ฐานที่ ๑ ประวัติปราสาท ปรางค์กู่กลางอำเภอปรางค์กู่ มีหมู่บ้านชาวกูยเล็ การแปล - ฐานที่ ๑ ประวัติปราสาท ปรางค์กู่กลางอำเภอปรางค์กู่ มีหมู่บ้านชาวกูยเล็ ไทย วิธีการพูด

ฐานที่ ๑ ประวัติปราสาท ปรางค์กู่กลา

ฐานที่ ๑ ประวัติปราสาท ปรางค์กู่
กลางอำเภอปรางค์กู่ มีหมู่บ้านชาวกูยเล็ก ๆ ที่ชัดเจนเอกลักษณ์ทั้งภาษาพูด เครื่องแต่งกาย และวิถีชีวิตรวมถึงวัฒนธรรมอันน่าศึกษา ศานสถานแห่งหนึ่งเคียงคู่พวกเขามาเนิ่นนาน เก่าแก่ก่อนการมาปักหลักฝังราก ยาวไกลไปจนถึงสมัยวัฒนธรรมขอมแผ่คลุมพื้นที่อีสานใต้ ตัวปรางค์ก่อด้วยแผ่นอิฐยกแผ่น คล้ายที่ปราสาทศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ตกทอดความเก่าแก่มานานับพันปี จากคติฮินดูสู่การนับถือพุทธที่สังเกตได้จากยอดขององค์ปรางค์ รายรอบด้วยบาราย-สระน้ำโบราณตามแผนผัง การสร้างอโรคยาศาลของขอมโบราณ ที่ยามเมื่อหน้าหนาวมาเยือน บารายแห่งนี้คือที่พักของนกอพยพมากมายอย่างเป็ดแดง เป็ดก่า เป็นอีกความรื่นรมย์บนแผ่นดินโบราณที่สัมผัสได้หากผ่านมาเยือนปราสาทปรางค์กู่ ทับหลังและลวดลายจำหลักแม้ลบเลือน หากทว่าทางกรมศิลปากรได้จัดสร้างทับหลังองค์จำลองไว้ที่ด้านหน้าปราสาท ให้คุณสามารถทอดตามองรูปรอยเชิงช่างอันวิจิตรในการแกะสลักแผ่นหินเพื่อสะท้อนคติความเชื่อทางศาสนาของผู้คในยุคโบราณนับพันปีก่อน กลางแผ่นหิน ลวดลาย และความขรึมขลังเงียบงันของโบราณสถานแห่งหนึ่ง หากใครสักคนได้มาเยือนปราสาทปรางค์กู่ ที่ตรงนั้นพร้อมที่จะยืนยันอย่างชัดเจนว่า แผ่นดินใดแผ่นดินหนึ่งล้วนมีประวัติศาสตร์เป็นของตนเองเก่าแก่และคงทนตราบเท่าที่ผู้คนตรงนั้นยังหวงแหนและพร้อมจะเก็บรักษามันไว้การเดินทาง ปราสาทปรางค์กู่สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางศรีสะเกษ-สุรินทร์ แยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2234 หรือเส้นทางศรีสะเกษ-ขุขันธ์ แยกขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2167 ปรางค์กู่อยู่ห่างจากตัวอำเภอปรางค์กู่ ประมาณ 10 กิโลเมตร
ฐานที่ 2 พิพิธภัณฑ์ เครื่องใช้โบราณชาวกูย
ได้มีใช้ขึ้นมาตั้งแต่ สมัย กรุงศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันได้มี การ เก็บรักษาไว้ ณ วัดบ้าน กู่ เพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาได้เข้าชม เครื่องมือเครื่องใช้ได้มีหลายอย่าง ได้แก่ ดาบ ไม้พาย ไห หีบเก็บสมบัติ ตะกร้าที่สานจากไม้ไผ่ ไม้หาบ เขาควาย กระบวย ตะกร้าใส่เสื้อผ้า เตียงไม้โบราณ กระบอกเก็บเอกสาร ฆ้อง ระฆัง เครื่องมือ อุปกรณ์การทอผ้า และอื่นๆ
นอกจากเครื่องมือ จะบ่งบอกถึง วิถีความเป็นอยู่แล้ว มันก็ยังบอกถึงความเจริญทางวัฒนธรรม และที่สำคัญคือ ความเป็นปราชญ์ด้านภูมิปัญญา ของบรรรพบุรุษเรา ที่สามารถประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือ มาเป็นสิ่งประกอบในการทำมาหากินของบรรพบุรุษเราในสมัยนั้น
ฐานที่ 3 การแต่งกาย ของชาวกูย
การแต่งกายของเผ่ากูยจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ซึ่งการแต่งกายของชายและหญิงจะไม่เหมือนกัน ผู้หญิง จะใส่เสื้อแก๊ป
ผ้าถุง และก็ สไบ ส่วนผู้ชายก็จะมีเสื้อแก๊ป แขน นุ่งสโร่ง สไบพาดไหล่ทั้ง 2 ข้าง และมีผ้าขาวม้าคาดเอว


ฐานที่ 4 อาหาร พื้นบ้าน
กือแหวกือตาม (แกงมันปู) เรียกเป็นภาษาไทยกลางว่า แกงมันปูเป็นอาหารพื้นบ้านที่
ชาวกูยนิยมและมีมาแต่ดั้งเดิม มีส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนี้
1. ปู 2. พริกแห้ง 3. ข่า 4. ตะไคร้ 5. กระชาย 6. หอมแดง 7. กระเทียม 8. ยอดมะขามหรือมะขามเปียก 9.กบ 10. เกลือ / น้ำาปลา
10. ใบกะเพรา
กือแหวกือตาม ตามสูตรชาวกูยบ้านกู่ มีขั้นตอนวิธีทำ ดังนี้
1. หากะปูหรือ กือตามให้ได้ประมาณพอแกง แล้วเอากะปูล้างน้ำให้สะอาดแล้วแกะ
ส่วนที่เป็นขี้ออก เอาส่วนที่กินได้ใส่ครก ตาให้ละเอียด ตักออกจากครกใส่ภาชนะ เทน้ำสะอาดพอประมาณ กรองเอาแต่น้ำ
2. ขั้นตอนต่อไปเตรียมพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ กระชาย หอม กระเทียม ให้เหมาะสมกับ น้ำกะปูที่กรองเอาไว้ แล้วเอาใส่ครกตำให้ละเอียด ปรุงใส่น้ำกะปูที่กรองไว้
3. ตั้งหม้อต้มน้ำกะปูที่ปรุงเครื่องแล้วพอน้ำเดือดใส่ยอดมะขามหรือมะขามเปียก หรือ จะใส่ผักดอกแคก็ได้ถ้ามี ใส่เกลือ หรือน้ำปลาและใบกะเพรา (ในอดีตไม่มีผงชูรส) ทิ้งไ ว้ให้หม้อแกงเดือด พอสุกชิมดูรสอาหารได้พอดีแล้วยก ลงจากเตาไฟ รับประทานได้
ความรู้สึกและความประทับใจ
ในการไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ ที่บ้านกู่ ครั้งนี้ ทำให้ ดิฉันได้เห็นถึงวัฒนธรรมของ ชาวบ้านหลายๆด้าน เช่น การแต่งกาย การพูดที่มีภาษาที่เป็น เอกลักษณ์ ประวัติความเป็นมาของปราสาทปรางค์กู่ ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ อาหารพื้นบ้านที่แสนอร่อย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ฐานที่ ๑ ประวัติปราสาทปรางค์กู่กลางอำเภอปรางค์กู่ มีหมู่บ้านชาวกูยเล็ก ๆ ที่ชัดเจนเอกลักษณ์ทั้งภาษาพูด เครื่องแต่งกาย และวิถีชีวิตรวมถึงวัฒนธรรมอันน่าศึกษา ศานสถานแห่งหนึ่งเคียงคู่พวกเขามาเนิ่นนาน เก่าแก่ก่อนการมาปักหลักฝังราก ยาวไกลไปจนถึงสมัยวัฒนธรรมขอมแผ่คลุมพื้นที่อีสานใต้ ตัวปรางค์ก่อด้วยแผ่นอิฐยกแผ่น คล้ายที่ปราสาทศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ตกทอดความเก่าแก่มานานับพันปี จากคติฮินดูสู่การนับถือพุทธที่สังเกตได้จากยอดขององค์ปรางค์ รายรอบด้วยบาราย-สระน้ำโบราณตามแผนผัง การสร้างอโรคยาศาลของขอมโบราณ ที่ยามเมื่อหน้าหนาวมาเยือน บารายแห่งนี้คือที่พักของนกอพยพมากมายอย่างเป็ดแดง เป็ดก่า เป็นอีกความรื่นรมย์บนแผ่นดินโบราณที่สัมผัสได้หากผ่านมาเยือนปราสาทปรางค์กู่ ทับหลังและลวดลายจำหลักแม้ลบเลือน หากทว่าทางกรมศิลปากรได้จัดสร้างทับหลังองค์จำลองไว้ที่ด้านหน้าปราสาท ให้คุณสามารถทอดตามองรูปรอยเชิงช่างอันวิจิตรในการแกะสลักแผ่นหินเพื่อสะท้อนคติความเชื่อทางศาสนาของผู้คในยุคโบราณนับพันปีก่อน กลางแผ่นหิน ลวดลาย และความขรึมขลังเงียบงันของโบราณสถานแห่งหนึ่ง หากใครสักคนได้มาเยือนปราสาทปรางค์กู่ ที่ตรงนั้นพร้อมที่จะยืนยันอย่างชัดเจนว่า แผ่นดินใดแผ่นดินหนึ่งล้วนมีประวัติศาสตร์เป็นของตนเองเก่าแก่และคงทนตราบเท่าที่ผู้คนตรงนั้นยังหวงแหนและพร้อมจะเก็บรักษามันไว้การเดินทาง ปราสาทปรางค์กู่สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางศรีสะเกษ-สุรินทร์ แยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2234 หรือเส้นทางศรีสะเกษ-ขุขันธ์ แยกขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2167 ปรางค์กู่อยู่ห่างจากตัวอำเภอปรางค์กู่ ประมาณ 10 กิโลเมตรเครื่องใช้โบราณชาวกูยพิพิธภัณฑ์ฐานที่ 2 ได้มีใช้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งปัจจุบันได้มีตามหลักเก็บรักษาไว้ณวัดบ้านกู่เพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาได้เข้าชมเครื่องมือเครื่องใช้ได้มีหลายอย่างได้แก่ดาบไม้พายไหหีบเก็บสมบัติตะกร้าที่สานจากไม้ไผ่ไม้หาบเขาควายกระบวยตะกร้าใส่เสื้อผ้าเตียงไม้โบราณกระบอกเก็บเอกสารฆ้องระฆังเครื่องมืออุปกรณ์การทอผ้าและอื่น ๆ นอกจากเครื่องมือจะบ่งบอกถึงวิถีความเป็นอยู่แล้วมันก็ยังบอกถึงความเจริญทางวัฒนธรรมและที่สำคัญคือความเป็นปราชญ์ด้านภูมิปัญญาของบรรรพบุรุษเราที่สามารถประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือมาเป็นสิ่งประกอบในการทำมาหากินของบรรพบุรุษเราในสมัยนั้น ฐานที่ 3 การแต่งกายของชาวกูยการแต่งกายของเผ่ากูยจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นซึ่งการแต่งกายของชายและหญิงจะไม่เหมือนกันผู้หญิงจะใส่เสื้อแก๊ปและมีผ้าขาวม้าคาดเอวผ้าถุงและก็สไบส่วนผู้ชายก็จะมีเสื้อแก๊ปแขนนุ่งสโร่งสไบพาดไหล่ทั้ง 2 ข้าง ฐานที่ 4 พื้นบ้านอาหารกือแหวกือตาม (แกงมันปู) เรียกเป็นภาษาไทยกลางว่าแกงมันปูเป็นอาหารพื้นบ้านที่ชาวกูยนิยมและมีมาแต่ดั้งเดิมมีส่วนประกอบที่สำคัญดังนี้ 1. ปู 2 พริกแห้ง 3 ข่า 4 ตะไคร้ 5 กระชาย 6 หอมแดง 7 กระเทียม 8 ยอดมะขามหรือมะขามเปียก 9.กบ 10 เกลือ / น้ำาปลา 10. ใบกะเพรา กือแหวกือตามตามสูตรชาวกูยบ้านกู่มีขั้นตอนวิธีทำดังนี้ 1. หากะปูหรือกือตามให้ได้ประมาณพอแกงแล้วเอากะปูล้างน้ำให้สะอาดแล้วแกะส่วนที่เป็นขี้ออกเอาส่วนที่กินได้ใส่ครกตาให้ละเอียดตักออกจากครกใส่ภาชนะเทน้ำสะอาดพอประมาณกรองเอาแต่น้ำ2. ขั้นตอนต่อไปเตรียมพริกแห้งข่าตะไคร้กระชายหอมกระเทียมให้เหมาะสมกับน้ำกะปูที่กรองเอาไว้แล้วเอาใส่ครกตำให้ละเอียดปรุงใส่น้ำกะปูที่กรองไว้3. ตั้งหม้อต้มน้ำกะปูที่ปรุงเครื่องแล้วพอน้ำเดือดใส่ยอดมะขามหรือมะขามเปียกหรือจะใส่ผักดอกแคก็ได้ถ้ามีใส่เกลือหรือน้ำปลาและใบกะเพรา (ในอดีตไม่มีผงชูรส) ทิ้งไว้ให้หม้อแกงเดือดพอสุกชิมดูรสอาหารได้พอดีแล้วยกลงจากเตาไฟรับประทานได้ ความรู้สึกและความประทับใจในการไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่บ้านกู่ครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวบ้านหลายๆด้านเช่นการแต่งกายการพูดที่มีภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ประวัติความเป็นมาของปราสาทปรางค์กู่ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ อาหารพื้นบ้านที่แสนอร่อย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ฐานที่ 1 ปราสาทปรางค์กู่ประวัติ
กลางอำเภอปรางค์กู่มีหมู่บ้านชาวกูยเพิ่มข้อมูลที่ ๆ ที่ชัดเจนเอกลักษณ์ทั้งภาษาพูดเครื่องแต่งกาย เก่าแก่ก่อนการมาปักหลักฝังราก ตัวปรางค์ก่อด้วยแผ่นอิฐยกแผ่น คล้ายที่ปราสาทศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์ตกทอดความเก่าแก่มานานับพันปี การสร้างอโรคยาศาลของขอ มโบราณที่ยามเมื่อหน้าหนาวมาเยือน เป็ดก่า ทับหลังและลวดลายจำหลักแม้ลบเลือน กลางแผ่นหินลวดลาย ปราสาทปรางค์กู่สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทางคือเส้นทางศรีสะเกษ - สุรินทร์แยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2234 หรือเส้นทางศรีสะเกษ - ขุขันธ์แยกขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2167 ประมาณ 10 กิโลเมตร
ฐานที่ 2 พิพิธภัณฑ์
สมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งปัจจุบันได้มีการ เก็บรักษาไว้ ณ วัดบ้านกู่เพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาได้เข้าชม ดาบไม้ ได้แก่ พายไหหีบสมบัติเก็บตะกร้าที่สานจากเนชั่ไม้ไผ่ไม้หาบเขาควายกระบวยตะกร้าใส่เสื้อผ้าเตียงไม้โบราณกระบอกเก็บเอกสารฆ้องระฆังเครื่องมืออุปกรณ์หัวเรื่อง: การคุณทอผ้าและอื่น ๆ
นอกจากเครื่องมือจะบ่งนี่เพื่อดูรูปภาพถึงวิถีความสามารถเป็นขณะนี้แล้ว และที่สำคัญคือความเป็นปราชญ์ด้าน ภูมิปัญญาของบรรรพบุรุษเราที่สามารถประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือ
3 การแต่งกาย
ผู้หญิงรูปจะใส่เสื้อแก๊ป
ผ้าถุงและก็สไบส่วนผู้ชายก็จะมีเสื้อแก๊ปแขนนุ่งสโร่งสไบพาดไหล่ทั้ง 2 ข้างและมีผ้าขาวม้าคาดเอวฐานที่ 4 อาหารพื้นบ้านกืหนังสืออแหวกืหนังสืออตาม (แกงมันปู) เรียกเป็นภาษา ไทยกลางว่า มีส่วนประกอบที่สำคัญดังนี้1 ปู 2. พริกแห้งข่า 3. 4. 5. ตะไคร้กระชาย 6. หอมแดงกระเทียม 7. 8. ยอดมะขามหรือมะขามเปียก 9. กบ 10. เกลือ / น้ำาปลา10 กะเพราคุณใบกืหนังสืออแหวกืหนังสืออตามตามสูตรชาวกูยร้านบ้านกู่มีขั้นตอนวิธีทำดังนี้1 หากะปูหรือกือตามให้ได้ ประมาณพอแกง เอาส่วนที่กินได้ใส่ครกตา ให้ละเอียดตักออกจากครกใส่ภาชนะเทน้ำสะอาดพอประมาณกรองเอาแต่น้ำ 2 ขั้นตอนต่อไปเตรียมพริกแห้งข่า ตะไคร้กระชายหอมกระเทียมให้เหมาะสมกับน้ำกะปูที่กรองเอาไว้แล้วเอาใส่ครกตำให้ละเอียดปรุงใส่น้ำกะปูที่กรองไว้ 3 หรือจะใส่ผักดอกแคก็ได้ถ้า มีใส่เกลือหรือน้ำปลาและใบกะเพรา (ในอดีตไม่มีผงชูรส) ทิ้งไว้ให้หม้อแกงเดือดพอสุก ชิมดูรสอาหารได้พอดีแล้วยกลงจากเตาไฟ ที่บ้านกู่ครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้ เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวบ้านหลาย ๆ ด้านเช่นการแต่งกายการพูดที่มีภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ อาหารพื้นบ้าน ที่แสนอร่อย














การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ฐานที่๑ประวัติปราสาทปรางค์กู่กลางอำเภอปรางค์กู่มีหมู่บ้านชาวกูยเล็กจะที่ชัดเจนเอกลักษณ์ทั้งภาษาพูดเครื่องแต่งกายและวิถีชีวิตรวมถึงวัฒนธรรมอันน่าศึกษาศานสถานแห่งหนึ่งเคียงคู่พวกเขามาเนิ่นนานเก่าแก่ก่อนการมาปักหลักฝังรากยาวไกลไปจนถึงสมัยวัฒนธรรมขอมแผ่คลุมพื้นที่อีสานใต้ตัวปรางค ์ก่อด้วยแผ่นอิฐยกแผ่นคล้ายที่ปราสาทศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์ตกทอดความเก่าแก่มานานับพันปีจากคติฮินดูสู่การนับถือพุทธที่สังเกตได้จากยอดขององค์ปรางค์รายรอบด้วยบาราย - สระน้ำโบราณตามแผนผังการสร้างอโรคยาศาลของขอมโบราณที่ยามเมื่อหน้าหนาวมาเยือนบารายแห่งนี้ค ือที่พักของนกอพยพมากมายอย่างเป็ดแดงเป็ดก่าเป็นอีกความรื่นรมย์บนแผ่นดินโบราณที่สัมผัสได้หากผ่านมาเยือนปราสาทปรางค์กู่ทับหลังและลวดลายจำหลักแม้ลบเลือนหากทว่าทางกรมศิลปากรได้จัดสร้างทับหลังองค์จำลองไว้ที่ด้านหน้าปราสาทให้คุณสามารถทอดตามองรูปรอยเชิงช่า งอันวิจิตรในการแกะสลักแผ่นหินเพื่อสะท้อนคติความเชื่อทางศาสนาของผู้คในยุคโบราณนับพันปีก่อนกลางแผ่นหินลวดลายและความขรึมขลังเงียบงันของโบราณสถานแห่งหนึ่งหากใครสักคนได้มาเยือนปราสาทปรางค์กู่ที่ตรงนั้นพร้อมที่จะยืนยันอย่างชัดเจนว่าแผ่นดินใดแผ่นดินหนึ่ง ล้วนมีประวัติศาสตร์เป็นของตนเองเก่าแก่และคงทนตราบเท่าที่ผู้คนตรงนั้นยังหวงแหนและพร้อมจะเก็บรักษามันไว้การเดินทางปราสาทปรางค์กู่สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทางความเส้นทางศรีสะเกษ - สุรินทร์แยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2234 หรือเส้นทางศรีสะเกษ - ขุขันธ์แยกขวาเข้า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1446 ปรางค์กู่อยู่ห่างจากตัวอำเภอปรางค์กู่ประมาณ 10 กิโลเมตรฐานที่ 2 พิพิธภัณฑ์เครื่องใช้โบราณชาวกูยได้มีใช้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งปัจจุบันได้มีการเก็บรักษาไว้ณวัดบ้านกู่เพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาได้เข้าชมเครื่องมือเครื่องใช้ได้มีหลายอย่างได้แก่ดาบไม้พายไหหีบเก็บสมบัติตะกร้าที่สานจากไม้ไผ่ไม้หาบเขาควายกระบวยตะกร้าใส่เสื้อผ้าเตียงไม้ โบราณกระบอกเก็บเอกสารฆ้อง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: