the major problem in randomized stu

the major problem in randomized studies comparing the efficacy and safety
of catheter ablation and antiarrhythmic medication has been high
frequency of crossover to radiofrequency ablation by medical-therapy patients. For example, in the MANTRA-PAF and the RAAFT-2 trial 36% and
47% of the patients initially assigned to AAD therapy eventually
underwent RFA, respectively[9,12]. Therefore, on-treatment (per protocol) analysis is likely to reveal subtle differences between the RFA and
AAD groups better than the ITT analysis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาสำคัญใน randomized ศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล ยา antiarrhythmic และจี้ได้สูงความถี่ของการไขว้การจี้ radiofrequency โดยแพทย์รักษาผู้ป่วย ตัวอย่าง ในตรา-PAF และ RAAFT-2 ทดลอง 36% และ47% ของผู้ป่วยที่เริ่มต้นกับ AAD บำบัดในที่สุดประกอบไปด้วย RFA ตามลำดับ [9,12] ดังนั้น วิเคราะห์บนรักษา (สำหรับแต่ละโพรโทคอล) เป็นแนวโน้มที่จะเปิดเผยรายละเอียดความแตกต่างระหว่างการ RFA และดีกว่าการวิเคราะห์มิกลุ่ม AAD

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญหาหลักในการศึกษาแบบสุ่มเปรียบเทียบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ยาแอนติอะริทึมมิกและได้รับสูงความถี่ของครอสโอเวอร์เพื่อรักษาผู้ป่วย การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ โดยแพทย์ ตัวอย่างเช่น ใน mantra-paf และ raaft-2 ทดลอง 36 ล้านบาท47 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดย aad ในที่สุดได้รับ RFA ตามลำดับ [ 9 12 ] ดังนั้นในการรักษา ( ต่อพิธีสาร ) การวิเคราะห์มีแนวโน้มที่จะเปิดเผยความแตกต่างของสีสันระหว่าง RFA และแอทกลุ่มได้ดีกว่าการวิเคราะห์ ITT .