เรื่องเริ่มจาก ตอนม.2เราย้ายโรงเรียนไปอีกที่นึงเพราะเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนประจำไม่ได้
ที่โรงเรียนใหม่เขาจัดให้อยู่ห้องค่อนข้างบ๊วย(ไม่ใช่ห้องบ๊วยแต่ก็เกือบ)ไปก่อน
ที่ห้องนั้นเพื่อนถึงจะเป็นเด็กเก(เอาระเบิดกระเทียมปาใส่กรรมกรข้างโรงเรียนทุกอาทิตย์)เกือบ3/4ของทั้งห้อง แต่ก็นิสัยดีมาก เขากันได้ดีทีเดียว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นคือเราสอบได้ที่1ของห้อง(อย่าลืมนะว่าเป็นห้องเกือบบ๊วย) แล้วก็สอบได้อันดับต้นๆของห้องมาตลอด
แม่เราก็ดูภูมิใจในผลสอบของเรามาก มันเป็นเหมือนฝันตอนเรียนอยู่ที่นั่น อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปจนเรียนจบ
จนกระทั่งม.4 เราสอบเข้าโรงเรียนดังแห่งนึงได้ สอบเข้าห้องพิเศษได้(ห้องของคนที่เก่งวิทย์สุดๆ40คนในโรงเรียน) แต่พอเรียนไป ไม่ว่าจะทำยังไง ผลสอบก็ไม่น่าพอใจเอาซะเลย(แค่พอผ่าน) แถมตกเคมีอีก(โรงเรียนนี้ขึ้นชื่อเรื่องข้อสอบเคมียากนรกปริ) คะแนนเราอยู่ที่อันดับท้ายๆของห้องตลอด เมื่อแม่รู้ผลสอบครั้งนี้(และเกือบทุกครั้ง) แม่คิดว่าเราไม่พยายามเลยทั้งทีเราทำเต็มที่แล้ว แม่เราจะโมโหมากและเป็นอย่างนั้นไปอย่างน้อย3-5วัน และมันเป็นแบบนี้มาแทบทุกครั้งตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ ตอนนี้เรารู้สึกเสียใจและท้อมากที่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนมันก็แทบไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
ที่เราคิดแล้วรู้สึกเสียใจที่สุดคือตอนม.2เราไม่น่าสอบได้ที่1ของห้องเลย เพราะนั่นทำให้เราคิดไปเองว่าเราค่อนข้างหัวดี และทำให้แม่คิดว่าเราเก่ง และตั้งความหวังกับเราไว้สูงมาก จนมันสูงเกินไป เมื่อขึ้นม.ปลายแล้วเกรดไม่ดีแม่ก็โมโหมาก
เราเสียใจที่ทำให้แม่ตั้งความหวังไว้สูง และกลับมาทำลายมันทีหลังอย่างไม่ตั้งใจ
ถ้าเลือกได้ เราขอทิ้งความเป็นที่1ของม.ต้นไปซะ แล้วมาได้คะแนนระดับค่อนข้างดีของห้องในที่นี่ยังดีซะกว่า