การวิจัยในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายคือ1.) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/752.)นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เรื่อง ดิน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน3.)เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนบ้านวังยาง (วังยางวิทยานุกูล)สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนครเขต 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องเรียนรวม 23คนซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบอย่างง่าย (Sample Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่มจำนวน 2 ห้องเรียนเนื่องจากมีการจัดชั้นเรียนแบบคละผลการเรียนและคุณลักษณะของนักเรียนมีความคล้ายคลึงกันเครื่องที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ดิน ชุดฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เรื่องดินสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้แก่แบบทดสอบก่อนเรียนแบบทดสอบหลังเรียน และแบบสอบถามเจตคติที่มีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และร้อยละ (Percentage) วิเคราะห์หาค่าผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้สถิติ t-test ชนิด Dependent Samples
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์กล่าวคือมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ78.14/78.26
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2หลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยค่า t มีค่าเท่ากับ 5.510
3. นักเรียนมีเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ4.15