In retail stores, we often see that

In retail stores, we often see that products are placed on sales promotion programs in a cyclical manner. Demand for the product increases during promotional period and returns to the regular level at the end of promotion. This cycle is then repeated with almost regular frequency. We refer to this demand pattern as bi-level demand and the supply chains operating in such environments are the main focus of this study. We study the problem of formulating an inventory policy in such supply chain. Because of the periodic steps in the demand function and the uncertainly of the demand, the problem is very challenging and the optimal solution is hard to obtain. First we consider only the retailer, and narrow down focus to the development of the inventory policy for such retailer operating in bi-level deterministic demand environment. We define bi-level demand problem (BDP) as finding the order quantity (how much) and ordering time (when) given the holding and ordering costs. We develop three heuristics for the BDP and a procedure for finding an optimal solution for a subset of BDP. We generated a large set of test problems using appropriate experimental design based on problem parameters and compare the performance of heuristics against lower bounds or optimal solution as the case may be. The heuristics are found to be efficient and provide close to optimal results in most cases. Next, we model a generic version of supply chain consisting of three members—the retailer, distributor and manufacturer—and focus on the problem of formulation of inventory policy for members of such supply chain operating in stochastic (uncertain) bi-level demand environment. Considering the tradeoff between ordering/setup cost, holding cost, and shortage cost, we develop three ordering policies—Moving Average Policy (simple policy), Target Inventory Level Policy (sophisticated policy), and Complete Cooperation Policy (CCP). First two policies assume supply chain members do not share any information and order independently to minimize their costs, while in the last policy members cooperate to minimize total supply chain costs. We evaluate the performance of these policies by testing them on large set of problems using simulation. Results reinforce that cooperation results in lower supply chain costs. We also found that the major cost savings can be achieved by using more sophisticated policies than simple policies like moving average even if cooperation may not be possible. In addition to the problem of formulating inventory policies, we also develop a game called ‘Cola-Game’ which instantiates the supply chain discussed above. The game involves simulating a supply chain and could be played in either independence or cooperation modes. This game has been field tested in engineering and business classes at the University of Toledo. We found that players developed an appreciation for fluctuating demand and its impact on the costs and performance of a supply chain. They also learned the benefits and a monetary evaluation approach for cooperation. Our statistical analysis revealed that as the game progressed, the performance of the teams improved. Thus this game can be used as a tool to educate students and managers on the various issues in supply chain inventory management

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในร้านค้าปลีก เรามักจะเห็นว่า ผลิตภัณฑ์อยู่ในโปรแกรมส่งเสริมการขายในรูปแบบ ความต้องการสินค้าเพิ่มช่วงโปรโมชั่น และกลับสู่ระดับปกติเมื่อสิ้นสุดโปรโมชั่น วงจรนี้จะถูกทำซ้ำกับความถี่เกือบปกติแล้ว เราหมายถึงรูปแบบความต้องการนี้เป็นความต้องการ bi-level และห่วงโซ่อุปทานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมดังกล่าวเป็นโฟกัสหลักของการศึกษานี้ เราศึกษาปัญหา formulating เป็นนโยบายสินค้าคงคลังในซัพพลายเชนดังกล่าว เนื่องจากขั้นตอนเป็นครั้งคราวในฟังก์ชันอุปสงค์และ uncertainly ของความต้องการ ปัญหาท้าทายมาก และโซลูชั่นดีที่สุดยากที่จะได้รับการ ก่อนเราพิจารณาเฉพาะร้านค้าปลีก และแคบลงมาพัฒนานโยบายสินค้าคงคลังสำหรับร้านค้าปลีกดังกล่าวทำงานในสภาพแวดล้อมความ deterministic bi-level เรากำหนดปัญหาความต้องการ bi-level (BDP) เป็นการหาปริมาณการสั่งซื้อ (ปริมาณ) และการจัดลำดับเวลา (เมื่อ) เก็บรักษาและต้นทุนการสั่งซื้อ เราพัฒนารุกสาม BDP และขั้นตอนในการหาโซลูชันดีที่สุดสำหรับชุดย่อยของ BDP เราสร้างชุดใหญ่ใช้ออกแบบการทดลองที่เหมาะสมตามพารามิเตอร์ปัญหาปัญหาทดสอบ และเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการลองผิดลองถูกกับขอบเขตล่างหรือแก้ปัญหาที่ดีที่สุดได้มีมติ พบรุกมีประสิทธิภาพ และให้ใกล้กับผลใหญ่ ถัดไป เรารุ่นรุ่นทั่วไปของห่วงโซ่อุปทานประกอบด้วยสมาชิกสาม — ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนจำหน่าย และผู้ผลิต – เน้นปัญหาของการกำหนดนโยบายสินค้าคงคลังสำหรับสมาชิกของห่วงโซ่อุปทานดังกล่าวทำงานในสภาพแวดล้อมแบบเฟ้นสุ่มความต้อง bi-level (ไม่แน่นอน) พิจารณาข้อดีข้อเสีย ระหว่างต้นทุนการสั่งซื้อ/ติดตั้ง ถือต้นทุน ต้นทุนขาดแคลน เราพัฒนานโยบายสั่งสาม — ย้ายเฉลี่ยนโยบาย (นโยบายง่าย ๆ), นโยบายระดับสินค้าคงคลังเป้าหมาย (ซับซ้อนนโยบาย), และนโยบายความร่วมมือสมบูรณ์ (CCP) ก่อน นโยบายสองสมมติว่า สมาชิกในโซ่อุปทานไม่แบ่งปันข้อมูลใด ๆ และสั่งอย่างอิสระเพื่อลดต้นทุนของพวกเขา ในขณะที่นโยบายล่าสุด สมาชิกร่วมมือกันเพื่อลดต้นทุนโซ่อุปทานรวม เราประเมินประสิทธิภาพของนโยบายเหล่านี้ โดยทดสอบได้โดยใช้การจำลองชุดใหญ่ ผลการเสริมสร้างผลความร่วมมือที่ต้นทุนโซ่อุปทานต่ำ เรายังพบว่า ประหยัดต้นทุนที่สำคัญสามารถทำได้ โดยใช้นโยบายความซับซ้อนมากขึ้นกว่านโยบายอย่างเช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แม้ว่าความร่วมมืออาจไม่สามารถทำ นอกจากปัญหาของ formulating นโยบายสินค้าคงคลัง เรายังพัฒนาเป็นเกมที่เรียกว่า 'โคล่าเกม' ที่ instantiates โซ่ที่กล่าวถึงข้างต้น เกมเกี่ยวข้องกับการจำลองห่วงโซ่อุปทาน และสามารถเล่นในโหมดที่เป็นอิสระหรือความร่วมมือ เกมนี้ได้รับการทดสอบในชั้นธุรกิจ และวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโทเลโดฟิลด์ เราพบว่า ผู้เล่นพัฒนาความซาบซึ้งในความต้องการความและผลกระทบกับต้นทุนและประสิทธิภาพของโซ่อุปทาน พวกเขายังเรียนรู้ประโยชน์และวิธีการประเมินทางการเงินสำหรับความร่วมมือ วิเคราะห์ทางสถิติของเราเปิดเผยว่า เป็นเกมหน้าไปเพียงใด ประสิทธิภาพการทำงานของทีมดีขึ้น ดังนั้น เกมนี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือเรียนรู้ และการบริหารสินค้าคงคลังห่วงโซ่อุปทานของผู้จัดการในประเด็นต่าง ๆ ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในร้านค้าปลีกที่เรามักจะเห็นว่ามีการวางสินค้าในรายการส่งเสริมการขายในลักษณะเป็นวงกลม ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ในช่วงระยะเวลาโปรโมชั่นและผลตอบแทนให้อยู่ในระดับปกติในตอนท้ายของการส่งเสริมการขาย รอบนี้ซ้ำแล้วมีความถี่ปกติเกือบ เราหมายถึงรูปแบบความต้องการนี​​้เป็นความต้องการสองระดับและห่วงโซ่อุปทานในการดำเนินงานในสภาพแวดล้อมดังกล่าวเป็นจุดสนใจหลักของการศึกษาครั้งนี้ เราศึกษาปัญหาของการกำหนดนโยบายสินค้าคงคลังในห่วงโซ่อุปทานเช่น เพราะขั้นตอนระยะในการทำงานความต้องการและความไม่แน่นอนของความต้องการปัญหาเป็นสิ่งที่ท้าทายมากและโซลูชั่นที่ดีที่สุดเป็นเรื่องยากที่จะได้รับ ครั้งแรกที่เราพิจารณาเฉพาะร้านค้าปลีกและแคบลงโฟกัสไปยังการพัฒนานโยบายสินค้าคงคลังสำหรับร้านค้าปลีกเช่นการดำเนินงานในสองระดับความต้องการสภาพแวดล้อมที่กำหนด เรากำหนดปัญหาความต้องการสองระดับ (BDP) การหาปริมาณการสั่งซื้อ (เท่าไหร่) และการสั่งซื้อครั้ง (เมื่อ) รับที่ถือค​​รองและการสั่งซื้อค่าใช้จ่าย เราพัฒนาสาม heuristics สำหรับ BDP และขั้นตอนในการหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการย่อยของ BDP เราสร้างชุดใหญ่ของปัญหาการทดสอบโดยใช้การออกแบบการทดลองที่เหมาะสมตามพารามิเตอร์ปัญหาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการวิเคราะห์พฤติกรรมกับขอบเขตที่ต่ำกว่าหรือโซลูชั่นที่ดีที่สุดเป็นกรณีที่อาจจะ วิเคราะห์พฤติกรรมจะพบว่ามีประสิทธิภาพและให้ใกล้เคียงกับผลที่ดีที่สุดในกรณีส่วนใหญ่ ต่อไปเราจะจำลองรุ่นทั่วไปของห่วงโซ่อุปทานประกอบด้วยสามสมาชิกร้านค้าปลีก, ผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตและมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของการกำหนดนโยบายสินค้าคงคลังสำหรับสมาชิกของห่วงโซ่อุปทานเช่นการดำเนินงานในการสุ่ม (ไม่แน่นอน) สภาพแวดล้อมความต้องการสองระดับ พิจารณาข้อดีข้อเสียระหว่างการสั่งซื้อ / ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งถือค่าใช้จ่ายและค่าใช้จ่ายการขาดแคลนเราพัฒนาสามการสั่งซื้อ Moving-นโยบายนโยบายเฉลี่ย (นโยบายง่าย) นโยบายระดับสินค้าคงคลังเป้าหมาย (นโยบายที่ซับซ้อน) และสมบูรณ์นโยบายความร่วมมือ (CCP) ครั้งแรกที่สองนโยบายถือว่าสมาชิกห่วงโซ่อุปทานจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ และเพื่ออิสระเพื่อลดค่าใช้จ่ายของพวกเขาในขณะที่สมาชิกในนโยบายที่ผ่านความร่วมมือในการลดค่าใช้จ่ายในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด เราจะประเมินประสิทธิภาพของนโยบายเหล่านี้โดยการทดสอบพวกเขาในชุดใหญ่ของปัญหาในการใช้การจำลอง ผลการเสริมสร้างความร่วมมือที่ผลค่าใช้จ่ายในห่วงโซ่อุปทานที่ลดลง นอกจากนี้เรายังพบว่าประหยัดค่าใช้จ่ายที่สำคัญสามารถทำได้โดยการใช้นโยบายที่มีความซับซ้อนมากกว่านโยบายง่ายๆเช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แม้ว่าความร่วมมืออาจจะไม่ได้ นอกจากนี้ปัญหาของการกำหนดนโยบายสินค้าคงคลังที่เรายังพัฒนาเกมที่เรียกว่า 'โคล่าเกม' ซึ่ง instantiates ห่วงโซ่อุปทานที่กล่าวข้างต้น เกมที่เกี่ยวข้องกับการจำลองห่วงโซ่อุปทานและสามารถเล่นในโหมดความเป็นอิสระหรือความร่วมมืออย่างใดอย่างหนึ่ง เกมนี้ได้รับการทดสอบภาคสนามในชั้นเรียนวิศวกรรมและธุรกิจที่มหาวิทยาลัยโทเลโด เราพบว่าผู้เล่นที่พัฒนาขึ้นขอบคุณสำหรับความต้องการที่มีความผันผวนและผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายและประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน พวกเขายังได้เรียนรู้ถึงประโยชน์และวิธีการประเมินผลทางการเงินที่ให้ความร่วมมือ การวิเคราะห์ทางสถิติของเราแสดงให้เห็นว่าเป็นเกมที่ก้าวหน้าผลการดำเนินงานของทีมดีขึ้น