most scholars agree that women in a

most scholars agree that women in ancient India held a most elevated position. They had similar education as men and participated with men in philosophical debates. During Vedic times, women so inclined wore the sacred thread and were taught the holy mantras of the Vedas. Some were brahmavadinis, women who devoted their lives to scriptural study, expounded the Vedas and wrote some of the Vedic hymns. Women of the kshatriya (warrior) caste received martial arts coaching and arms training. The Vedas, Upanishads and other scriptures give numerous examples of women philosophers, politicians, teachers, administrators and saints. The Rig Veda says, “The wife and husband, being the equal halves of one substance, are equal in every respect; therefore, both should join and take equal parts in all works, religious and secular.” The Upanishads clearly declare that we individual souls are neither male nor female. Hinduism teaches that each of us passes through many lives, both male and female. It further teaches the law of karma, which informs us that what we do to others will in turn be done to us—and that ahimsa, non-hurtfulness, must be the guiding precept of our lives. Thus, Hinduism gives no justification for the mistreatment of others, whether on the basis of gender or for any other reason. (In the actual lives of adherents, of course—as in any religion—“results may vary.”)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิชาการส่วนมากยอมรับว่า ผู้หญิงในอินเดียโบราณจัดขึ้นตำแหน่งสูงสุด พวกเขามีการศึกษาที่คล้ายผู้ชาย และเข้าร่วมกับผู้ชายในปรัชญา ในช่วงเวลาที่พระเวท ดังนั้น แนวโน้มผู้หญิงสวมด้ายมงคล และได้รับการสอนสวดมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระเวท Brahmavadinis ผู้หญิงที่อุทิศชีวิตให้ศึกษาพระคัมภีร์ expounded พระเวท และได้เขียนบทสวดมนตร์เวท ที่ได้ ผู้หญิงในวรรณะ kshatriya (นักรบ) ได้รับการฝึกศิลปะป้องกันตัวและแขนการฝึกอบรม พระเวท Upanishads คัมภีร์อื่น ๆ อีกหลายตัวอย่างของนักปรัชญาสตรี นักการเมือง ครู ผู้ดูแล และนักบุญ กล่าวว่า Rig เวทการ "ภรรยาและสามี เป็นครึ่งเท่าของสารหนึ่ง จะเท่ากันทุกประการ ดังนั้น ทั้งสองควรเข้าร่วม และใช้ส่วนเท่า ๆ กันในการทำงานทั้งหมด ศาสนา และทางโลก" Upanishads ประกาศอย่างชัดเจนว่า เราวิญญาณแต่ละไม่ใช่ชาย หรือหญิง ศาสนาฮินดูสอนว่า เราแต่ละคนผ่านหลายชีวิต ทั้งชาย และหญิง การสอนเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งจะแจ้งให้เราทราบว่า เราทำอะไรเพื่อคนอื่นจะกลับทำให้เรา — และที่อาฮิมซา -hurtfulness ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์แนวทางชีวิตของเรา ดังนั้น ศาสนาฮินดูให้เหตุผลสำหรับจอของผู้อื่น ไม่ว่าพื้นฐาน ของเพศ หรือเหตุผลอื่น ๆ (ในชีวิตจริงของคน หลักสูตร — ในศาสนาใด ๆ — "ผลลัพธ์อาจแตกต่างกัน")

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นว่าผู้หญิงในอินเดียโบราณที่จัดขึ้นตำแหน่งสูงที่สุด พวกเขามีการศึกษาที่คล้ายกันเป็นผู้ชายและมีส่วนร่วมกับคนในการอภิปรายปรัชญา ในช่วงเวลาที่เวทผู้หญิงเพื่อความโน้มเอียงที่สวมด้ายศักดิ์สิทธิ์และได้รับการสอนสวดมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเวท บางคน brahmavadinis ผู้หญิงที่อุทิศชีวิตของพวกเขาจากการศึกษาคัมภีร์พระเวทภายในบ้านและเขียนบางส่วนของบทสวดเวท ผู้หญิงของกษัตริย์ (นักรบ) วรรณะได้รับการฝึกศิลปะการต่อสู้และแขนฝึกอบรม พระเวทอุปนิษัทและคัมภีร์อื่น ๆ ยกตัวอย่างมากมายของผู้หญิงนักปรัชญานักการเมืองครูผู้บริหารและนักบุญ แท่นขุดเจาะน้ำมันพระเวทกล่าวว่า "สามีและภรรยาเป็นครึ่งเท่ากันของสารหนึ่งมีค่าเท่ากันทุกประการ; ดังนั้นทั้งสองควรจะเข้าร่วมและใช้เวลาส่วนเท่า ๆ กันในงานทุกศาสนาและฆราวาส. "การ Upanishads อย่างชัดเจนประกาศว่าเราจิตวิญญาณของแต่ละบุคคลจะไม่ชายหรือเพศหญิง ศาสนาฮินดูสอนว่าเราแต่ละคนผ่านชีวิตจำนวนมากทั้งชายและหญิง มันยังสอนกฎหมายของกรรมซึ่งบอกเราว่าสิ่งที่เราทำกับคนอื่น ๆ จะเปิดจะทำเพื่อเราและว่าอหิงสาไม่ใช่ hurtfulness ต้องเป็นคนยึดมั่นในคติของชีวิตของเรา ดังนั้นศาสนาฮินดูให้เหตุผลสำหรับการกระทำผิดของคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นฐานของเพศหรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ (ในชีวิตจริงของสมัครพรรคพวกของหลักสูตร-AS ใน religion- ใด ๆ "ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป.")

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิชาการส่วนใหญ่ยอมรับว่า ผู้หญิงในอินเดียสมัยโบราณจัดตำแหน่งสูงที่สุด พวกเขาที่คล้ายกันการศึกษาชายและมีส่วนร่วมกับผู้ชายในข้อโต้แย้งทางปรัชญา ระหว่างเวทครั้ง ผู้หญิงเอียงสวมด้ายมงคลและสอนมนตราศักดิ์สิทธิ์ของคัมภีร์พระเวท . บางคน brahmavadinis ผู้หญิงที่อุทิศตนให้กับการศึกษาพระคัมภีร์ อธิบายคัมภีร์พระเวทและเขียนบางส่วนของเพลงสวดเวท . หญิงของกษัตริย์ ( นักรบ ) วรรณะได้รับการฝึกศิลปะการต่อสู้อาวุธและการฝึกอบรม คัมภีร์พระเวทและคัมภีร์อุปนิษัทอื่นให้ตัวอย่างมากมายของนักปรัชญาผู้หญิง นักการเมือง ครู ผู้บริหาร และนักบุญ การ Rig Veda กล่าวว่า " สามีและภรรยาเป็นครึ่งเท่าของหนึ่งสารจะเท่ากันทุกประการ ดังนั้น ทั้งสองจะเข้าร่วม และเอาส่วนเท่ากันในงานทั้งหมด ศาสนาและทางโลก " อุปนิษัทอย่างชัดเจนประกาศว่า เราเป็นวิญญาณบุคคลทั้งชายและหญิง . ศาสนาฮินดูสอนว่าเราแต่ละคนผ่านชีวิตมากมาย ทั้งชายและหญิง มันยังสอนกฎแห่งกรรม ซึ่งแจ้งเราว่า อะไรที่เราทำเพื่อคนอื่นจะทำเพื่อเรา และอหิงสา ไม่ hurtfulness ต้องผิดศีลข้อชี้แนะของชีวิตของเรา ดังนั้นศาสนาฮินดูให้เหตุผลที่ไม่มีการต่อผู้อื่น ไม่ว่าบนพื้นฐานของเพศ หรือเหตุผลอื่นๆ ( ในชีวิตจริงของสมัครพรรคพวกของหลักสูตรในศาสนา - " ผลลัพธ์ อาจแตกต่างกัน . " )