ชุมขนบ้านห้วยขะยุงตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำห้วยขะยุงด้านขวามือห่างจากจุดบรร การแปล - ชุมขนบ้านห้วยขะยุงตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำห้วยขะยุงด้านขวามือห่างจากจุดบรร ไทย วิธีการพูด

ชุมขนบ้านห้วยขะยุงตั้งอยู่ริมฝั่งลำ

ชุมขนบ้านห้วยขะยุงตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำห้วยขะยุงด้านขวามือห่างจากจุดบรรจบกันระหว่างลำน้ำห้วยขะยุงและแม่น้ำมูล ประมาณ 1 กม. เป็นชุมชนที่มีการรวมตัวกันของประชาชนจากหมู่บ้านต่าง ๆ หลายหมู่บ้านที่อพยพเคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่อาศัย เพื่อการประกอบอาชีพ เพื่อความสะดวกในการคมนาคมและการใช้สอยปัจจัยต่างๆ ที่มีอยู่ในเขตพื้นที่หมู่บ้านและบริเวณใกล้เคียง เช่น ที่ดินทำเลเลี้ยงสัตว์ของตำบลกุดลาด ลำน้ำห้วยขะยุง ลำน้ำมูล โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟที่วิ่งผ่านเพื่อเดินทางเข้าสู่ตังจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดต่าง ๆ สู่กรุงเทพฯ ในเบื้องต้นสืบได้ว่าประมาณปี พ.ศ.2470 รัฐบาลได้ก่อสร้างทางรถไฟจากจังหวัดศรีษะเกษไปจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีคนงานก่อสร้างทางรถไฟ อพยพเคลื่อนย้ายรับจ้างติดตามมาด้วย มีครอบครัวชาวจีน นำโดยนายซ่งฮะ นางธูปหอม มูลศิลป์, นายสิ่ว โสวรรณะ จากบ้านกุดลาด ตำบลกุดลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยคณะซึ่งทยอยตามมาเป็นระลอก เช่นในปี พ.ศ.2473 นายเฮือง สีลา ซึ่งเดินทางมาจากบ้านแวง ตำบลแวง อ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ พ่อใหญ่ศูนย์ (สูรย์) ไกรสีห์ จากบ้านท่าลาด ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวังอุบลราชธานี พ่อใหญ่ป่าว ซึ่งมีเชื้อชาติพม่า และแม่ใหญ่เพิ่มที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ พร้อมกับคณะช่างที่ทำการก่อสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดศรีษะเกษ กับสถานีบ้านโพธิ์มูล อำเภอวารินชำราบ และสถานีรถไฟอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ.2475 ได้มีครอบครัว นายสอน – นางจันทา โสวรรณะ, นางหน่อย – นายเกลอ, นายตื้อ, นายเสี่ยน โสวรรณะ, นางแป๋ โสวรรณะ ซึ่งอพยพเคลื่อนย้ายมาจากบ้านท่าลาด ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ได้เคลื่อนมารวมด้วยพร้อมกลุ่มนายพุฒ สาลีพวง ที่เคลื่อนมาจากบ้านหนองหวาย ตำบลโนนสังข์ อ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ รวมแล้วประมาณ 40 หลังคาเรือน ในปี พ.ศ.2475 ทั้งนี้เพื่อการสะดวกในการทำไร่ ทำนา และหาสัตว์น้ำเลี้ยงชีวิต พร้อมกับตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านห้วยขะยุง ตามชื่อของลำห้วย ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของลำน้ำสายต่าง ๆ ที่ไหลจากเทือกเขาพนมดงรัก อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีษะเกษ
เนื่องจากบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต มีพื้นที่เป็นที่ว่างเปล่าสามารถขยายกิจการการทำไร่นาได้กว้างขวาง มีทางคมนาคมสะดวก ทั้งทางน้ำ ทางบก สามารถเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอุบลราชธานีได้โดยใช้เส้นทางรถไฟ ขณะเดียวกันก็สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวจังหวัดอุบลราชธานีด้วยทางน้ำ โดยอาศัยลำน้ำมูลได้ด้วย จึงได้มีผู้คนอพยพมาจากท้องถิ่นต่าง ๆ มาประกอบอาชีพ ณ บริเวณแห่งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยมา กลายเป็นชุมชนใหญ่โตขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะต่อมาได้มีกลุ่มพ่อค้านำโดยหลวงภิรมย์ ได้มาตั้งโรงสีใหญ่ขึ้น พร้อมกับนายเปี้ยน สุวรรณมาศ ที่บริเวณริมน้ำห้วย ด้านซ้ายมือทางรถไฟ (เดินทางจากจังหวัดศรีษะเกษ) ต่อมาหลวงภิรมย์ได้ขายกิจการให้นายเปี้ยน สุวรรณมาศ หลังจากนั้นได้ย้ายโรงสีมาตั้งใหม่ที่อีกฟากหนึ่งของทางรถไฟจนถึงปัจจุบัน ในช่วงระยะเวลานั้นมีกลุ่มพ่อค้าที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งนำโดย นายพิชัย สุวรรณมาศ บุตรชายนายเปี้ยน สุวรรณมาศ พ่อค้าจากจังหวัดอุบลราชธานี ได้มาดำเนินกิจการโรงสีไฟและโรงเลื่อน ประมาณ ปี พ.ศ. 2480 ชื่อว่าบริษัทโรงสีห้วยขะยุง หรือโรงสรไฟง่วนเชื่องเส็ง ทำการรับชื้อข้าวเลือกจากประชาชนในท้องถิ่นใกล้เคียง สีเป็นข้าวสาร บรรจุกระสอบส่งโดยทางรถไฟไปจำหน่ายยังกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ขณะเดียวกัน กิจการโรงเลื่อนจักรก็รับชื้อไม้ ซึ่งขณะนั้นมาความสมบูรณ์มากลำเลียงผ่านลำน้ำห้วยขะยุง และลำน้ำมูล มาทำแปลรูปส่งไปจำหน่าย ยังจังหวัดต่าง ๆ ผ่านทางรถไฟ จากกิจการโรงสีและโรงเลื่อน นี้เองเป็นเหตุให้มีการอพยพของผู้คนมาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่บ้าน ห้วยขะยุงมากขึ้น ทำให้หมู่บ้านห้วยขะยุงเป็นหมู่บ้านที่มีการชื้อขายข้าว ที่ใหญ่มากและขณะเดียวกันก็เป็นตลาดรับชื้อของป่า ทุกชนิด เกิดอาชีพใหม่ขึ้น คือ อาชีพรับจ้าง ทำงานโดยใช้แรงงานในโรงสี และโรงเลื่อน ตลอดจนสถานที่รับชื้อของป่าเหล่านั้นด้วย
ผู้คนที่อพยพมาสู่บ้านห้วยขะยุงระยะหลังนี้อพยพมาจากหมู่บ้านต่าง ๆ เช่น บ้านน้ำเที่ยง บ้านหนองบัว บ้านท่าลาด และจาดจังหวัดต่าง ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา โดยเฉพาะเชื้อสายจีน ได้ อพยพโดยทางรถไฟ ซึ่งจะประกอบอาชีพ รับจ้างใช้แรงงานในโรงงานเลื่อนจักร โรงสีไฟ โรงอัดปอ ซึ่งมาจำนวน 5 โรงงาน และค้าขาย รับชื้อสินค้า ซึ่งเป็นผลผลิตของท้องถิ่น เช่น ข้าว ปอ สัตว์เลี้ยง ของป่า นำไปขายต่อที่โรงสี, ตลาดในตัวจังหวัดอุบลราชธานี , ศรีสะเกษ และจังหวัดต่าง ๆ นำสินค้าบรรทุกเกวียน , เรือ บ้างก็หาบหามมาจำหน่ายเป็นประจำทุกวันทำให้สภาพการเงินหมุนเวียนคล่องตัว นำรายได้สู่ท้องถิ่นจนสามารถจัดตั้งเป็นสุขาภิบาล ตามระเบียบการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ก่อนท้องถิ่นอื่น ๆ ในอำเภอวารินชำราบ และ จังหวัดอุบลราชธานี กลายเป็นเทศบาลตำบลห้วยขะยุงในปัจจุบัน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ชุมขนบ้านห้วยขะยุงตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำห้วยขะยุงด้านขวามือห่างจากจุดบรรจบกันระหว่างลำน้ำห้วยขะยุงและแม่น้ำมูลประมาณ 1 กม เป็นชุมชนที่มีการรวมตัวกันของประชาชนจากหมู่บ้านต่างๆ หลายหมู่บ้านที่อพยพเคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่อาศัยเพื่อการประกอบอาชีพเพื่อความสะดวกในการคมนาคมและการใช้สอยปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเขตพื้นที่หมู่บ้านและบริเวณใกล้เคียงเช่นที่ดินทำเลเลี้ยงสัตว์ของตำบลกุดลาดลำน้ำห้วยขะยุงลำน้ำมูลโดยเฉพาะเส้นทางรถไฟที่วิ่งผ่านเพื่อเดินทางเข้าสู่ตังจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดต่างๆ สู่กรุงเทพฯ ในเบื้องต้นสืบได้ว่าประมาณปี พ.ศ.2470 รัฐบาลได้ก่อสร้างทางรถไฟจากจังหวัดศรีษะเกษไปจังหวัดอุบลราชธานีได้มีคนงานก่อสร้างทางรถไฟอพยพเคลื่อนย้ายรับจ้างติดตามมาด้วยมีครอบครัวชาวจีนนำโดยนายซ่งฮะนางธูปหอมมูลศิลป์ นายสิ่วโสวรรณะจากบ้านกุดลาดตำบลกุดลาดอำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานีพร้อมด้วยคณะซึ่งทยอยตามมาเป็นระลอกเช่นในปี พ.ศ.2473 นายเฮืองสีลาซึ่งเดินทางมาจากบ้านแวงตำบลแวงอ.กันทรารมย์จังหวัดศรีษะเกษพ่อใหญ่ศูนย์ (สูรย์) ไกรสีห์จากบ้านท่าลาดตำบลท่าลาดอำเภอวารินชำราบจังหวังอุบลราชธานีพ่อใหญ่ป่าวซึ่งมีเชื้อชาติพม่าและแม่ใหญ่เพิ่มที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ พร้อมกับคณะช่างที่ทำการก่อสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดศรีษะเกษกับสถานีบ้านโพธิ์มูลอำเภอวารินชำราบและสถานีรถไฟอุบลราชธานีอำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ.2475 ได้มีครอบครัวนายสอน –นางจันทาโสวรรณะ นางหน่อย – นายเกลอ นายตื้อ นายเสี่ยน.โสวรรณะ นางแป๋โสวรรณะซึ่งอพยพเคลื่อนย้ายมาจากบ้านท่าลาดตำบลท่าลาดอำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานีได้เคลื่อนมารวมด้วยพร้อมกลุ่มนายพุฒสาลีพวงที่เคลื่อนมาจากบ้านหนองหวายตำบลโนนสังข์อ.กันทรารมย์จังหวัดศรีษะเกษรวมแล้วประมาณ 40 หลังคาเรือนในปี พ.ศ.2475 ทั้งนี้เพื่อการสะดวกในการทำไร่ทำนาและหาสัตว์น้ำเลี้ยงชีวิตพร้อมกับตั้งชื่อหมู่บ้านว่าบ้านห้วยขะยุงตามชื่อของลำห้วยซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของลำน้ำสายต่างๆ ที่ไหลจากเทือกเขาพนมดงรักอำเภอขุนหาญจังหวัดศรีษะเกษ เนื่องจากบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตมีพื้นที่เป็นที่ว่างเปล่าสามารถขยายกิจการการทำไร่นาได้กว้างขวางมีทางคมนาคมสะดวกทั้งทางน้ำทางบกสามารถเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดอุบลราชธานีได้โดยใช้เส้นทางรถไฟขณะเดียวกันก็สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวจังหวัดอุบลราชธานีด้วยทางน้ำโดยอาศัยลำน้ำมูลได้ด้วยจึงได้มีผู้คนอพยพมาจากท้องถิ่นต่างๆ มาประกอบอาชีพณบริเวณแห่งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยมากลายเป็นชุมชนใหญ่โตขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต่อมาได้มีกลุ่มพ่อค้านำโดยหลวงภิรมย์ได้มาตั้งโรงสีใหญ่ขึ้นพร้อมกับนายเปี้ยนสุวรรณมาศที่บริเวณริมน้ำห้วยด้านซ้ายมือทางรถไฟ (เดินทางจากจังหวัดศรีษะเกษ) ต่อมาหลวงภิรมย์ได้ขายกิจการให้นายเปี้ยนสุวรรณมาศหลังจากนั้นได้ย้ายโรงสีมาตั้งใหม่ที่อีกฟากหนึ่งของทางรถไฟจนถึงปัจจุบันในช่วงระยะเวลานั้นมีกลุ่มพ่อค้าที่มีเชื้อสายจีนซึ่งนำโดยนายพิชัยสุวรรณมาศบุตรชายนายเปี้ยนสุวรรณมาศพ่อค้าจากจังหวัดอุบลราชธานีได้มาดำเนินกิจการโรงสีไฟและโรงเลื่อนประมาณปีพ.ศ. 2480 ชื่อว่าบริษัทโรงสีห้วยขะยุงหรือโรงสรไฟง่วนเชื่องเส็งทำการรับชื้อข้าวเลือกจากประชาชนในท้องถิ่นใกล้เคียงสีเป็นข้าวสารบรรจุกระสอบส่งโดยทางรถไฟไปจำหน่ายยังกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ขณะเดียวกันกิจการโรงเลื่อนจักรก็รับชื้อไม้ซึ่งขณะนั้นมาความสมบูรณ์มากลำเลียงผ่านลำน้ำห้วยขะยุงและลำน้ำมูลมาทำแปลรูปส่งไปจำหน่ายยังจังหวัดต่างๆ ผ่านทางรถไฟจากกิจการโรงสีและโรงเลื่อนนี้เองเป็นเหตุให้มีการอพยพของผู้คนมาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่บ้านห้วยขะยุงมากขึ้นทำให้หมู่บ้านห้วยขะยุงเป็นหมู่บ้านที่มีการชื้อขายข้าวที่ใหญ่มากและขณะเดียวกันก็เป็นตลาดรับชื้อของป่าทุกชนิดเกิดอาชีพใหม่ขึ้นคืออาชีพรับจ้างทำงานโดยใช้แรงงานในโรงสีและโรงเลื่อนตลอดจนสถานที่รับชื้อของป่าเหล่านั้นด้วย ผู้คนที่อพยพมาสู่บ้านห้วยขะยุงระยะหลังนี้อพยพมาจากหมู่บ้านต่าง ๆ เช่น บ้านน้ำเที่ยง บ้านหนองบัว บ้านท่าลาด และจาดจังหวัดต่าง ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา โดยเฉพาะเชื้อสายจีน ได้ อพยพโดยทางรถไฟ ซึ่งจะประกอบอาชีพ รับจ้างใช้แรงงานในโรงงานเลื่อนจักร โรงสีไฟ โรงอัดปอ ซึ่งมาจำนวน 5 โรงงาน และค้าขาย รับชื้อสินค้า ซึ่งเป็นผลผลิตของท้องถิ่น เช่น ข้าว ปอ สัตว์เลี้ยง ของป่า นำไปขายต่อที่โรงสี, ตลาดในตัวจังหวัดอุบลราชธานี , ศรีสะเกษ และจังหวัดต่าง ๆ นำสินค้าบรรทุกเกวียน , เรือ บ้างก็หาบหามมาจำหน่ายเป็นประจำทุกวันทำให้สภาพการเงินหมุนเวียนคล่องตัว นำรายได้สู่ท้องถิ่นจนสามารถจัดตั้งเป็นสุขาภิบาล ตามระเบียบการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ก่อนท้องถิ่นอื่น ๆ ในอำเภอวารินชำราบ และ จังหวัดอุบลราชธานี กลายเป็นเทศบาลตำบลห้วยขะยุงในปัจจุบัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประมาณ 1 กม ๆ เพื่อการประกอบอาชีพ เช่น ลำน้ำห้วยขะยุงลำน้ำมูล และจังหวัดต่าง ๆ สู่กรุงเทพฯในเบื้องต้นสืบได้ว่าประมาณปี พ.ศ. 2470 ได้มีคนงานก่อสร้างทางรถไฟ มีครอบครัวชาวจีนนำโดยนายซ่งฮะนางธูปหอมมูลศิลป์, นายสิ่วโสวรรณะจากบ้านกุดลาดตำบลกุดลาดอำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี เช่นในปี พ.ศ. 2473 นายเฮืองสีลาซึ่งเดินทางมาจากบ้านแวงตำบลแวงอ. กันทรารมย์จังหวัดศรีษะเกษพ่อใหญ่ศูนย์ (สูรย์) ไกรสีห์จากบ้านท่าลาดตำบลท่าลาดอำเภอวารินชำราบจังหวังอุบลราชธานีพ่อใหญ่ป่าวซึ่ง มีเชื้อชาติพม่า กับสถานีบ้านโพธิ์มูลอำเภอวารินชำราบและสถานีรถไฟอุบลราชธานีอำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. 2475 ได้มีครอบครัวนายสอน - นางจันทาโสวรรณะ, นางหน่อย - นายเกลอ, นายตื้อ, นายเสี่ยนโสวรรณะ, นางแป๋โสวรรณะ ตำบลท่าลาดอำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี สาลีพวงที่เคลื่อนมาจากบ้านหนองหวายตำบลโนนสังข์อ. กันทรารมย์จังหวัดศรีษะเกษรวมแล้วประมาณ 40 หลังคาเรือนในปี พ.ศ. 2475 ทั้งนี้เพื่อการสะดวกในการทำไร่ทำนาและหาสัตว์น้ำเลี้ยงชีวิตพร้อมกับตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านห้วยขะยุงตามชื่อของลำห้วย ๆ ที่ไหลจากเทือกเขาพนมดงรักอำเภอขุนหาญ
มีทางคมนาคมสะดวกทั้งทางน้ำทางบกสามารถเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร โดยอาศัยลำน้ำมูลได้ด้วย ๆ มาประกอบอาชีพ ณ บริเวณแห่งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยมากลายเป็นชุมชนใหญ่โตขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้มาตั้งโรงสีใหญ่ขึ้นพร้อมกับนายเปี้ยนสุวรรณมาศที่บริเวณริมน้ำห้วยด้านซ้ายมือทางรถไฟ (เดินทางจากจังหวัดศรีษะเกษ) สุวรรณมาศ ซึ่งนำโดยนายพิชัยสุวรรณมาศบุตรชายนายเปี้ยนสุวรรณมาศพ่อค้าจากจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณปี พ.ศ. 2480 ชื่อว่า บริษัท โรงสีห้วยขะยุงหรือโรงสรไฟง่วนเชื่องเส็ง สีเป็นข้าวสาร และจังหวัดต่าง ๆ ขณะเดียวกันกิจการโรงเลื่อนจักรก็รับชื้อไม้ และลำน้ำมูลมาทำแปลรูปส่งไปจำหน่ายยังจังหวัดต่าง ๆ ผ่านทางรถไฟจากกิจการโรงสีและโรงเลื่อน ห้วยขะยุงมากขึ้น ทุกชนิดเกิดอาชีพใหม่ขึ้นคืออาชีพรับจ้างทำงานโดยใช้แรงงานในโรงสีและโรงเลื่อน
ๆ เช่นบ้านน้ำเที่ยงบ้านหนองบัวบ้านท่าลาดและจาดจังหวัดต่าง ๆ เช่นกรุงเทพมหานครนครราชสีมาโดยเฉพาะเชื้อสายจีนได้อพยพโดยทางรถไฟซึ่งจะประกอบอาชีพ โรงสีไฟโรงอัดปอซึ่งมาจำนวน 5 โรงงานและค้าขายรับชื้อสินค้าซึ่งเป็นผลผลิตของท้องถิ่นเช่นข้าวปอสัตว์เลี้ยงของป่านำไปขายต่อที่โรงสี, ตลาดในตัวจังหวัดอุบลราชธานี, ศรีสะเกษและจังหวัดต่าง ๆ นำสินค้าบรรทุกเกวียน , เรือ ๆ ในอำเภอวารินชำราบและจังหวัดอุบลราชธานี
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: