Malaysia is a multi-ethnic nation w

Malaysia is a multi-ethnic nation where diverse cultures coexist in harmony. The majority Malay culture that is mainly Muslim thrives side by side with Chinese and Hindu communities. Blessed with tropical rainforest covering 70% of the land, Malaysia is known for its natural heritage. Taking advantage of its abundant natural resources, it traditionally had an economy based on rubber processing and tin mining. But since 1970, it has been actively attracting foreign capital and promoting industrialization based on manufacturing, which has led to a significant economic growth.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาเลเซียเป็นประเทศชาติที่วัฒนธรรมหลากหลายที่มีอยู่ในความสามัคคี วัฒนธรรมมลายูส่วนใหญ่ที่มุสลิมส่วนใหญ่เจริญเติบโต side by side with ชุมชนจีนและฮินดู พรกับป่าฝนเขตร้อนที่ครอบคลุม 70% ของแผ่นดิน มาเลเซียเป็นหนึ่งในมรดกของธรรมชาติ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มันแกะได้เศรษฐกิจการแปรรูปยางและทำเหมืองแร่ดีบุก แต่นับตั้งแต่ 1970 ได้อย่างดึงดูดเงินทุนต่างชาติ และส่งเสริมทวีความรุนแรงมากขึ้นอยู่กับการผลิต ซึ่งได้นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาเลเซียเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติที่หลากหลายทางวัฒนธรรมอยู่ร่วมกันในความสามัคคี วัฒนธรรมมลายูส่วนใหญ่ที่เป็นชาวมุสลิมส่วนใหญ่ปลูกสร้างอยู่เคียงข้างกับชุมชนชาวจีนและชาวฮินดู มีความสุขกับป่าฝนเขตร้อนที่ครอบคลุม 70% ของพื้นที่ประเทศมาเลเซียเป็นที่รู้จักสำหรับมรดกทางธรรมชาติของมัน การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ก็เป็นประเพณีที่มีเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการประมวลผลยางและการทำเหมืองดีบุก แต่ตั้งแต่ปี 1970 จะได้รับการแข็งขันการดึงดูดเงินทุนต่างประเทศและการส่งเสริมอุตสาหกรรมบนพื้นฐานของการผลิตซึ่งได้นำไปสู่​​การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาเลเซียเป็นประเทศที่วัฒนธรรมหลากหลายหลายเชื้อชาติอยู่ร่วมกันในความสามัคคี ส่วนใหญ่วัฒนธรรมมลายูที่เป็นมุสลิมส่วนใหญ่อาศัยอยู่เคียงข้างกับจีน และชุมชนฮินดู ความสุขกับป่าดิบชื้นครอบคลุม 70% ของดินแดนเขตร้อน มาเลเซีย เป็นที่รู้จักกันสำหรับมรดกทางธรรมชาติของมัน การใช้ประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติชุมมันแบบดั้งเดิมมีเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการประมวลผลของยางและดีบุกเหมืองแร่ แต่ตั้งแต่ปี 1970 มีการแข็งขันดึงดูดเงินทุนต่างประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้ในการผลิต ซึ่งได้นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