The characterised results suggest t

The characterised results suggest that the operation of the CSP plant in solar-only mode produced the lowest environmental impact in almost every category. This was especially relevant in regards to climate change (26.9 kg CO2 eq), terrestrial acidification (168 g SO2 eq) and photochemical oxidant formation (160 g NMVOC) categories. Utilization of different auxiliary fuels had a determinant effect on the environmental performance of the plant. The coal scenario produced the highest scores in every category except for natural land transformation (whose highest score was found in the fuel oil scenario).

Fig. 1 shows the normalised profile for each case scenario. The represented values show the differences between the normalised results for each case and the corresponding solar-only value. The negative values for a natural gas scenario (in freshwater eutrophication and toxicity) indicate a better performance for that scenario than in a solar-only operation, due to the increase of electricity generation and the low impact of this life cycle fuel on those categories (as indicated in Corona et al. [22]).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผล characterised แนะนำว่า การดำเนินงานของโรงงาน CSP แสงโหมดเดียวผลิตดีที่สุดสิ่งแวดล้อมในเกือบทุกประเภท นี้ไม่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (26.9 kg CO2 eq), ยูภาคพื้น (168 g SO2 eq) และอนุมูลอิสระ photochemical ก่อตัว (160 g NMVOC) ประเภท ใช้เชื้อเพลิงเสริมแตกต่างกันมีผลดีเทอร์มิแนนต์การปฏิบัติงานด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงาน สถานการณ์ถ่านหินผลิตคะแนนสูงสุดในทุกประเภทยกเว้นการแปลงที่ดินธรรมชาติ (ที่มีคะแนนสูงสุดพบในสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิง)Fig. 1 แสดงโปรไฟล์ normalised ในสถานการณ์แต่ละกรณี ค่า represented แสดงความแตกต่างระหว่างผลการ normalised สำหรับแต่ละกรณีและค่าแสงเดียวตรงกัน ค่าลบสำหรับสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติ (ในเคปลาและความเป็นพิษ) ระบุประสิทธิภาพในสถานการณ์นั้นมากกว่าในอาทิตย์เดียว การเพิ่มขึ้นของไฟฟ้าและผลกระทบต่ำของเชื้อเพลิงประเภทนั้น (ตามที่ระบุในโค et al. [22]) วงจรนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลักษณะผลการชี้ให้เห็นว่าการดำเนินงานของโรงงานซีเอสพีในโหมดพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตเฉพาะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำสุดในเกือบทุกประเภท นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องในเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (26.9 กก. CO2 EQ), กรดบก (168 กรัม SO2 EQ) และการสร้างอนุมูลอิสระเคมี (160 กรัม NMVOC) ประเภท การใช้ประโยชน์จากเชื้อเพลิงเสริมที่แตกต่างกันมีผลกระทบปัจจัยในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงาน สถานการณ์การผลิตถ่านหินคะแนนสูงสุดในทุกประเภทยกเว้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ดินธรรมชาติ (ที่มีคะแนนสูงสุดที่พบในสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิง). รูป 1 แสดงรายละเอียดปกติสถานการณ์แต่ละกรณี ค่าที่เป็นตัวแทนแสดงความแตกต่างระหว่างผลปกติแต่ละกรณีและมีเพียงพลังงานแสงอาทิตย์ที่สอดคล้องค่า ค่าลบสำหรับสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติ (eutrophication ในน้ำจืดและความเป็นพิษ) บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าสำหรับสถานการณ์ที่มากกว่าในการดำเนินงานแสงอาทิตย์เท่านั้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตกระแสไฟฟ้าและผลกระทบต่ำของน้ำมันเชื้อเพลิงวงจรชีวิตนี้ในประเภทเหล่านั้น ( ตามที่ระบุไว้ในโคโรนา et al. [22])

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซึ่งชี้ให้เห็นว่าลักษณะการดำเนินงานของโรงงาน CSP ในโหมดเท่านั้นพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตค่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเกือบทุกประเภท นี้คือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องในเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( 18.2 กิโลกรัม CO2 eq ) หรือกรด ( 168 กรัมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ EQ ) และ 2 ( 160 กรัมโดยมีปริมาณการเกิดอนุมูลอิสระ ) ประเภทการใช้เชื้อเพลิงเสริมที่แตกต่างกัน มีผลดีในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงาน ถ่านหินสถานการณ์ผลิตคะแนนสูงสุดในทุกประเภท ยกเว้นแปลงที่ดินธรรมชาติ ( ที่มีคะแนนสูงสุดพบในน้ำมันสถานการณ์ )

รูปที่ 1 แสดงการบันทึกโปรไฟล์สำหรับแต่ละกรณีสถานการณ์การเป็นตัวแทนของค่านิยมที่แสดงความแตกต่างระหว่างการให้ผลสำหรับแต่ละกรณี และที่แสงอาทิตย์เท่านั้นค่า ค่าลบสำหรับก๊าซธรรมชาติสถานการณ์ ( บานชื่นน้ำจืดและความเป็นพิษ ) บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพที่ดีกว่าสำหรับสถานการณ์ที่มากกว่าในเซลล์แสงอาทิตย์เพียงการผ่าตัดเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตไฟฟ้าและผลกระทบต่ำนี้วงจรเชื้อเพลิงในประเภทเหล่านั้น ( ตามที่ระบุใน Corona et al . [ 22 ] )