รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การแปล - รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไทย วิธีการพูด

รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบร

รูปแบบการปกครอง

ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ

เมืองหลวง

กรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)

การแบ่งการปกครอง

แบ่งออกเป็น 12 เขต ได้แก่ เดรนท์ (Drenthe) ฟลีโวแลนด์ (Flevoland) ฟรายส์แลนด์ (Friesland, Fryslan) เกลเดอแลนด์ (Gelderland) โกรนิเจน (Groningen) ลิมเบอร์ก (Limburg) บราบันท์เหนือ (Noord-Brabant, North Brabant) ฮอลแลนด์เหนือ (Noord-Holland, North Holland) โอเวอรีจเซล (Overijssel) อูเทรชท์ (Utrecht) ซีแลนด์ (Zeeland, Zealand) และฮอลแลนด์ใต้ (Zuid-Holland, South Holland)

วันที่ได้รับเอกราช

23 มกราคม พ.ศ. 2122

วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

พ.ศ. 2358

ระบบกฏหมาย

กฎหมายบ้านเมืองนำหลักกฎหมายของฝรั่งเศสมาใช้ มีการนำเอากฎจากศาลโลกมาใช้ร่วม

พรรคการเมือง

พรรค Christian Democratic Appeal (CDA) พรรค Christian Union Party พรรค Democrats 66 (D66) พรรค Green Left Party พรรค Labor Party (PvdA) พรรค Party for Freedom (PVV) พรรค Party for the Animals (PvdD) พรรค People's Party for Freedom and Democracy (เสรีนิยม) (VVD) พรรค Reformed Political Party of SGP พรรค Socialist Party และยังมีพรรคย่อยอื่นๆอีกมากมาย

เนเธอร์แลนด์ (the Netherlands) หรือที่มักเรียกกันว่า ฮอลแลนด์ (Holland) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (Kingdom of the Netherlands) มีรากศัพท์มาจากคำว่า “Neder” หรือ “ต่ำ” เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่ม และพื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เนเธอร์แลนด์ได้ปรับพื้นที่โดยการสูบน้ำออกจากทะเลสาบและทางน้ำต่างๆ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ เนเธอร์แลนด์จึงมีเขื่อน ทางระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศประสบภาวะอุทกภัย เนเธอร์แลนด์จึงมีสิ่งก่อสร้างด้านวิศวกรรมการจัดการน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศยุโรปตะวันตกขนาดเล็ก มีพื้นที่ 41,528 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 16.3 ล้านคน เป็นประเทศหนึ่งที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก มีอัตราส่วนประชากร 387 คน ต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร ประชากรเกือบครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 7 ล้านคนอาศัยอยู่ในสี่เมืองทางภาคตะวันตกของประเทศ คือ อัมสเตอร์ดัม เฮก รอตเตอร์ดัม และอูเทรค บริเวณนี้เรียกว่า แลนด์สตัด มีชาวต่างชาติโยกย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานในเนเธอร์แลนด์ประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศในยุโรป ตุรกี โมร็อกโก เนเธอร์แลนด์แอนไทลิส และอารูบา (ดินแดนโพ้นทะเลของเนเธอร์แลนด์) อินโดนีเซีย และชูรินาเม (ประเทศอดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์)

กรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ขณะที่กรุงเฮกเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ สถานทูตต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งพระราชวังซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเนเธอร์แลนด์ กรุงเฮกถือได้ว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งกฎหมายและยุติธรรมระหว่างประเทศของโลก” โดยเป็นศูนย์กลางของการศึกษาด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นสถานที่ที่ตั้งขององค์การด้านกฎหมายและยุติธรรมระหว่างประเทศ อาทิ The International Court of Justice , The International Criminal Tribunal for the Former Yugoslavia, The Court of Arbitration, The Iran – U.S. Claims Tribunal, The Hague Conference of Private International Law, The Organization for the Prohibition on Chemical Weapons และ The International Criminal Courtการเมืองภายในประเทศ

เนเธอร์แลนด์มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ ทรงมีพระราชอำนาจในเชิงพิธีการ อย่างไรก็ดี ทรงมีพระราชอำนาจด้านการเมืองที่เป็นประเพณีสืบทอดกันมาของพระราชวงศ์ออเรนจ์ คือ สมเด็จพระราชินีนาถทรงเป็นผู้แต่งตั้งผู้สรรหานายกรัฐมนตรี (Formateur) ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป (เนื่องจากระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วน โดยถือว่าทั้งประเทศเป็นเขตเดียว ทำให้ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภา จึงต้องมีการเจรจาระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล และผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) และสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ทรงเป็นผู้แถลงนโยบายของรัฐบาลในพิธีเปิดสมัยการประชุมรัฐสภาประจำปี หรือ Speech from the Throneรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วย 2 สภา คือ วุฒิสภา (First Chamber) มีสมาชิกจำนวน 75 คน มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมโดยสภาจังหวัด 12 แห่ง มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และสภาผู้แทนราษฎร (Second Chamber) มีสมาชิกจำนวน 150 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจในการเสนอร่างกฎหมาย ขณะที่วุฒิสภามีหน้าที่ให้ความเห็นชอบหรือยับยั้งร่างกฎหมายซึ่งเสนอโดยสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 รัฐบาลชุดก่อนของเนเธอร์แลนด์ ภายใต้การบริหารงานของนาย Jan Balkenende นายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากตำแหน่งและประกาศยุบสภา เนื่องจากเกิดความเห็นขัดแย้งเรื่องการคงกองกำลังทหารเนเธอร์แลนด์ในอัฟกานิสถาน ระหว่างพรรค Christian Democrat Appeal (CDA) ของนาย Balkenende ซึ่งต้องการให้มีการขยายเวลาการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป กับพรรค Partij van de Arbeid (PvdA) ซึ่งต้องการให้ถอนกองกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานตามกำหนดเดิมในเดือนสิงหาคม - ธันวาคม 2553 แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะพยายามเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันมานานกว่า 4 เดือน โดยได้มีการประชุมร่วมกันถึง 17 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จและทำให้พรรค PvdA ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

เนเธอร์แลนด์ได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 9 มิถุนายน 2553 และเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2553 พรรคการเมืองเนเธอร์แลนด์ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งมีที่นั่งในสภาจำนวน 76 ที่นั่งจากจำนวนทั้งหมด 150 ที่นั่ง ประกอบด้วยผู้แทนจากพรรค People’s Party for Freedom and Democracy (VVD) จำนวน 31 ที่นั่ง พรรค Party for Freedom (PVV) จำนวน 24 ที่นั่ง และพรรค Christian Democrat Appeal (CDA) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรี Jan Balkenende จำนวน 21 ที่นั่ง โดยนาย Mark Rutte หัวหน้าพรรค VVD ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นาย Uri Rosenthal พรรค VVD ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Ben Knapen พรรค CDA ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดูแลกิจการยุโรปและความร่วมมือระหว่างประเทศ

นโยบายต่างประเทศ

สนธิสัญญา Lisbon ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2550 ได้วางกรอบเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างระบบการบริหารและการตัดสินใจภายใน EU รวมทั้งการเพิ่มบทบาทของสภาผู้แทนฯ ของแต่ละประเทศในสภาผู้แทนของ EU (European Parliament) ในส่วนของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์จะพยายามมากขึ้นที่จะให้คนเนเธอร์แลนด์ ให้การสนับสนุนพัฒนาการของ EU ภายใต้กรอบสนธิสัญญาดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็สนับสนุนให้ EU เป็นองค
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญเมืองหลวงกรุงอัมสเตอร์ดัม (อัมสเตอร์ดัม)การแบ่งการปกครองแบ่งออกเป็น 12 เขตได้แก่เดรนท์ (Drenthe) ฟลีโวแลนด์ (เฟรโวแลนด์) ฟรายส์แลนด์ (จังหวัดฟรีสลันด์ Fryslan) เกลเดอแลนด์ (เกลเดอแลนด์) โกรนิเจน (Groningen) ลิมเบอร์ก (เลือก) บราบันท์เหนือ (นอร์ดทบราบันท์ ทบราบันท์เหนือ) ฮอลแลนด์เหนือ (นอร์ทฮอลลันด์ ฮอลแลนด์เหนือ) โอเวอรีจเซล (Overijssel) อูเทรชท์ (Utrecht) ซีแลนด์ (ซีแลนด์ นิวซีแลนด์) และฮอลแลนด์ใต้ (ซูอิด-ฮอลแลนด์ ฮอลแลนด์ใต้)วันที่ได้รับเอกราช23 มกราคมพ.ศ. 2122วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2358ระบบกฏหมายกฎหมายบ้านเมืองนำหลักกฎหมายของฝรั่งเศสมาใช้มีการนำเอากฎจากศาลโลกมาใช้ร่วมพรรคการเมืองพรรคคริสเตียนประชาธิปไตยอุทธรณ์ (CDA) พรรคประชาธิปัตย์พรรคพรรคสหภาพคริสเตียน 66 (D66) พรรคเขียวพรรคฝ่ายซ้ายพรรคแรงงาน (PvdA) พรรคพรรคสำหรับพรรคพรรคอิสระ (PVV) สำหรับสัตว์ (PvdD) พรรคราษฎรเพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย (เสรีนิยม) บันเทิง (VVD) พรรคพรรคของ SGP พรรคสังคมนิยมพรรคและยังมีพรรคย่อยอื่นๆอีกมากมายเนเธอร์แลนด์ (เนเธอร์แลนด์) หรือที่มักเรียกกันว่าฮอลแลนด์ (ฮอลแลนด์) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์) มีรากศัพท์มาจากคำว่า Neder หรือต่ำเนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่มและพื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเนเธอร์แลนด์ได้ปรับพื้นที่โดยการสูบน้ำออกจากทะเลสาบและทางน้ำต่าง ๆ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้เนเธอร์แลนด์จึงมีเขื่อนทางระบายน้ำและสถานีสูบน้ำจำนวนมากเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศประสบภาวะอุทกภัยเนเธอร์แลนด์จึงมีสิ่งก่อสร้างด้านวิศวกรรมการจัดการน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศยุโรปตะวันตกขนาดเล็กมีพื้นที่ 41,528 ตารางกิโลเมตรมีประชากร 16.3 ล้านคนเป็นประเทศหนึ่งที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลกมีอัตราส่วนประชากร 387 คนต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรประชากรเกือบครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 7 ล้านคนอาศัยอยู่ในสี่เมืองทางภาคตะวันตกของประเทศคืออัมสเตอร์ดัมเฮกรอตเตอร์ดัมและอูเทรคบริเวณนี้เรียกว่าแลนด์สตัดมีชาวต่างชาติโยกย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานในเนเธอร์แลนด์ประมาณ 3 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศในยุโรปตุรกีโมร็อกโกเนเธอร์แลนด์แอนไทลิสและอารูบา(และชูรินาเมอินโดนีเซียดินแดนโพ้นทะเลของเนเธอร์แลนด์) (ประเทศอดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์)กรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ขณะที่กรุงเฮกเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการสถานทูตต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศรวมทั้งพระราชวังซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเนเธอร์แลนด์กรุงเฮกถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกฎหมายและยุติธรรมระหว่างประเทศของโลกโดยเป็นศูนย์กลางของการศึกษาด้านกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นสถานที่ที่ตั้งขององค์การด้านกฎหมายและยุติธรรมระหว่างประเทศอาทิการระหว่างประเทศศาลยุติธรรม ศาลอาญาระหว่างประเทศสำหรับอดีตยูโกสลาเวีย ศาลอนุญาโตตุลาการ สหรัฐอเมริกาอิหร่านอ้างศาล การประชุมกรุงเฮกของกฎหมายระหว่างประเทศเอกชน องค์กรสำหรับข้อห้ามในสารเคมีอาวุธและ Courtการเมืองภายในประเทศ การทางอาญาระหว่างประเทศเนเธอร์แลนด์มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ ทรงมีพระราชอำนาจในเชิงพิธีการ อย่างไรก็ดี ทรงมีพระราชอำนาจด้านการเมืองที่เป็นประเพณีสืบทอดกันมาของพระราชวงศ์ออเรนจ์ คือ สมเด็จพระราชินีนาถทรงเป็นผู้แต่งตั้งผู้สรรหานายกรัฐมนตรี (Formateur) ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป (เนื่องจากระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วน โดยถือว่าทั้งประเทศเป็นเขตเดียว ทำให้ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภา จึงต้องมีการเจรจาระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล และผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) และสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ทรงเป็นผู้แถลงนโยบายของรัฐบาลในพิธีเปิดสมัยการประชุมรัฐสภาประจำปี หรือ Speech from the Throneรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วย 2 สภา คือ วุฒิสภา (First Chamber) มีสมาชิกจำนวน 75 คน มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมโดยสภาจังหวัด 12 แห่ง มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และสภาผู้แทนราษฎร (Second Chamber) มีสมาชิกจำนวน 150 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจในการเสนอร่างกฎหมาย ขณะที่วุฒิสภามีหน้าที่ให้ความเห็นชอบหรือยับยั้งร่างกฎหมายซึ่งเสนอโดยสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 รัฐบาลชุดก่อนของเนเธอร์แลนด์ ภายใต้การบริหารงานของนาย Jan Balkenende นายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากตำแหน่งและประกาศยุบสภา เนื่องจากเกิดความเห็นขัดแย้งเรื่องการคงกองกำลังทหารเนเธอร์แลนด์ในอัฟกานิสถาน ระหว่างพรรค Christian Democrat Appeal (CDA) ของนาย Balkenende ซึ่งต้องการให้มีการขยายเวลาการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป กับพรรค Partij van de Arbeid (PvdA) ซึ่งต้องการให้ถอนกองกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานตามกำหนดเดิมในเดือนสิงหาคม - ธันวาคม 2553 แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะพยายามเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันมานานกว่า 4 เดือน โดยได้มีการประชุมร่วมกันถึง 17 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จและทำให้พรรค PvdA ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 9 มิถุนายน 2553 และเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2553 พรรคการเมืองเนเธอร์แลนด์ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งมีที่นั่งในสภาจำนวน 76 ที่นั่งจากจำนวนทั้งหมด 150 ที่นั่ง ประกอบด้วยผู้แทนจากพรรค People’s Party for Freedom and Democracy (VVD) จำนวน 31 ที่นั่ง พรรค Party for Freedom (PVV) จำนวน 24 ที่นั่ง และพรรค Christian Democrat Appeal (CDA) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรี Jan Balkenende จำนวน 21 ที่นั่ง โดยนาย Mark Rutte หัวหน้าพรรค VVD ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นาย Uri Rosenthal พรรค VVD ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Ben Knapen พรรค CDA ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดูแลกิจการยุโรปและความร่วมมือระหว่างประเทศนโยบายต่างประเทศสนธิสัญญา Lisbon ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2550 ได้วางกรอบเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างระบบการบริหารและการตัดสินใจภายใน EU รวมทั้งการเพิ่มบทบาทของสภาผู้แทนฯ ของแต่ละประเทศในสภาผู้แทนของ EU (European Parliament) ในส่วนของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์จะพยายามมากขึ้นที่จะให้คนเนเธอร์แลนด์ ให้การสนับสนุนพัฒนาการของ EU ภายใต้กรอบสนธิสัญญาดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็สนับสนุนให้ EU เป็นองค
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: