‘Ashura’ commemorates the day that

‘Ashura’ commemorates the day that Allah saved the Children of Israel from Pharaoh.

Fasting on Muharram 10, known as the Day of ‘Ashura’, expiates for the sins of the past year. When the Prophet (peace and blessings be upon him) arrived in Madinah in 622 CE, he found that the Jews there fasted on Muharram 10 and asked them the reason for their fasting on this day. They said,” This is a blessed day. On this day Allah saved the Children of Israel from their enemy (in Egypt) and so Prophet Musa [Moses] fasted on this day giving thanks to Allah.”

The Prophet (peace and blessings be upon him) said,

“We are closer to Musa than you are.”

He fasted on that day and commanded Muslims to fast on this day. (Al-Bukhari) The following year, Allah commanded the Muslims to fast the month of Ramadan, and the fasting of ‘Ashura’ became optional. It is also reported that the Prophet (peace and blessings be upon him) intended to fast on the ninth and tenth. Ibn ‘Abbas reported: The Messenger of Allah fasted on the day of ‘Ashura’ and ordered the people to fast on it. The people said, “O Messenger of Allah, it is a day that the Jews and Christians honor.” The Prophet said, “When the following year comes, Allah willing, we shall fast on the ninth.” The death of the Prophet came before the following year. (Muslim and Abu Dawud) For more on ‘Ashura’ and Muharram, please read: The Significance of Fasting the Day of ‘Ashura’ Virtues of the Month of Muharram & Fasting during It

Thus, according to scholars, you may choose to fast ‘Ashura’ on three days (ninth, tenth, and eleventh); two days (ninth and tenth); or one day only (the tenth). The Prophet (peace and blessings be upon him) said, “Fasting the day of ‘Ashura’ (is of great merits), I hope that Allah will accept it as an expiation for (the sins committed in) the previous year.” (Muslim) But this expiation of minor sins comes only if you avoid major sins. It is a big mistake to rely on fasting a single day to “wipe your slate clean.” If you neglect your daily Prayers or the fast of Ramadan, or if you backbite, lie, commit adultery or other major sins, fasting on ‘Ashura’ alone will not atone for your sins.

The great scholar Ibn Al-Qayyim Al-Jawziyya (b. 691 AH/1292 CE) wrote: This misguided person does not know that fasting in Ramadan and praying five times a day are much more important than fasting on the Day of Arafah and the Day of ‘Ashura’, and that they expiate for the sins between one Ramadan and the next, or between one Friday and the next, so long as one avoids major sins. But they cannot expiate for minor sins unless one also avoids major sins; when the two things are put together, they have the strength to expiate for minor sins. Among those deceived people may be one who thinks that his good deeds are more than his sins, because he does not pay attention to his bad deeds or check on his sins, but if he does a good deed he remembers it and relies on it.

This is like the one who seeks Allah’s forgiveness with his tongue (that is, by words only), and glorifies Allah by saying “subhan Allah” one hundred times a day, then he backbites about the Muslims and slanders their honor, and speaks all day long about things that are not pleasing to Allah. This person is always thinking about the virtues of his saying “subhan Allah” and saying “la ilaha illa Allah” but he pays no attention to what has been reported concerning those who backbite, tell lies, and slander others, or commit other sins of the tongue. They are completely deceived. (Al-Mawsu’ah Al-Fiqhiyyah, part 31, Ghuroor) You may hear of some customs associated with ‘Ashura’ such as cooking and eating certain foods on that day, wearing kohl or henna, or even merrymaking. Others consider this a day of mourning and wailing in honor of the Prophet’s grandson Al-Husayn, who was killed in battle on that day. The scholar Ibn Taymiyah (b. 661 AH/1263 CE) stated that all of these are bid’ahs (reprehensible innovations) that should be avoided. Take advantage of this opp

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

'ชูรออ์' รำลึกถึงวันที่อัลลอฮบันทึกเด็กของอิสราเอลจากฟาโรห์การถือศีลอดใน 10 มุฮัรรอม เป็นวัน 'ชูรออ์' expiates บาปของปีผ่านมา เมื่อผู้เผยพระวจนะ (ความสงบสุขและพระพรพระองค์) มาถึงมะดีนะห์ใน 622 CE เขาพบว่า ชาวยิวมีอดบน 10 มุฮัรรอม และถามพวกเขาสำหรับการถือศีลอดในวันนั้น พวกเขากล่าวว่า นี่คือวันที่ความสุข ในวันนี้ อัลลอฮบันทึกเด็กของอิสราเอลจากศัตรูของพวกเขา (อียิปต์) และดังนั้น นบีมูซา [โมเสส] อดวันให้ขอบคุณอัลลอฮ"ศาสดา (ความสงบสุขและพระพรพระองค์) กล่าว"เราจะใกล้ชิดกับมูซามากกว่าคุณอยู่"เขาอดในวันนั้น และชักมุสลิมอย่างรวดเร็วในวันนี้ (คอรี) ปีต่อไป อัลลอฮบัญชามุสลิมกับเดือนรอมฎอนที่รวดเร็ว และการถือศีลอดอาชู 'รออ์' กลายเป็นตัวเลือก มีรายงานที่ผู้เผยพระวจนะ (ความสงบสุขและพระพรพระองค์) ได้รับอย่างรวดเร็วบน 9 และ 10 อิบ ' อับบาสรายงาน: การของอัลลอฮอดในวันที่ 'ชูรออ์' และสั่งคนไปอย่างรวดเร็ว คนที่กล่าวว่า "O ลอฮ มันเป็นวันที่ชาวยิวและชาวคริสต์ให้เกียรติ" ท่านนบีกล่าวว่า "เมื่อปีต่อมา ยินดี อัลลอฮเราจะอย่างรวดเร็วบน 9" การตายของผู้เผยพระวจนะก่อนปีต่อมา (มุสลิมและอบู Dawud) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 'ชูรออ์' และมุฮัรรอม โปรดอ่าน: สำคัญการถือศีลอดวัน 'ชูรออ์' ความประเสริฐของเดือนมุฮัรรอมและศีลอดในช่วงนั้นดังนั้น ตามที่นักวิชาการ คุณอาจเลือกอย่างรวดเร็ว 'ชูรออ์' สามวัน (เก้า สิบ และสิบเอ็ด); วันที่สอง (และสิบ); หรือหนึ่งวันเท่านั้น (ที่สิบ) ศาสดา (ความสงบสุขและพระพรพระองค์) กล่าวว่า, "การถือศีลอดวันอาชู 'รออ์' (เป็นยอดบุญ), หวังว่า อัลลอฮจะยอมรับเป็นการ expiation (บาปใน) ปี. " (มุสลิม) แต่นี้ expiation บาปรองมาถ้าคุณหลีกเลี่ยงบาป มันเป็นความผิดพลาดใหญ่พึ่งถือศีลอดวันเดียว "ความสะอาดของคุณกระดานชนวน" หากคุณละเลยการละหมาดหรือเร็วของเดือนรอมฎอน หรือถ้าคุณ backbite โกหก กระทำชู้หรืออื่น ๆ บาป ศีลบน 'ชูรออ์' เพียงอย่างเดียวจะไม่ชดใช้บาปของคุณนักวิชาการดีอิบนุก็อยยิมอัลอัล-Jawziyya (b. 691 AH/1292 CE) เขียน: บุคคลนี้ผิด ๆ ไม่ทราบว่าการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และละหมาดวันละห้าครั้งสำคัญยิ่งกว่าการถือศีลอดในวัน Arafah และวันของ 'ชูรออ์' และ ที่พวกเขา expiate บาป ระหว่างหนึ่งเดือนรอมฎอนและถัดไป หรือ ระหว่างวันศุกร์ที่หนึ่ง และถัดไป ตราบใดที่หนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงบาป แต่พวกเขาไม่สามารถ expiate บาปเล็กน้อยเว้นแต่หนึ่งหลีกเลี่ยงบาป เมื่อสองสิ่งที่จะใส่กัน พวกเขามีกำลังที่จะ expiate ความผิดบาปที่เล็กน้อย ในหมู่คนเหล่านั้นหลอกอาจเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า ของเขาดีมีมากกว่าบาป เพราะเขาไม่สนใจกับคำพูดของเขาไม่ดี หรือตรวจสอบในบาป แต่ถ้าเขาไม่กระทำดี เขาจดจำมัน และใช้มันนี้เป็นเหมือนผู้ที่อัลลอฮบาป ด้วยลิ้นของเขาพยายาม (นั่นคือ โดยเฉพาะคำ), และ glorifies อัลลอฮ ด้วยการพูดว่า " subhan อัลลอฮ" หนึ่งร้อยครั้งต่อวัน แล้วเขา backbites เกี่ยวกับมุสลิม และ slanders เกียรติของพวกเขา และพูดตลอดวันเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่พอพระทัยของอัลลอฮ คนนี้อยู่เสมอความคิดเกี่ยวกับคุณค่าของเขาว่า " subhan อัลลอฮ" และพูดว่า "ลามุสลิมอิลลัลลอฮ" แต่เขาน้อไม่มีอะไรได้รับรายงานเกี่ยวกับผู้ที่ backbite บอกด้วย และหมิ่นประมาทผู้อื่น หรือกระทำบาปอื่น ๆ ของลิ้น พวกเขาจะหลอกอย่างสมบูรณ์ (Al Mawsu'ah Al-Fiqhiyyah ส่วน 31, Ghuroor) คุณอาจได้ยินบางศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับ 'ชูรออ์' เช่นการปรุงอาหาร และรับประทานอาหารบางอย่างในวันนั้น สวมอาย หรือเฮนน่า หรือแม้กระทั่งมโหรสพ อื่น ๆ พิจารณานี้วันของการไว้ทุกข์ และ wailing ในเกียรติของหลานชายของท่านนบีอัล-Husayn ที่ถูกสังหารในการรบในวันนั้น นักวิชาการอิบ Taymiyah (b. 661 CE AH/1263) ที่ระบุว่า ทั้งหมดนี้ bid'ahs (reprehensible นวัตกรรม) ที่ควรหลีกเลี่ยง ใช้ประโยชน์จากนี้ opp

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

'Ashura' เอกราชวันที่อัลลอวงศ์วานของอิสราเอลรอดพ้นจากฟาโรห์. the

การถือศีลอดใน Muharram 10 ที่รู้จักกันเป็นวันที่ 'Ashura' expiates ความผิดบาปของปีที่ผ่านมา เมื่อพระศาสดา (สันติภาพและพระพรจะขึ้นเขา) มาถึงใน Madinah ใน 622 CE เขาพบว่ามีชาวยิวอดอาหารใน Muharram 10 และขอให้พวกเขามีเหตุผลสำหรับการอดอาหารของพวกเขาในวันนี้ พวกเขากล่าวว่า "นี่เป็นวันที่มีความสุข ในวันนี้อัลลอวงศ์วานของอิสราเอลรอดพ้นจากศัตรูของพวกเขา (ในอียิปต์) และเพื่อให้พระศาสดามูซา [โมเสส] อดอาหารในวันนี้ขอบพระคุณอัลลอ. "

พระศาสดา (สันติภาพและพระพรจะขึ้นเขา) กล่าวว่า

" เรามีความใกล้ชิดกับ มูซากว่าที่เป็นอยู่. "

เขาอดอาหารในวันนั้นและสั่งให้ชาวมุสลิมไปอย่างรวดเร็วในวันนี้ (อัลบุคอรี) ในปีต่ออัลลอบัญชาชาวมุสลิมอย่างรวดเร็วเดือนรอมฎอนด้วยการอดอาหารของ Ashura 'กลายเป็นตัวเลือก นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าพระศาสดา (สันติภาพและพระพรจะขึ้นเขา) ตั้งใจไปอย่างรวดเร็วในเก้าและสิบ อิบัน 'อับบาสรายงาน: สารของอัลลออดอาหารในวันที่' Ashura 'และสั่งให้คนที่จะอยู่กับมันได้อย่างรวดเร็ว คนที่กล่าวว่า "O สารของอัลเลาะห์มันเป็นวันที่ชาวยิวและชาวคริสต์เป็นเกียรติ." พระศาสดากล่าวว่า "เมื่อในปีต่อมาอัลลอยินดีที่เราจะรวดเร็วในเก้า." การตายของพระศาสดามา ก่อนที่ในปีต่อไป (มุสลิมและอาบู Dawud) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 'Ashura และ Muharram โปรดอ่าน: ความสำคัญของการถือศีลอดวันของคุณธรรม' Ashura ของเดือน Muharram และการถือศีลอดในช่วงมัน

ดังนั้นตามที่นักวิชาการคุณอาจเลือกที่จะรวดเร็ว ' Ashura 'ในวันที่สาม (เก้าสิบและสิบเอ็ด); สองวัน (เก้าและสิบ); หรือหนึ่งวันเท่านั้น (สิบ) ศาสดา (สันติภาพและพรจะขึ้นเขา) กล่าวว่า "การถือศีลอดวันที่ 'Ashura' (เป็นของประโยชน์ที่ดี) ผมหวังว่าอัลเลาะห์จะยอมรับว่ามันเป็นสิ่งไถ่โทษสำหรับ (บาปมุ่งมั่นใน) ในปีก่อนหน้านั้น." ( มุสลิม) แต่การลบล้างความผิดบาปเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้มาเฉพาะในกรณีที่คุณหลีกเลี่ยงความผิดบาปที่สำคัญ มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่จะพึ่งพาการถือศีลอดวันเดียวไปที่ "ล้างกระดานชนวนของคุณสะอาด." ถ้าคุณละเลยสวดมนต์ทุกวันของคุณอย่างรวดเร็วของเดือนรอมฎอนหรือถ้าคุณลอบกัด, โกหก, ล่วงประเวณีหรือบาปที่สำคัญอื่น ๆ อดอาหารที่ 'Ashura . คนเดียวจะไม่ชดใช้บาปของ

นักวิชาการที่ดี Ibn al-Qayyim อัล Jawziyya (b. 691 AH / 1292 ซีอี) เขียน: นี้คนเข้าใจผิดไม่ได้รู้ว่าการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนและอธิษฐานห้าครั้งต่อวันมีความสำคัญมากขึ้น กว่าการถือศีลอดในวัน Arafah และวันของ 'Ashura' และว่าพวกเขาลบล้างความผิดบาประหว่างหนึ่งเดือนรอมฎอนและต่อไปหรือระหว่างวันศุกร์และวันต่อไปตราบใดที่หนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดบาปที่สำคัญ แต่พวกเขาไม่สามารถลบล้างความผิดบาปเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าผู้ใดยังหลีกเลี่ยงบาปใหญ่ เมื่อสองสิ่งที่จะใส่กันพวกเขามีความแข็งแรงที่จะลบล้างความผิดบาปเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหมู่คนหลอกเหล่านั้นอาจจะเป็นหนึ่งที่คิดว่าการกระทำที่ดีของเขามีมากกว่าบาปของเขาเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำที่ไม่ดีของเขาหรือตรวจสอบเกี่ยวกับความผิดบาปของเขา แต่ถ้าเขาไม่ทำความดีเขาจำได้ว่ามันและอาศัยอยู่กับมัน

นี้เป็นเหมือนคนที่พยายามให้อภัยอัลลอกับลิ้นของเขา (นั่นคือคำพูดเท่านั้น) และเฉลิมพระบารมีอัลลอโดยกล่าวว่า "Subhan อัลเลาะห์" หนึ่งร้อยครั้งต่อวันแล้วเขา backbites เกี่ยวกับชาวมุสลิมและใส่ร้ายเกียรติของพวกเขาและพูดทั้งหมด วันที่ยาวนานเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบอัลเลาะห์ คนนี้อยู่เสมอคิดเกี่ยวกับคุณธรรมของเขาว่า "Subhan อัลเลาะห์" และบอกว่า "La ilaha Illa อัลเลาะห์" แต่เขาให้ความสำคัญกับสิ่งที่ได้รับรายงานเกี่ยวกับผู้ที่ลอบกัดบอกโกหกและใส่ร้ายผู้อื่นหรือกระทำบาปอื่น ๆ ไม่มี ลิ้น. พวกเขาถูกหลอกอย่างสมบูรณ์ (Al-Mawsu'ah Al-Fiqhiyyah ส่วน 31 Ghuroor) คุณอาจจะได้ยินเสียงของศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับ 'Ashura เช่นการปรุงอาหารและการรับประทานอาหารบางอย่างในวันนั้นสวมใส่ตาหรือเฮนน่าหรือแม้กระทั่งการเฉลิมฉลอง อื่น ๆ พิจารณานี้วันของการไว้ทุกข์และร่ำไห้ในเกียรติของพระศาสดาหลานชายของอัลฮุสเซนที่ถูกฆ่าตายในการต่อสู้ในวันที่ นักวิชาการอิบัน Taymiyah (ข. 661 AH / 1263 ซีอี) กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้เป็น bid'ahs (นวัตกรรมเลวทราม) ที่ควรหลีกเลี่ยง ใช้ประโยชน์จาก OPP นี้