Previous experiments indicated comp

Previous experiments indicated compatible mixtures of plant-growth promoting rhizobacteria(PGPR) strains protected plants against multiple diseases during both the rainy and winter seasons. Those results lead tothe aims of this research study as following: 1) to conduct on farm investigations the consistency of PGPR-mediated protection against indigenous tropical diseases., 2) to study grower's knowledge and awarness for using PGPR as an integrated disease management, and 3) to investigate early plant defense mechanisms involved with disease resistance. Two consecutive years were studied in grower's fields. Inthe first study year, experiments were conducted in two locations in Bungphra District, Muang, Phitsanulok.The specific hosts tested were cucumber, pepper, and tomato. In the second year, experiments were performed in one location in Tapho District and two locations in Watprig District, Muang, Phitsanulok. Only two specific hosts, pepper and cucumber, were tested. The results from both locations in the first year study indicated that most cucumber and tomato treated with PGPR mixtures (Bacillus amyloliquefaciens strain IN937a + B.pumilis strain IN937b) showed significant reductions(P?0.05) of mosaic disease and yellow leaf curl disease compared to nonbacterized control. Additionally, PGPR mixutures also showed significant suppression against pepper mosaic disease in both locations at least one season. In the second year study, PGPR mixtures significantly suppressed downy mildew disease in cucumber at least two locations and most other indigenous (mosaic, bacterial wilt,and southern blight) on long cayenne pepper in all locations throughout the seasons compared to those in nonbacterized control. Yield enhancement by PGPR mixtures was also observed. For the second objective, a one-day lecture/discussion and a PGPR fild demonstration was conducted at Naresuan University for growers who were interested in disease management and biological control measures. Farmer's knowledge and awareness were examined immediately before and after lecture/discussion and were follow-uped with the same group until 6 months after lecture/discussion. The results indicated that the intervention significantly affected farmers' knowledge. most knowledge persisted to six months. However, the intervention could not create a significant difference on farmers' awareness, except a monor improvement in the awareness of pesticide harm. For early defense mechanism involved with disease resistance, it was found that total peroxidase activity and total superoxide dismutase in plants from all 4 pathosystems; including pepper/Sclerotium roifsii, tomato/S. roifsii, tomato/Ralstonia solanacearum, and pepper/Colletotrichum gloeosporioides, rapidly increased and had significantly greater activity than plants in non-bacterized challenge control following pathogen infection. In conclusion, compatible PGPR mixtures (IN937a+IN937b) provided broad disease suppression against several indigenous tropical diseases at different locations. Additionally, plants induced by PGPR mixtures (IN937a+b) of all 4 pathosystems at least increased similar early plant defense mechanisms which are peroxidase and superoxide dismutase Moreover, a one-day lecture/discussion and a PGPR field demonstration could increase knowledge of growers, but the intervention should be practiced several times to improve grower's awareness of using PGPR as an integrated method for vegetable disease management.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การทดลองก่อนหน้านี้ระบุส่วนผสมที่เข้ากันได้ของสายพันธุ์ rhizobacteria(PGPR) ส่งเสริมพืชเจริญเติบโตป้องกันพืชโรคหลายช่วงทั้งในฤดูฝน และฤดูหนาว ผลนำไปสู่จุดมุ่งหมายของการศึกษาวิจัยนี้ดังต่อไปนี้: 1) การดำเนินการบนฟาร์มตรวจสอบความสอดคล้องของสื่อ PGPR ป้องกันพื้นเมืองเขตร้อนโรคนี้ 2) เพื่อศึกษาความรู้ของผู้ปลูกและ awarness สำหรับใช้ PGPR เป็นการจัดการแบบบูรณาการโรค และ 3) ตรวจสอบกลไกการป้องกันต้นพืชที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานโรค ปีมีศึกษาในเขตของผู้ปลูก ร่วมปีการศึกษาแรก ดำเนินการทดลองในสถานที่สองแห่งในย่าน Bungphra เมือง ทดสอบเฉพาะโฮสต์ Phitsanulok.The แตงกวา พริก และมะเขือเทศ ในปีสอง การทดลองถูกดำเนินการในสถานที่หนึ่งในเขต Tapho และสถานที่สองใน Watprig ตำบล เมือง พิษณุโลก เพียงสองโฮสต์เฉพาะ พริกไทยและแตงกวา รับการทดสอบ ผลที่ได้จากทั้งสองสถานที่ในการศึกษาปีแรกแสดงว่า แตงกวาและมะเขือเทศส่วนใหญ่รักษา ด้วย PGPR ส่วนผสม (Bacillus amyloliquefaciens สายพันธุ์ IN937a + สายพันธุ์ B.pumilis IN937b) พบว่า reductions(P?0.05) สำคัญของโมเสคโรคและโรคขดเหลืองเมื่อเทียบกับ nonbacterized ควบคุม นอกจากนี้ PGPR mixutures ยังพบสำคัญปราบปรามป้องกันโรคพริกโมเสกทั้งน้อยหนึ่งฤดูกาล ในปีการศึกษาที่สอง ผสม PGPR ช่วยยับยั้งโรคโรคราน้ำค้าง downy ในแตงกวาน้อยสองสถานและอื่น ๆ ส่วนใหญ่ชนพื้นเมือง (โมเสค เหี่ยวจากแบคทีเรีย และไหม้ใต้) บนยาวพริกป่นในสถานทั้งหมดตลอดทั้งฤดูกาลเมื่อเทียบกับ nonbacterized ควบคุม นอกจากนี้ยังมีปฏิบัติการเพิ่มผลผลิต โดยส่วนผสม PGPR สำหรับวัตถุประสงค์สอง หนึ่งวันบรรยาย/อภิปรายและสาธิต fild PGPR ดำเนินการที่มหาวิทยาลัยนเรศวรสำหรับเกษตรกรที่สนใจในมาตรการการจัดการและการควบคุมโรค รู้และความตระหนักของเกษตรกรถูก examined ทันทีก่อน และ หลังการบรรยาย/อภิปราย และถูก follow-uped กับกลุ่มเดียวกันจนถึง 6 เดือนหลังจากบรรยาย/อภิปราย ผลระบุว่า การแทรกแซงอย่างมากได้รับผลกระทบความรู้เกษตรกร ความรู้ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในหกเดือน อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงไม่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในเกษตรกรรับรู้ ยกเว้นการปรับปรุง monor รู้อันตรายต่อแมลง สำหรับกลไกการป้องกันต้นเกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานโรค พบว่าฮอสรวมกิจกรรมและรวมซูเปอร์ออกไซด์ dismutase ในพืชจากทั้งหมด 4 pathosystems พริก ไทย/Sclerotium roifsii มะเขือ เทศ/S. roifsii มะเขือ เทศ/Ralstonia solanacearum และพริก ไทย/Colletotrichum gloeosporioides อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น และมีกิจกรรมมากกว่าพืชในการควบคุม bacterized ไม่ใช่ท้าทายต่อการติดเชื้อของเชื้อโรค ในบทสรุป PGPR ผสมเข้ากันได้ (IN937a + IN937b) ให้ปราบปรามสิ่งโรคหลายโรคเขตร้อนพื้นเมืองสถานที่ต่าง ๆ กัน นอกจากนี้ พืชเกิดจาก PGPR ผสม (IN937a + b) ทั้งหมด 4 pathosystems เพิ่มขึ้นน้อยคล้ายต้นพืชกลไกการป้องกันซึ่งเป็นฮอสและซูเปอร์ออกไซด์ dismutase Moreover หนึ่งวันบรรยาย/อภิปราย และสาธิตฟิลด์ PGPR สามารถเพิ่มความรู้ของเกษตรกร แต่การแทรกแซงควรปฏิบัติหลายครั้งเพื่อปรับปรุงการรับรู้ของผู้ปลูกใช้ PGPR เป็นวิธีการแบบบูรณาการเพื่อการจัดการโรคพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดลองก่อนหน้านี้ที่ระบุผสมเข้ากันได้ของพืชเจริญเติบโตส่งเสริม rhizobacteria (PGPR) สายพันธุ์พืชการป้องกันโรคในช่วงหลายทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว ผลที่นำไปสู่​​ tothe จุดมุ่งหมายของการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีดังต่อไปนี้: 1). ที่จะดำเนินการในการตรวจสอบฟาร์มสอดคล้องของการป้องกัน PGPR พึ่งกับโรคเขตร้อนในประเทศ 2) เพื่อศึกษาความรู้เกษตรกรผู้ปลูกและ Awarness สำหรับการใช้ PGPR เป็นการจัดการโรคบูรณาการและ 3) การตรวจสอบกลไกการป้องกันพืชต้นเกี่ยวข้องกับความต้านทานโรค สองปีติดต่อกันมีการศึกษาในสาขาที่เกษตรกรผู้ปลูก inthe ปีก่อนการศึกษาทดลองได้ดำเนินการในสองสถานที่ใน Bungphra อำเภอเมือง, Phitsanulok.The เจ้าภาพเฉพาะการทดสอบเป็นแตงกวาพริกและมะเขือเทศ ในปีที่สองการทดลองดำเนินการในสถานที่หนึ่งใน Tapho อำเภอสองสถานที่ใน Watprig อำเภอเมืองพิษณุโลก เพียงสองเจ้าภาพเฉพาะพริกไทยและแตงกวาได้รับการทดสอบ ผลที่ได้จากสถานที่ทั้งสองในการศึกษาปีแรกที่ชี้ให้เห็นว่าแตงกวามะเขือเทศมากที่สุดและได้รับการรักษาด้วยการผสม PGPR (Bacillus amyloliquefaciens สายพันธุ์ IN937a + B.pumilis ความเครียด IN937b) แสดงให้เห็นว่าการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (P? 0.05) ของโรคกระเบื้องโมเสคและโรคใบขดสีเหลืองเมื่อเทียบกับ ควบคุม nonbacterized นอกจากนี้ mix​​utures PGPR ยังแสดงให้เห็นการปราบปรามอย่างมีนัยสำคัญกับโรคพริกไทยโมเสคในสถานที่ทั้งสองอย่างน้อยหนึ่งฤดูกาล ในการศึกษาปีที่สองผสม PGPR ปราบปรามอย่างมีนัยสำคัญโรคราน้ำค้างในแตงกวาอย่างน้อยสองสถานที่และอื่น ๆ ส่วนใหญ่ของชนพื้นเมือง (โมเสค, เหี่ยวและทำลายภาคใต้) ในพริกป่นยาวในทุกสถานที่ตลอดทั้งฤดูกาลเมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในการควบคุม nonbacterized การเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราผลตอบแทนโดยผสม PGPR ยังเห็นได้ สำหรับวัตถุประสงค์ที่สองบรรยายหนึ่งวัน / อภิปรายและสาธิต fild PGPR ได้ดำเนินการที่มหาวิทยาลัยนเรศวรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกที่มีความสนใจในการจัดการโรคและมาตรการควบคุมทางชีวภาพ รู้และความตระหนักของเกษตรกรมีการตรวจสอบก่อนและหลังการบรรยาย / อภิปรายและถูกติดตาม uped กับกลุ่มเดียวกันจนถึง 6 เดือนหลังจากการบรรยาย / อภิปราย ผลการวิจัยพบว่าการแทรกแซงได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญความรู้เกษตรกร ความรู้ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ถึงหกเดือน อย่างไรก็ตามการแทรกแซงไม่สามารถสร้างความแตกต่างในการรับรู้ของเกษตรกรยกเว้นการปรับปรุง Monor ในการรับรู้ของอันตรายสารกำจัดศัตรูพืช สำหรับกลไกการป้องกันในช่วงต้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับความต้านทานโรคก็พบว่ากิจกรรม peroxidase รวมและ superoxide dismutase รวมในพืชจากทั้งหมด 4 pathosystems; รวมทั้งพริกไทย / Sclerotium roifsii มะเขือเทศ / S roifsii มะเขือเทศ / Ralstonia solanacearum และพริกไทย / gloeosporioides Colletotrichum เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าพืชที่ไม่ใช่ bacterized ควบคุมความท้าทายต่อไปนี้การติดเชื้อเชื้อโรค สรุปได้ว่าเข้ากันได้ PGPR ผสม (IN937a + IN937b) จัดให้มีการปราบปรามโรคในวงกว้างกับโรคเขตร้อนหลายพื้นเมืองในสถานที่ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้พืชที่เกิดจากการผสม PGPR (IN937a + B) ของทั้ง 4 pathosystems อย่างน้อยเพิ่มขึ้นกลไกคล้ายพืชต้นการป้องกันที่มี peroxidase และ dismutase superoxide นอกจากนี้หนึ่งวันบรรยาย / อภิปรายและสาธิตฟิลด์ PGPR สามารถเพิ่มความรู้ของเกษตรกรผู้ปลูก แต่การแทรกแซงควรจะปฏิบัติหลาย ๆ ครั้งเพื่อเพิ่มความตระหนักของผู้ปลูกโดยใช้ PGPR เป็นวิธีการแบบบูรณาการสำหรับการจัดการโรคพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทดลองก่อนหน้านี้พบเข้ากันได้ผสมไรโซแบคทีเรียส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ( มีแนวโน้ม ) สายพันธุ์ที่ป้องกันโรคพืชกับหลายช่วงทั้งฤดูฝนและฤดูหนาว . ผลลัพธ์เหล่านั้นนำกับจุดมุ่งหมายของการวิจัยดังนี้ 1 ) การปฏิบัติในฟาร์มตรวจสอบความสอดคล้องของมีแนวโน้มพฤติกรรมป้องกันโรคเขตร้อนพื้นเมือง . 2 ) เพื่อศึกษาความรู้ของเกษตรกรผู้ปลูก และความสำนึกรู้ใช้มีแนวโน้มเป็นแบบบูรณาการการบริหารจัดการโรค และ 3 ) เพื่อศึกษากลไกการป้องกันที่เกี่ยวข้องกับต้นพืชต้านทานโรค สองปีติดต่อกัน โดยทำการศึกษาในผู้ปลูกเป็นไร่ การศึกษาปีแรกในการทดลองนี้ , ในสถานที่สองใน bungphra อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะเจ้าภาพทดสอบคือ แตงกวา พริก และมะเขือเทศ ในปีที่สอง ทดลองในสถานที่หนึ่งในเขต tapho และสองสถานที่ใน watprig อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โฮสต์ที่เฉพาะเจาะจงเพียงสอง พริก แตงกวา ผสมอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้จากทั้งสองสถานที่ในการศึกษาปีแรก พบว่า แตงกวา และมะเขือเทศที่ได้รับการผสมมากที่สุดมีแนวโน้ม ( Bacillus สายพันธุ์ amyloliquefaciens in937a + b.pumilis ความเครียดอย่างมีนัยสำคัญ ( p in937b ) หรือ ? 0.05 ) ของโรค โมเสก และโรคใบหงิกเหลือง เมื่อเทียบกับ nonbacterized ควบคุม นอกจากนี้ มีแนวโน้ม mixutures ยังอย่างมีนัยสำคัญปราบปรามโรคพริกไทยกระเบื้องโมเสคในทั้งสองสถานที่อย่างน้อยหนึ่งฤดูกาล ในการศึกษา 2 ปี โดยมีแนวโน้มอย่างมากยับยั้งโรคราน้ำค้างในแตงกวาอย่างน้อยสองตำแหน่ง และส่วนใหญ่อื่น ๆท้องถิ่น ( โมเสค , แบคทีเรียและเชื้อราในพืช , ภาคใต้ ) พริกป่น ยาวในสถานที่ทั้งหมดตลอดฤดูกาล เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ใน nonbacterized ควบคุม การเพิ่มผลผลิตโดยผสมมีแนวโน้มยังสังเกต สำหรับวัตถุประสงค์ประการที่สองการอภิปรายการบรรยาย / 1 วัน และมีแนวโน้ม fild สาธิต ดำเนินการที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อผู้ที่สนใจในการจัดการโรคและมาตรการควบคุมทางชีวภาพ ความรู้และความตระหนักของเกษตรกรถูกตรวจสอบทันที ก่อนและหลัง บรรยาย / อภิปราย และติดตาม uped กับกลุ่มเดียวกันจนถึง 6 เดือนหลัง บรรยาย / อภิปราย ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความรู้ การช่วยเหลือเกษตรกร ความรู้ส่วนใหญ่ยืนกรานถึงหกเดือน อย่างไรก็ตามการแทรกแซงจะไม่สร้างความแตกต่างในความตระหนักของเกษตรกรนอกจาก Monor ปรับปรุงความตระหนักในอันตรายแมลง สำหรับกลไกการป้องกันแรกเกี่ยวข้องกับการต้านทานโรค พบว่าเอนไซม์ Superoxide Dismutase รวมกิจกรรมทั้งหมด และในพืช จากทั้งหมด 4 pathosystems รวมทั้งพริกไทยจาก roifsii / มะเขือเทศ / s roifsii มะเขือเทศ / ralstonia solanacearum และพริกไทย , Colletotrichum gloeosporioides , เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีกิจกรรมสูงกว่าพืชไม่ bacterized ท้าทายการควบคุมต่อไปนี้ การติดเชื้อเชื้อโรค สรุป ผสมมีแนวโน้มที่เข้ากันได้ ( in937a + in937b ) ให้กว้างปราบปรามต่อโรคหลายโรคเขตร้อนพื้นเมืองในสถานที่ที่แตกต่างกัน . นอกจากนี้ พืชที่เกิดจากการผสมมีแนวโน้ม ( in937a + B ) ทั้งหมด 4 pathosystems อย่างน้อยเพิ่มขึ้นคล้ายต้นพืชซึ่งเป็นกลไกการป้องกันและเอนไซม์ Superoxide Dismutase ซึ่งการอภิปรายการบรรยาย / วันและมีแนวโน้มจะเพิ่มความรู้ด้านการสาธิตของผู้ปลูก แต่การแทรกแซงที่ควรจะฝึกหลายครั้งเพื่อปรับปรุงการใช้มีแนวโน้มของผู้ปลูก เป็นแบบบูรณาการวิธีการสำหรับการจัดการโรคพืช