The numbers above indicate that if

The numbers above indicate that if an individual invested in a portfolio composed of these 10 automotive companies selected from DJSI worldwide from 2009 to 2013, he would have a 35.5% annual return rate compare to 13.5% annual return rate of S&P500 and portfolio of five consumer goods companies listed in DJSI NA. If he only invested in Tesla from 2010 to 2013, he would at least gain 91.2% average annual return rate. To measure the efficiency of managing the investment of the company, ROE showed that consumer goods companies’ management outperformed the S&P500 and automakers. But the market seemed to focus more on the improvement of the management team of the companies. Investors are looking more for increase of management efficiency rather than a stable ROE. That explains why even when Tesla had negative ROE, it still beat consumer goods companies in stock return rate and also S&P500. A similar pattern was displayed by other selected automakers in DJSI worldwide. The market demonstrated confidence in these companies which improved their management efficiency

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หมายเลขข้างต้นแสดงว่า ถ้าบุคคลลงทุนในพอร์ตโฟลิโอประกอบด้วยบริษัทเหล่ายานยนต์ 10 เลือกจาก DJSI ทั่วโลกจากปี 2009 ถึง 2013 เขาจะมีเป็น 35.5% อัตรารายปีกลับด่า 13.5% การเปรียบเทียบราคาของ S & P500 และผลงานของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ห้าอยู่ใน DJSI เรี่ยม ถ้าเขาเพียงลงทุนในเทสลาจาก 2010 2013 เขาน้อยจะได้รับอัตรา 91.2% เฉลี่ยคืนประจำปี การวัดประสิทธิภาพของการจัดการการลงทุนของบริษัท ROE แสดงให้เห็นว่า การจัดการของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่กรรมการ S & P500 และเป้า แต่ดูเหมือนตลาดจะ ทุ่มเทให้กับการพัฒนาของทีมบริหารของบริษัท นักลงทุนกำลังเพิ่มเติมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า ROE มั่นคง ที่อธิบายทำไมแม้ว่าเทสลามี ROE ลบ มันยังคงชนะบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคในอัตราส่งคืนหุ้นยัง S & P500 รูปแบบคล้ายถูกแสดง โดยค่ายรถยนต์อื่น ๆ เลือกใน DJSI ทั่วโลก ตลาดแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบริษัทเหล่านี้ซึ่งปรับปรุงประสิทธิภาพของการจัดการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวเลขข้างต้นแสดงให้เห็นว่าถ้าบุคคลการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอที่ประกอบด้วยเหล่านี้ 10 บริษัท ยานยนต์ที่เลือกจาก DJSI ทั่วโลก 2009-2013 เขาจะมี 35.5% อัตราผลตอบแทนประจำปีเปรียบเทียบกับอัตรา 13.5% ต่อปีการกลับมาของ S & P500 และผลงานในห้าของผู้บริโภค บริษัท สินค้าอุปโภคระบุไว้ใน DJSI NA ถ้าเขาลงทุนเฉพาะใน Tesla 2010-2013 เขาอย่างน้อยจะได้รับเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนประจำปี 91.2% ในการวัดประสิทธิภาพของการบริหารเงินลงทุนของ บริษัท ที่ ROE แสดงให้เห็นว่าการจัดการสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท เฮง S & P500 และรถยนต์ แต่ตลาดดูเหมือนจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาของทีมผู้บริหารของ บริษัท ฯ นักลงทุนกำลังมองมากขึ้นสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมากกว่าเสถียรภาพ ROE ที่อธิบายว่าทำไมแม้ในขณะที่เทสลามี ROE เชิงลบก็ยังคงเอาชนะ บริษัท สินค้าอุปโภคบริโภคในอัตราผลตอบแทนจากหุ้นและดัชนี S & P500 รูปแบบคล้ายถูกแสดงโดยรถยนต์ที่เลือกอื่น ๆ ใน DJSI ทั่วโลก ตลาดแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นใน บริษัท เหล่านี้ซึ่งการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า หากบุคคลลงทุนในผลงานของทั้ง 10 บริษัท ประกอบด้วย จำนวนวิสาหกิจทั่วโลกจากปี 2013 เขาจะมี 35.5 % ต่อปีอัตราผลตอบแทนเทียบกับ 13.5% ต่อปีอัตราผลตอบแทนของ S & P500 และผลงาน 5 สินค้าที่ผู้บริโภค บริษัทจดทะเบียนในวิสาหกิจ นา ถ้าเพียงแต่เขาลงทุนใน Tesla จาก 2010 ถึง 2013 เขาอย่างน้อยจะได้รับ 91.2 % เฉลี่ยอัตราผลตอบแทน การวัดประสิทธิภาพในการจัดการการลงทุนของบริษัท พบว่า การจัดการของ บริษัท หรือสินค้าอุปโภคบริโภคใน S & P500 และ automakers . แต่ตลาดดูเหมือนจะมุ่งเน้นที่การปรับปรุงของทีมบริหารของบริษัท นักลงทุนกำลังมองหาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการมากกว่ามั่นคงละมั่ง นั่นอธิบายได้ว่าทำไมตอนเทสมีไข่ปลาลบก็ยังชนะ บริษัท สินค้าอุปโภคบริโภคในอัตราผลตอบแทนหุ้นและ S & P500 . ลักษณะอื่น ๆที่ถูกแสดงผลโดย automakers ในวิสาหกิจทั่วโลก ตลาดแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นใน บริษัท เหล่านี้ ซึ่งการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการของพวกเขา