บริษัท เมอริทฟู้ด โปรดักส์ จำกัด
โครงการในอนาคต
ดวยเปาหมายหลักของบริษัทฯที่ตองการเติบโต (Growth) เพื่อที่จะรักษาความเปนผูนําในธุรกิจใหบริการในการผลิตผาน สื่ออยางครบวงจร โดยการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่เกี่ยวของ (Related Diversification) กับธุรกิจเดิมในปจจุบัน คือ ธุรกิจวิทยุ โทรทัศน และสิ่งพิมพ ซึ่งจะกอใหเกิด Synergy นั้น ทางบริษัทฯจึงมีโครงการสําหรับป 2548 ดังนี้
ธุรกิจวิทยุ
บริษัทฯมีโครงการที่จะเนนคุณภาพและปรับเปลี่ยนรูปแบบของรายการวิทยุที่มีอยูของบริษัทฯ ซึ่งปจจุบันมีสถานีวิทยุอยู ทั้งสิ้น 5 สถานี เพื่อเพิ่มสวนแบงทางการตลาด และเพื่อใหเกิดความหลากหลายสําหรับผูฟงซึ่งปจจุบันมีรสนิยมในการฟง เพลงที่หลากหลายเชนกัน
ธุรกิจโทรทัศน
จากการเปลี่ยนแปลงโครงสรางของอุตสาหกรรมโทรทัศนของประเทศในชวงที่ผานมา โดยสถานีโทรทัศนตางๆ ลวนมี ความตองการรายการที่มีคุณภาพ เจาะกลุมผูบริโภคที่ชัดเจน และดึงดูดผูบริโภคเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการเล็งเห็นถึงทิศทางของ ธุรกิจตรงนี้ บริษัทฯจึงมีโครงการที่จะเพิ่มจํานวน และความหลากหลายของรายการโทรทัศนโดยการขยายความรวมมือ ระหวางกลุมบริษัทและผูผลิตรายการโทรทัศนในระดับแนวหนาของประเทศ อีกทั้งมีการหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เปนผูผลิต รายการโทรทัศนรายอื่นๆเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความตองการ Contents ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
จากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2548 ไดมีมติใหบริษัทฯเขาไปลงทุนเพิ่มในบริษัท ยอย คือ บจก. ดีทอลค ภายในไตรมาส 3 ป 2548 โดยการซื้อหุนจากผูถือหุนเดิมในบจก. ดีทอลค ไดแก บจก. แมส มอนิเตอร จํานวน 200 หุน ในราคาหุนละ 3,580.29 บาทรวมเปนเงิน 0.72 ลานบาท และอินเตอรเนชั่นแนล มีเดีย โฮลดิ้งส พีทีอี ลิมิเต็ด จํานวน 1,400 หุนในราคาหุนละ 42,857.14 บาทรวมเปนเงิน 60 ลานบาท ทําใหตองใชเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 60.72 ลานบาท โดยใชแหลงเงินทุนจากเงินหมุนเวียนของบริษัทฯ และผลจากการลงทุนในครั้งนี้จะสงผลใหบริษัทฯมีสัดสวนการ ถือหุนในบจก. ดีทอลค เพิ่มขึ้นจากเดิมรอยละ 51 เปนรอยละ 65 ซึ่งจะสงผลใหการดําเนินงานตางๆของบริษัทฯในบจก. ดี ทอลค มีความคลองตัวมากขึ้น (รายละเอียดปรากฎตามสวนที่ 2 หัวขอฐานะทางการเงินและผลการดําเนินการ)
ธุรกิจสิ่งพิมพ
จากการเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของรายไดคาโฆษณาของธุรกิจนิตยสารของประเทศกลุมบริษัทจึงมีโครงการที่ จะเพิ่มจํานวนนิตยสารจากที่มีนิตยสารอยูในปจจุบัน 5 ฉบับ โดยนิตยสารใหมแตละฉบับจะมีกลุมผูอานที่ชัดเจน
และแตกตางกันไปโดยจะไมจํากัดอยูเพียงแคนิตยสารสําหรับผูหญิง ผูชาย หรือบันเทิงเทานั้น ซึ่งอาจจะเปนการซื้อลิขสิทธิ์ในการผลิต ของนิตยสารชั้นนําจากตางประเทศเพิ่มขึ้น หรือลงทุนในนิตยสารที่ประสบความสําเร็จอยูแลว รวมทั้งอาจจะเปนการพัฒนา นิตยสารในประเทศขึ้นมาเองโดยการใชประโยชนจาก content ทางดานบันเทิงที่กลุมบริษัทมีอยูแลวอยางครบครัน ทั้งนี้ขึ้น อยูกับความเหมาะสมในแตละกรณี
การขยายธุรกิจของบริษัท
เนื่องจากบริษัทมีนโยบายขยายธุรกิจโดยมุงเนนการกาวไปสูความเปนบริษัทผลิตและขายสื่อครบวงจร บริษัทไดทําการ ศึกษาวิเคราะหหาโอกาสในการขยายธุรกิจอยางตอเนื่อง โดยจะมุงเนนการลงทุนที่เปนการตอยอดธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมีความพรอมทางดานการเงินที่จะใชในการลงทุน เนื่องจากมีสภาพคลองสูงและไมมีหนี้เงินกูใดๆ
ธุรกิจที่มีความนาสนใจธุรกิจหนึ่งไดแกธุรกิจจัดกิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing) ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะ กรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2548 ไดมีมติเห็นชอบใหบริษัทฯลงทุนในบมจ. อินเด็กซ อีเวนท เอเจนซี่ และบริษัทยอยอีก 6 บริษัท โดยมีวัตถุประสงคในการขยายฐานการประกอบธุรกิจทางดานมีเดียของบริษัทฯไปสูธุรกิจให บริการจัดกิจกรรมทางการตลาดโดยการซื้อหุนสามัญจากผูถือหุนเดิมของบมจ. อินเด็กซ อีเวนท เอเจนซี่ (“อินเด็กซ”) จํานวน 86 ลานหุนหรือคิดเปน 50% ของทุนที่เรียกชําระแลว ซึ่งชําระดวยเงินสดจํานวน 183 ลานบาทและใหสิทธิในการซื้อหุน สามัญของบริษัทจํานวน 8 ลานหุนในราคาหุนละ 16 บาท ทั้งนี้ เพื่อใหผูถือหุนของอินเด็กซสามารถเขามาเปนพันธมิตรรวม ลงทุน (Strategic Partner) กับบริษัท ทั้งนี้ บริษัทฯไดลงนามในบันทึกความเขาใจเบื้องตน ซึ่งกําหนดวาบริษัทฯจะตรวจสอบ ขอมูลและเอกสารตางๆ (Due Dilligence) และทําสัญญาซื้อขายหุนอินเด็กซใหแลวเสร็จภายใน 60 วัน ซึ่งบริษัทฯคาดวาจะสามารถทํารายการซื้อขายไดภายในเดือนกรกฎาคม 2548เมื่อพิจารณาถึงผลการดําเนินงานของอินเด็กซในชวงป 2547 พบวา อินเด็กซมีรายไดรวมทั้งสิ้น 529.7 ลานบาท เพิ่ม ขึ้นถึงรอยละ 40 จากป 2546 (พิจารณาจากงบเสมือน) ทั้งนี้ เปนผลมาจากแนวโนมของอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวม ซึ่งมี ความนิยมในการใชสื่อประเภท below-the-line event marketing แทนสื่อหลักอื่นๆ มากขึ้น ประกอบกับนโยบายทางการตลาด ในเชิงรุกของอินเด็กซ และความสําเร็จในการสรางชี่อเสียงใหเปนที่ไววางใจของลูกคา ทําใหอินเด็กซไดรับงานที่มีขนาดใหญ มากขึ้นและสรางรายไดเพิ่มขึ้นเปนจํานวนมาก ทั้งนี้ ในชวงป 2547 อินเด็กซมีกําไรขั้นตน 175.5 ลานบาท (คิดเปนอัตรากําไร ขั้นตนรอยละ 33) และกําไรสุทธิ 51.0 ลานบาท (อัตรากําไรสุทธิรอยละ 9.6) เมื่อเทียบกับอัตรากําไรสุทธิรอยละ 7 ในป 2546 จะเห็นไดวาอินเด็กซมีความสามารถในการทํากําไรมากขึ้น โดยสามารถควบคุมคาใชจายในการขายและบริหารไดดีขึ้น สําหรับ ในไตรมาสแรกของป 2548 อินเด็กซมีรายไดและกําไรสุทธิ 116.6 ลานบาทและ 10.8 ลานบาท ตามลําดับ ลดลงจาก ชวงเดียวกันของป 2547 คิดเปนรอยละ 26 และ 56 ตามลําดับ ทั้งนี้สาเหตุหลักเนื่องมาจากภาวะอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวม ที่มีการชะลอการเติบโตลงจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่มีผลกระทบจากปจจัยมหภาคหลายปจจัย ผูประกอบการตางๆจึงชะลอการจัดกิจกรรมทางการตลาดลงเพื่อรอดูความชัดเจนอีกครั้ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 อินเด็กซมีสินทรัพยรวมทั้งสิ้น 439.7 ลานบาท โดยมีสินทรัพยหมุนเวียนคิดเปนรอยละ 39.2 ของสินทรัพยรวม โดยหากพิจารณาถึงคุณภาพของสินทรัพย โดยเฉพาะลูกหนี้การคาจะพบวาลูกหนี้การคาสวนใหญ (รอยละ 85.4 ของยอด