Social media, including microblogs

Social media, including microblogs (e.g. Twitter), social networking sites (e.g. Facebook, Patients like Me), and media sharing sites (e.g. YouTube) are influential in our everyday life. Today’s, social media is considered a cultural phenomenon in all over the world (1). Studies revealed the majority of the U.S. adult internet users (75%) use social media (2); meanwhile, this figure is about 80 percent among young people in European Union countries (3). Healthcare provision has been affected by social media, so that different platforms for social media have been applied in various domains such as medical education, patient education, facilitating interaction between customers and healthcare providers, collaboration among health care teams, provision of consultative and curative/therapeutic forums, knowledge sharing and health campaigns (4). Furthermore, social media enable healthcare providers and policy makers to communicate any health issues with the public and to answer health questions. Social media facilitate patient-patient dialogue to gain perceptions and experiences from each other. Additionally, more objectives, including health education, health promotion and stigma reduction are achievable (5). In this regard, many healthcare organizations have developed such media to communicate with the public.

Researchers identified many advantages for the application of social media in health care. The major advantages consist of a better relationship between patients, providers and even health policy makers, social support, self-care, the ability to access to more information, information sharing, a greater accessibility to health information commensurate with users’ needs, application of social media for public health surveillance and their positive influence on health policy making (5, 6).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สื่อสังคม รวมทั้ง microblogs (เช่น Twitter), เครือข่ายสังคมออนไลน์ (เช่น Facebook ผู้ป่วยชอบฉัน), และเว็บไซต์แชร์สื่อ (เช่น YouTube) มีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของเรา วันนี้ สังคมถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมในโลก (1) การศึกษาพบผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา (75%) ส่วนใหญ่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ (2) ในขณะเดียวกัน รูปนี้จะประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ในหมู่คนหนุ่มสาวในประเทศสหภาพยุโรป (3) จัดบริการสุขภาพได้รับผลกระทบ โดยสื่อสังคม เพื่อให้มีการใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ สำหรับสื่อสังคมในโดเมนต่าง ๆ เช่นการศึกษาทางการแพทย์ ป่วย อำนวยความสะดวกในการโต้ตอบระหว่างลูกค้าและผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ความร่วมมือระหว่างทีมสุขภาพ ฟอรั่ม consultative และ บำบัดรักษา แบ่งปันความรู้ และสุขภาพแคมเปญ (4) นอกจากนี้ สื่อสังคมให้สาธารณสุขและผู้กำหนดนโยบายสื่อสารปัญหาสุขภาพกับประชาชน และ การตอบคำถามสุขภาพ สื่อสังคมออนไลน์ช่วยเจรจาผู้ป่วยผู้ป่วยจะได้รับรู้และประสบการณ์จากแต่ละอื่น ๆ นอกจากนี้ เพิ่มเติมวัตถุประสงค์ รวมทั้งการศึกษาสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาพ และลดความอัปยศทำได้ (5) ในเรื่องนี้ หลายองค์กรสุขภาพได้พัฒนาสื่อดังกล่าวสามารถสื่อสารกับประชาชนนักวิจัยพบประโยชน์มากสำหรับการประยุกต์ใช้สื่อสังคมในการดูแลสุขภาพ ข้อดีประกอบด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ป่วย ผู้ให้บริการ และได้กำหนดนโยบายสุขภาพ สนับสนุนทางสังคม ดูแลตนเอง ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติม แชร์ข้อมูล เป็นมากกว่าการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่สอดคล้องกับความต้องการ แอพลิเคชันของการสาธารณสุขเฝ้าระวังสื่อ และอิทธิพลในเชิงบวกเกี่ยวกับนโยบายสุขภาพทำ (5, 6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สื่อสังคมรวมทั้งไมโครบล็อก (เช่น Twitter) เว็บไซต์เครือข่ายสังคม (เช่น Facebook, ผู้ป่วยเช่นฉัน) และสื่อเว็บไซต์ (เช่น YouTube) ร่วมกันเป็นผู้มีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของเรา สื่อสังคมในวันนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมในทั่วทุกมุมโลก (1) การศึกษาเผยให้เห็นส่วนใหญ่ของสหรัฐผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผู้ใหญ่ (75%) การใช้สื่อสังคม (2); ขณะที่ตัวเลขนี้เป็นประมาณร้อยละ 80 ในหมู่คนหนุ่มสาวในประเทศสหภาพยุโรป (3) การให้การดูแลสุขภาพได้รับผลกระทบจากสื่อสังคมเพื่อให้แพลตฟอร์มที่แตกต่างสำหรับสื่อสังคมได้ถูกนำมาใช้ในโดเมนที่ต่าง ๆ เช่นการศึกษาการแพทย์การศึกษาผู้ป่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างลูกค้าและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ, การทำงานร่วมกันระหว่างทีมการดูแลสุขภาพการให้คำปรึกษาและแก้ / ฟอรั่มการรักษาการแบ่งปันความรู้และแคมเปญสุขภาพ (4) นอกจากนี้สื่อสังคมช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและผู้กำหนดนโยบายในการสื่อสารปัญหาสุขภาพใด ๆ กับประชาชนและตอบคำถามสุขภาพ สื่อสังคมอำนวยความสะดวกในการสนทนาของผู้ป่วยผู้ป่วยจะได้รับการรับรู้และประสบการณ์จากกันและกัน นอกจากนี้วัตถุประสงค์อื่น ๆ อีกมากมายรวมทั้งการศึกษาสุขภาพการส่งเสริมสุขภาพและการลดการตีตราจะทำได้ (5) ในเรื่องนี้หลายองค์กรแพทย์ได้มีการพัฒนาสื่อเช่นการสื่อสารกับประชาชน.

นักวิจัยระบุข้อดีสำหรับการประยุกต์ใช้สื่อทางสังคมในการดูแลสุขภาพ ข้อดีที่สำคัญประกอบด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ป่วย, ผู้ให้บริการและแม้กระทั่งผู้กำหนดนโยบายสุขภาพการสนับสนุนทางสังคมในการดูแลตนเองความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมแบ่งปันข้อมูลการเข้าถึงมากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพกับความต้องการของผู้ใช้แอพลิเคชันของ สื่อสังคมสำหรับการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนและอิทธิพลในทางบวกของพวกเขาในการกำหนดนโยบายด้านสุขภาพ (5, 6)