But it is also important to remembe

But it is also important to remember that the media-military relationship changed
significantly in the Gulf War. If Vietnam was the first television war, then this was
the first information war, where, for the first time, news was broadcast 24/7 all
around the globe. This meant that news was conveyed in real time on channels
like CNN, and people could watch live footage of scud missiles being launched,
bombs exploding and troops firing weapons. Journalists, reporters, military press
officers, editors and news producers were forced to adapt to a drastically reduced
news cycle in which they responded to ‘live-feed’ images without the usual
context or background – and they did this around the clock. Such intense media
saturation during the Gulf War increased the power of the media to determine
how governments respond to international crises. Indeed, throughout the 1990s
people identified the ‘CNN effect’, in which the military no longer works in a
pre-emptive mode (that is, controlling and censoring reporters during war), but
now works in a reactive mode where it is forced to respond – sometimes militarily
– to issues raised by the media.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ก็ยังจำความสัมพันธ์สื่อทหารเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญในสงครามอ่าว ถ้าเวียดนาม สงครามโทรทัศน์ แล้วนี้ได้สงครามข้อมูลแรก ที่ ครั้งแรก ข่าวสารถูกเผยแพร่ทั้งหมด 24/7ทั่วโลก นี้หมายถึง ว่า ข่าวสื่อความหมายในเวลาจริงในช่องเช่น CNN และประชาชนสามารถดูอนิเมของจรวด scud ที่กำลังเปิดตัวระเบิดระเบิดและทหารยิงอาวุธ นักข่าว นักข่าว ข่าวทหารเจ้าหน้าที่ บรรณาธิการ และผลิตข่าวถูกบังคับให้ปรับให้ลดลงอย่างรวดเร็ววงจรข่าวตอบรูป 'สดอาหาร' โดยปกติบริบท หรือพื้น หลัง – และพวกเขาไม่นี้ตลอด สื่อรุนแรงดังกล่าวอำนาจของสื่อกำหนดเพิ่มขึ้นความเข้มระหว่างสงครามอ่าวว่ารัฐบาลตอบสนองต่อวิกฤตระหว่างประเทศ แน่นอน ตลอดปี 1990คนระบุ 'CNN ผล' ที่ทหารไม่สามารถใช้งานในการโหมด pre-emptive (นั่นคือ การควบคุมและ censoring ผู้สื่อข่าวในระหว่างสงคราม), แต่ตอนนี้ ทำงานในโหมดปฏิกิริยาที่มันถูกบังคับให้ตอบ – บางครั้งการท– การอ่าน ด้วยสื่อการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่มันก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าความสัมพันธ์ของสื่อทางทหารการเปลี่ยนแปลง
อย่างมีนัยสำคัญในสงครามอ่าว หากเวียดนามเป็นสงครามโทรทัศน์เป็นครั้งแรกแล้วนี้เป็น
สงครามข้อมูลแรกที่เป็นครั้งแรกข่าวที่ออกอากาศ 24/7 ทั้งหมด
ทั่วโลก นั่นหมายความว่าข่าวที่ได้รับการถ่ายทอดในเวลาจริงในช่อง
เช่น CNN และผู้คนสามารถดูภาพสดของขีปนาวุธสกั๊ดถูกเปิด
ทิ้งระเบิดและทหารอาวุธยิง ผู้สื่อข่าวผู้สื่อข่าวกดทหาร
เจ้าหน้าที่บรรณาธิการและผู้ผลิตข่าวถูกบังคับให้ปรับตัวเข้ากับที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
วงจรข่าวที่พวกเขาตอบสนองต่อการ 'อาหารสด' ภาพโดยปกติ
บริบทหรือพื้นหลัง - และพวกเขาทำอย่างนี้ตลอดเวลา สื่อดังกล่าวที่รุนแรง
อิ่มตัวในช่วงสงครามอ่าวเพิ่มพลังของสื่อเพื่อตรวจสอบ
ว่ารัฐบาลตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศ อันที่จริงตลอดทั้งปี 1990 ที่
คนระบุ 'ผลกระทบของซีเอ็นเอ็นซึ่งในทางทหารไม่ได้ทำงานใน
โหมด pre- จอง (นั่นคือการควบคุมและเซ็นเซอร์ผู้สื่อข่าวในช่วงสงคราม) แต่
ตอนนี้ทำงานในโหมดปฏิกิริยาที่ถูกบังคับให้ ตอบสนอง - บางครั้งทหาร
- ปัญหาการเลี้ยงดูจากสื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าสื่อความสัมพันธ์ทางทหารเปลี่ยน
อย่างมากในสงครามอ่าว ถ้าเป็นสงครามเวียดนามทีวีก่อน แล้วนี่
สงคราม ข้อมูลแรกที่ , ครั้งแรก , ข่าวที่ออกอากาศ 24 / 7
ทั่วโลกทั้งหมด แสดงว่าข่าวที่ถูกถ่ายทอดในเวลาจริงบนสถานี
เช่น CNN ,และประชาชนสามารถดูภาพสดของขีปนาวุธสกั๊ดถูกเปิดตัว , ระเบิดและอาวุธระเบิด
ทหารยิง นักข่าว , ผู้สื่อข่าว , เจ้าหน้าที่กด
ทหาร , บรรณาธิการและผู้ผลิตข่าวถูกบังคับให้เข้ากับลดลงอย่างมาก
ข่าวรอบที่พวกเขาตอบสนองต่อ ' ' ภาพถ่ายทอดสดโดยไม่มีบริบทปกติ
หรือ–พื้นหลังและพวกเขาทำนี้ตลอดเวลา เช่นสื่อ
เข้มข้นความอิ่มตัวในช่วงสงครามอ่าวเพิ่มอำนาจของสื่อในการตรวจสอบรัฐบาลตอบสนองต่อวิกฤต
วิธีสากล แน่นอน ตลอดทศวรรษ 1990
คนระบุ ' ซีเอ็นเอ็นผล ' ซึ่งในทหารไม่ทำงานในโหมด emptive
ก่อน ( นั่นคือ การควบคุมและการตัดทอนผู้สื่อข่าวในระหว่างสงคราม ) แต่ตอนนี้ทำงานในโหมด
ปฏิกิริยาที่ถูกบังคับให้ตอบสนองทางทหาร
) บางครั้งและปัญหาที่เกิดขึ้น โดยสื่อ