ดังนั้นเกมนี้สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการให้ความรู้แก่นักเรียนและผู้บริหารในประเด็นต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทานการจัดการสินค้าคงคลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในร้านค้าปลีก เรามักจะพบว่าผลิตภัณฑ์จะอยู่ในโปรแกรมการส่งเสริมการขายในลักษณะเป็นวงกลม ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาโปรโมชั่น และกลับสู่ระดับปกติที่ส่วนท้ายของโปรโมชั่น รอบนี้เป็นเกือบปกติแล้วซ้ำกับความถี่เราอ้างถึงนี้ความต้องการรูปแบบตามความต้องการระดับบีและห่วงโซ่อุปทานการดำเนินงานในสภาพแวดล้อมเช่นเป็นโฟกัสหลักของการศึกษานี้ เราจะศึกษาปัญหาของการกำหนดนโยบายสินค้าคงคลังในโซ่อุปทาน เช่น เพราะระยะเวลาในขั้นตอนการทำงานความต้องการและความไม่แน่นอนของความต้องการ , ปัญหาที่ท้าทายมากและโซลูชั่นที่เหมาะสมยากที่จะได้รับ . First we consider only the retailer, and narrow down focus to the development of the inventory policy for such retailer operating in bi-level deterministic demand environment. We define bi-level demand problem (BDP) as finding the order quantity (how much) and ordering time (when) given the holding and ordering costs.เราพัฒนาสามฮิวริสติกสำหรับ bdp และขั้นตอนสำหรับการค้นหาโซลูชั่นที่เหมาะสมสำหรับชุดย่อยของ bdp . เราสร้างขึ้นชุดใหญ่ของการทดสอบการใช้ที่เหมาะสมทดลองตามพารามิเตอร์ปัญหาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการวิเคราะห์พฤติกรรมต่อต้านลดขอบเขตหรือโซลูชั่นที่เหมาะสมเป็นกรณีๆ ไปตัวเลขที่พบจะมีประสิทธิภาพ และให้ใกล้เคียงกับผลที่ดีที่สุดในกรณีส่วนใหญ่ หน้าเราแบบเป็นรุ่นทั่วไปของห่วงโซ่อุปทานประกอบด้วยสามสมาชิกผู้ค้าปลีก จำหน่าย ผลิต และมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของการกำหนดนโยบายสินค้าคงคลังสำหรับสมาชิกของห่วงโซ่อุปทานในการดำเนินงาน เช่น สุ่ม ( ไม่แน่ใจ ) บีระดับสภาพแวดล้อมความต้องการพิจารณาข้อเสียระหว่างการสั่งซื้อ / การตั้งค่าค่าใช้จ่ายถือค่าใช้จ่ายและต้นทุนการขาดแคลนเราพัฒนาสามสั่งนโยบายนโยบาย มีนโยบายย้ายง่าย ) นโยบายระดับสินค้าคงคลังเป้าหมายนโยบายที่ซับซ้อน ) และนโยบายความร่วมมือที่สมบูรณ์ ( CCP ) นโยบายแรกสองถือว่าสมาชิกห่วงโซ่อุปทานไม่แบ่งปันข้อมูลใด ๆและเพื่ออิสระในการลดต้นทุนของพวกเขาในขณะที่สมาชิกนโยบายล่าสุดร่วมมือเพื่อลดต้นทุนโซ่อุปทานทั้งหมด เราประเมินประสิทธิภาพของนโยบายเหล่านี้ โดยการทดสอบพวกเขาในชุดใหญ่ของปัญหาการใช้ระบบ การเสริมสร้างความร่วมมือในการลดต้นทุนของโซ่อุปทานนอกจากนี้เรายังพบว่าประหยัดค่าใช้จ่ายหลักสามารถทำได้โดยการใช้นโยบายที่ซับซ้อนมากขึ้นกว่านโยบายง่าย ๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แม้ว่าความร่วมมือไม่อาจเป็นไปได้ นอกจากปัญหาของการกำหนดนโยบายสินค้าคงคลัง นอกจากนี้เรายังพัฒนาเกมชื่อ " โคล่าเกม ' ซึ่ง instantiates ห่วงโซ่อุปทานที่กล่าวถึงข้างต้นเกมที่เกี่ยวข้องกับจำลองโซ่อุปทานและสามารถเล่นได้ทั้งในโหมดอิสระหรือความร่วมมือ . เกมนี้ได้ถูกทดสอบภาคสนามในวิศวกรรมและวิชาธุรกิจที่มหาวิทยาลัยโทเลโด เราพบว่าผู้เล่นพัฒนาความชื่นชมสำหรับความผันผวนของอุปสงค์และผลกระทบต่อต้นทุนและประสิทธิภาพของโซ่อุปทานพวกเขายังได้เรียนรู้ประโยชน์และแนวทางการประเมินผลทางการเงินสำหรับความร่วมมือ การวิเคราะห์ทางสถิติของเราพบว่าเป็นเกมขึ้น ผลงานของทีมดีขึ้น ดังนั้นเกมนี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้การศึกษาแก่นักเรียน และผู้บริหารในประเด็นต่าง ๆ ในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน