสเปิร์ม ( Seminal receptacle )
10.ปุ่มยึดสืบพันธุ์ ( Genital papilla ) เป็นอวัยวะที่ช่วยในการยึดเกาะขณะที่ไส้เดือนดิน จับคู่ผสมพันธุ์กัน
11.ไคลเทลลัม ( Clitellum) เป็นอวัยวะที่ใช้ในการสร้างไข่ขาวหุ้มไข่ และสร้างเมือกโคคูน ไคลเทลลัมจะพบในไส้เดือนดินที่โตเต็มไวพร้อมที่ผสมพันธุ์แล้วเท่านั้น โดยจะตั้งอยู่บริเวณปล้องด้านหน้าใกล้กับส่วนหัว ครอบคลุมปล้องตั้งแต่ 2-5 ปล้อง
12.ทวารหนัก ( Anus ) เป็นรูเปิดที่ค่อน ข้างแคบเปิดออกในปล้องสุดท้าย ซึ่งใช้สำหรับขับกากอาหารที่ผ่านการย่อยและดูดซึมแล้วออกนอกลำตัว
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ระบบประสาทระบบประสาทของไส้เดือนดินประกอบสมองที่มีลักษณะเป็นสองพูเพราะเกิดจากปมประสาทด้านหน้าหลอดอาหารมาเชื่อมรวมกันอยู่เหนือหลอดอาหารปมประสาทสมอง 1 คู่อยู่เหนือคอหอยปล้องที่ 3 เส้นประสาทรอบคอหอย 2 เส้นอ้อมรอบคอหอยข้างละเส้นเส้นประสาทใหญ่ด้านท้องจะมีปมประสาทที่ปล้องประจำอยู่ทุกปล้องไส้เดือนดินยังไม่มีอวัยวะรับความรู้สึกใด ๆ มีเพียงเซลล์รับความรู้สึก (เซลล์ประสาท) ที่กระจายอยู่บริเวณผิวหนังโดยเซลล์รับความรู้สึกแต่ละเซลล์จะมีขนเล็ก ๆ ยื่นออกมาเพื่อรับความรู้สึกจากสิ่งแวดล้อมภายนอกซึ่งเซลล์รับความรู้สึกเหล่านี้เชื่อมต่อกับระบบประสาทนอกจากเซลล์รับความรู้สึกแล้วยังมีเซลล์รับแสง (เซลล์รับแสง) ในชั้นของเอพิเดอร์มิสโดยจะมีมากบริเวณริมฝีปากบนปล้องส่วนหัวและส่วนท้ายของลำตัวมีหน้าที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแสงไปยังระบบประสาทถ้ามีแสงสว่างมากเกินไปพวกมันจะเคลื่อนที่หนีเข้าไปอยู่ในที่มีระบบสืบพันธุ์ไส้เดือนดินเป็นสัตว์ที่มีทั้งรังไข่และอัณฑะอยู่ในตัวเดียวกันโดยทั่วไปจะไม่ผสมในตัวเองเนื่องจากตำแหน่งของอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งสองเพศไม่สัมพันธ์กันและมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ไม่พร้อมกันไส้เดือนดินจึงต้องมีการแลกเปลี่ยนสเปิร์มซึ่งกันและกันอวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้ประกอบด้วย1. อัณฑะ (Testes) ลักษณะเป็นก้อนสีขาวขนาดเล็กยื่นออกมาจากผนังของปล้อง 2. ปากกรวยเป็นช่องรับสเปิร์มจากอัณฑะรองรับสเปิร์ม (สเปิร์มกรวย)3. ท่อนำสเปิร์ม (Vas deferens) เป็นท่อรับสเปิร์มจากปากกรวยไปยังช่องสืบพันธุ์เพศผู้4. ต่อมพรอสเตท (ต่อมลูกหมาก) เป็นต่อมสีขาวขนาดใหญ่มีรูปร่างเป็นก้อนแตกแขนงคล้ายกิ่งไม้ 1 คู่ทำหน้าที่สร้างของเหลวหล่อเลี้ยงสเปิร์ม5. ช่องสืบพันธุ์เพศผู้ (รูขุมขนชาย) มี 1 คู่อยู่ตรงด้านท้องปล้องที่ 186. ถุงเก็บสเปิร์ม (อสุจิ) มี 2 คู่เป็นถุงขนาดใหญ่อยู่ในปล้องที่ 11 และ 12 ทำหน้าที่เก็บและพัฒนาสเปิร์มที่สร้างจากอัณฑะ อวัยวะสืบพันธุ์เพศเมียประกอบด้วย1. รังไข่ (รังไข่) ทำหน้าที่สร้างไข่ 1 คู่ติดอยู่กับเยื่อกั้น (ตัว) ใน ของปล้องที่12/13 Pheretimaไข่จะเรียงตัวกันเป็นแถวอยู่ในพูรังไข่2. ปากกรวยรองรับไข่ (กรวยรังไข่) ทำหน้าที่รองรับไข่ที่เจริญเต็มที่แล้วจากถุงไข่3. ท่อนำไข่ (Oviducts) ท่อนำไข่เป็นท่อที่ต่อจากปากกรวยรองรับไข่ในปล้องที่ 13 เปิดออกไปยังรูตัวเมียตรงกึ่งกลางด้านท้องของปล้องที่ 144. สเปิร์มมาทีกา (ภาชนะที่น้ำอสุจิ Spermathecaหรือ) เป็นถุงเก็บสเปิร์มตัวอื่นที่ได้จากการจับคู่แลกเปลี่ยนเพื่อเก็บไว้ผสมกับไข่มีอยู่ 3 คู่ 1.3 ลักษณะภายนอกของไส้เดือนดินลักษณะภายนอกที่เด่นชัดของไส้เดือนดินคือการที่มีลำตัวเป็น ปล้องตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงส่วนท้าย มีรูปร่างเป็นรูปทรงกระบอก มีความยาว ในแต่ละชนิดไม่เท่ากัน เมื่อโตเต็มที่จะมีปล้องประมาณ 120 ปล้อง แต่ละปล้องจะมีเดือยเล็กๆ เรียงอยู่โดยรอบปล้อง ไม่มีส่วนหัวที่ชัดเจน ไม่มีตา มีไคลเทลลัม ซึ่งจะเห็นได้ชัด ในระยะสืบพันธุ์ และยังประกอบด้วยอวัยวะต่างๆที่สำคัญ (ดังภาพที่ 3)1.พรอสโตเมียม ( Prostomium) มีลักษณะเป็นพูเนื้อที่ยืดหดได้ติดอยู่กับผิวด้านบนของ ช่องปาก เป็นตำแหน่งหน้าสุดของไส้เดือนดิน ทำหน้าที่คล้ายริมฝีปาก ไม่ถือว่าเป็นปล้อง มีหน้าที่สำหรับกวาดอาหารเข้าปาก2.เพอริสโตเมียม ( Peristomium ) ส่วน นี้นับเป็นปล้องแรกของไส้เดือนดิน มีลักษณะเป็นเนื้อบางๆ อยู่รอบช่องปากและยืดหดได้3. ช่องปาก อยู่ในปล่องที่ 1-3 เป็นช่องทางเข้าออกของอาหารเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะมีต่อมน้ำลายอยู่ในเยื่อบุช่องปากด้วย 4.เดือนหรือขน ( Setae ) จะมีลักษณะ เป็นขนแข็งสั้น ซึ่งเป็นสารพวกไคติน ที่งอกออกมาบริเวณผนังชั้นนอก สามารถยืดหดหรือขยายได้ เดือนนี้มีหน้าที่ ในการช่วยเรื่องการยึดเกาะและเคลื่อนที่ของไส้เดือนดิน5.ช่องเปิดกลางหลัง ( Dorsal pore ) เป็นช่องเปิดขนาดเล็กตั้งอยู่ในร่อง ระหว่างปล้อง บริเวณแนวกลางหลังสามารถพบช่องเปิดชนิดนี้ได้ในไส้เดือนดินเกือบทุกชนิด ยกเว้นไส้เดือนจำพวกที่อาศัยอยู่ในน้ำหรือกึ่งน้ำ ในร่องระหว่างปล้องแรกๆ บริเวณส่วนหัวจะไม่ค่อยพบช่องเปิดด้านหลัง ช่องเปิดดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับช่องภายในลำตัวและของเหลวในช่องลำตัว มีหน้าที่ขับของเหลวหรือเมือกภายในลำตัวออกมาช่วยลำตัวภายนอกชุ่มชื่น ป้องกันการระคายเคือง ทำให้เคลื่อนไหวง่าย6.รูขับถ่ายของเสีย ( Nephridiopore ) เป็นรูที่มีขนาดเล็กมาก สังเกตเห็นได้ยาก เป็นรูสำหรับขับของเสียออกจากร่างกาย เป็นรูเปิดภายนอก ซึ่งมีอยู่เกือบทุกปล้อง ยกเว้น 3-4 ปล้องแรก7.ช่องสืบพันธุ์เพศผู้ ( Male pore ) เป็นช่องสำหรับปล่อยสเปิร์ม จะมีอยู่ 1 คู่ ตั้งอยู่บริเวณลำตัวด้านท้องหรือข้างท้อง ในแต่ละสายพันธุ์ช่องสืบพันธุ์อยู่ในปล้องที่ไม่เหมือนกัน มีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายหลอดเล็กยาวเข้าไปภายใน8.ช่องสืบพันธุ์เพศเมีย ( Female pore ) เป็นช่องสำหรับออกไข่ โดยทั่วไปมักตั้งอยู่ในปล้องถัดจากปล้องที่มีรังไข่ ( avary) มักจะพบเพียง 1 คู่ ตั้งอยู่ในร่องระหว่างปล้องหรือบนปล้อง ตำแหน่งที่ตั้งมักจะแตกต่างกันในไส้เดือนแต่ละพันธุ์9.ช่องเปิดสเปิร์มมาทีกา ( Spermathecalporse ) เป็นช่องรับสเปิร์มจากไส้เดือนดินคู่ผสมอีกตัวหนึ่งขณะ มีการผสมพันธุ์แลกเปลี่ยนสเปิร์มซึ่งกันและกัน เมื่อรับสเปิร์มแล้วจะนำไปเก็บไว้ในถุงเก็บสเปิร์ม ( Seminal receptacle )10.ปุ่มยึดสืบพันธุ์ ( Genital papilla ) เป็นอวัยวะที่ช่วยในการยึดเกาะขณะที่ไส้เดือนดิน จับคู่ผสมพันธุ์กัน11.ไคลเทลลัม ( Clitellum) เป็นอวัยวะที่ใช้ในการสร้างไข่ขาวหุ้มไข่ และสร้างเมือกโคคูน ไคลเทลลัมจะพบในไส้เดือนดินที่โตเต็มไวพร้อมที่ผสมพันธุ์แล้วเท่านั้น โดยจะตั้งอยู่บริเวณปล้องด้านหน้าใกล้กับส่วนหัว ครอบคลุมปล้องตั้งแต่ 2-5 ปล้อง12.ทวารหนัก ( Anus ) เป็นรูเปิดที่ค่อน ข้างแคบเปิดออกในปล้องสุดท้าย ซึ่งใช้สำหรับขับกากอาหารที่ผ่านการย่อยและดูดซึมแล้วออกนอกลำตัว
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

ประกอบสมองที่มีลักษณะเป็นสองพู ปมประสาทสมอง 1 คู่อยู่เหนือคอหอยปล้องที่ 3 เส้นประสาทรอบคอหอย 2 เส้นอ้อมรอบคอหอยข้างละเส้นเส้น ประสาทใหญ่ด้านท้องจะมีปมประสาทที่ปล้องประจำอยู่ทุกปล้องไส้เดือนดินยังไม่มีอวัยวะรับความรู้สึกใด ๆ มีเพียงเซลล์รับ ความรู้สึก (เซลล์ประสาท) ที่กระจายอยู่บริเวณผิวหนัง นอกจากเซลล์รับความรู้สึกแล้วยังมี เซลล์รับแสง (เซลล์รับแสง) ในชั้นของเอพิเดอร์ มิสโดยจะมีมากบริเวณริมฝีปากบนปล้องส่วนหัวและส่วนท้ายของลำตัว อยู่ในตัวเดียวกัน สัมพันธ์กัน ประกอบด้วย1 อัณฑะ (อัณฑะ) ปากกรวยรองรับสเปิร์ม (อสุจิช่องทาง) เป็นช่องรับสเปิร์มจาก อัณฑะ 3 ท่อนำสเปิร์ม (อสุจิ) เป็นท่อรับสเปิร์มจาก ปากกรวยไปยังช่องสืบพันธุ์เพศผู้ 4 ต่อมพรอสเตท (ต่อมลูกหมาก) เป็นต่อมสีขาวขนาดใหญ่มี รูปร่างเป็นก้อนแตกแขนงคล้ายกิ่งไม้ 1 คู่ ช่องสืบพันธุ์เพศผู้ (รูขุมขนชาย) มี 1 คู่อยู่ตรงด้านท้องปล้องที่ 18 6. ถุงเก็บสเปิร์ม (Seminal ถุง) มี 2 คู่เป็นถุงขนาดใหญ่อยู่ในปล้อง ที่ 11 และ 12 พันธุ์เพศเมียประกอบด้วย1 รังไข่ (รังไข่) ทำหน้าที่สร้างไข่ 1 คู่ติดอยู่กับเยื่อกั้น (กะบัง) ของปล้องที่ 12/13 ใน ปากกรวยรองรับไข่ (ช่องทางรังไข่) ทำหน้าที่รองรับไข่ที่เจริญเต็มที่แล้ว จากถุงไข่ 3 ท่อนำไข่ (ท่อนำไข่) 13 เปิดออกไปยังรูตัวเมียตรงกึ่งกลาง ด้านท้องของปล้องที่ 14 4. สเปิร์มมาทีกา (Spermatheca หรือภาชนะ Seminal) เพื่อเก็บไว้ผสมกับไข่มีอยู่ 3 คู่1.3 ปล้องตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงส่วนท้ายมี รูปร่างเป็นรูปทรงกระบอกมีความยาวในแต่ละชนิดไม่เท่ากันเมื่อโตเต็มที่จะมีปล้องประมาณ 120 ปล้องแต่ละปล้องจะมีเดือยเล็ก ๆ เรียงอยู่โดยรอบปล้องไม่มีส่วนหัวที่ชัดเจนไม่มีตา มีไคลเทลลัมซึ่งจะ เห็นได้ชัดในระยะสืบพันธุ์ (ดังภาพที่ 3) 1. พรอสโตเมียม (prostomium) ช่องปากเป็นตำแหน่งหน้าสุดของไส้เดือน ดินทำหน้าที่คล้ายริมฝีปากไม่ถือว่าเป็นปล้อง (Peristomium) ส่วนนี้นับเป็นปล้องแรกของไส้เดือน ดินมีลักษณะเป็นเนื้อบาง ๆ อยู่รอบช่องปากและยืดหดได้ 3 ช่องปากอยู่ในปล่องที่ 1-3 (setae) จะมีลักษณะเป็นขนแข็งสั้นซึ่ง เป็นสารพวกไคตินที่งอกออกมาบริเวณผนังชั้นนอกสามารถยืดหดหรือขยายได้เดือนนี้มีหน้าที่ (รูขุมขนที่หาง) ระหว่างปล้อง ในร่องระหว่างปล้องแรก ๆ ป้องกันการระคายเคือง (Nephridiopore) เป็นรูที่มีขนาดเล็กมากสังเกต เห็นได้ยาก เป็นรูเปิดภายนอกซึ่งมีอยู่เกือบ ทุกปล้องยกเว้น 3-4 ปล้องแรก7. ช่องสืบพันธุ์เพศผู้ (ชายรูขุมขน) เป็นช่องสำหรับปล่อยสเปิร์ม จะมีอยู่ 1 คู่ (รูขุมขนหญิง) เป็นช่องสำหรับออกไข่ (Avary) มักจะพบเพียง 1 คู่ (Spermathecalporse) (รองรับการสัมมนา) 10. ปุ่มยึดสืบพันธุ์ (อวัยวะเพศตุ่ม) จับคู่ผสมพันธุ์กัน11. ไคลเทลลัม (Clitellum) และสร้างเมือกโคคูน ครอบคลุมปล้องตั้งแต่ 2-5 ปล้อง12. ทวารหนัก (ทวารหนัก) เป็นรูเปิดที่ค่อนข้างแคบเปิด ออกในปล้องสุดท้าย






























การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: