although for decades researchers ha

although for decades researchers have studied how consumers form “like–dislike” attitudes toward brands, the past few years have seen a burgeoning
interest among both practitioners and academics in con- sumers’ “love” for brands.1 Among practitioners, Roberts’s (2004) book Lovemarks expresses increased interest in this topic, and Bauer, Heinrich, and Albrecht (2009) recently documented a growing use of the concept of love in adver- tising. Academic research on brand love or related con- structs has also been substantial (for reviews, see Albert, Merunka, and Valette-Florence 2008; Thomson, MacInnis, and Park 2005), finding it to be associated with positive word of mouth (WOM) and brand loyalty (Carroll and Ahu- via 2006; Fournier 1998; Thomson, MacInnis, and Park
2005), increased willingness to pay a price premium (Thomson, MacInnis, and Park 2005), and forgiveness of brand failures (Bauer, Heinrich, and Albrecht 2009), among other outcomes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่าในทศวรรษที่ผ่านมา นักวิจัยได้ศึกษาว่าผู้บริโภคแบบเจตคติ "ชอบ – ไม่ชอบ" แบรนด์ ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เห็นเป็นลัทธิสนใจผู้และนักวิชาการในสมุด (2004) คอน-sumers' "ความรัก" brands.1 ระหว่างผู้ โรเบิตส์ของ Lovemarks แสดงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในนี้หัว ข้อ Bauer ไฮน์ริช และภาพ (2009) ล่าสุดเอกสารใช้การเติบโตของแนวคิดของความรักใน adver tising ความรักของแบรนด์หรือ structs คอนที่เกี่ยวข้องศึกษาวิจัยยังได้พบ (สำหรับรีวิว ดูอัล Merunka และ Valette ฟลอเรนซ์ 2008 ทอม MacInnis และสวน 2005), ค้นหาให้กับบวกจากปาก (WOM) และแบรนด์สมาชิก (คาร์และ Ahu-ผ่าน 2006 Fournier 1998 ทอม MacInnis และสวน2005), เพิ่มยินดีที่จะจ่ายราคาพิเศษ (ทอม MacInnis และ 2005 พาร์ค), และให้ของเหลวแบรนด์ (Bauer ไฮน์ริช และภาพ 2009), ระหว่างผลอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าสำหรับนักวิจัยทศวรรษที่ผ่านมามีการศึกษาว่าผู้บริโภคในรูปแบบ "เหมือนไม่ชอบ" ทัศนคติแบรนด์ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เห็นการเติบใหญ่
ความสนใจในหมู่ผู้ปฏิบัติงานและนักวิชาการทั้งใน Sumers con- '"ความรัก" สำหรับ brands.1 ในหมู่ผู้ปฏิบัติงาน, โรเบิร์ต (2004 ) หนังสือ Lovemarks เป็นการแสดงออกถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในหัวข้อนี้และ Bauer, เฮ็นและอัลเบรท (2009) เมื่อเร็ว ๆ นี้การบันทึกการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของแนวคิดของความรักในตรงข้าม tising การวิจัยทางวิชาการเกี่ยวกับความรักแบรนด์หรือ structs con- ที่เกี่ยวข้องยังได้รับอย่างมีนัยสำคัญ (การแสดงความคิดเห็นโปรดดูอัลเบิร์ Merunka และ Valette-ฟลอเรนซ์ 2008; ทอมสัน, MacInnis และพาร์ค 2005) พบว่ามันจะเกี่ยวข้องกับคำบวกจากปาก (WOM ) และความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (แครอลและ Ahu- ผ่าน 2006; เย 1998 ทอมสัน, MacInnis และพาร์ค
2005), ความเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นพรีเมี่ยมราคา (ทอมสัน, MacInnis และพาร์ค 2005) และการให้อภัยของความล้มเหลวแบรนด์ (Bauer, เฮ็น และ Albrecht 2009) ในหมู่ผลอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่สำหรับทศวรรษที่ผ่านมานักวิจัยได้ศึกษาวิธีการแบบฟอร์มผู้บริโภค " ชอบ–ไม่ชอบทัศนคติที่มีต่อแบรนด์ " ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เห็นความสนใจทั้งในหมู่ผู้ปฏิบัติงานและนักวิชาการ
ในคอน - sumers ' " รัก " ยี่ห้อ 1 ในหมู่ผู้ปฏิบัติงาน โรเบิร์ต ( 2004 ) lovemarks หนังสือแสดงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในหัวข้อนี้และ บาวเออร์ คือ , ,ค้นหาและบันทึก ( 2552 ) เมื่อเร็ว ๆนี้การใช้แนวคิดของความรักใน adver - tising . การวิจัยทางวิชาการเกี่ยวกับความรัก หรือสัมพันธ์กับแบรนด์คอน - structs ยังถูกมาก ( สำหรับรีวิว เห็นอัลเบิร์ต merunka และ วาเล็ตฟลอเรนซ์ 2008 ; ทอมสัน เมิ่กคินเนิส และปาร์ค 2005 ) หาให้มันเกี่ยวข้องกับคำบวกของปาก ( WOM ) และความภักดีต่อตราสินค้า และ AHU ( แคร์โรลล์ - ผ่าน 2006 ; Fournier 1998 ;เมิ่กคินเนิส ทอมสัน และปาร์ค
2005 ) , เพิ่มความเต็มใจที่จะจ่ายเบี้ยประกันราคา ( ทอมสัน เมิ่กคินเนิส และปาร์ค 2005 ) และการให้อภัยของความล้มเหลวของแบรนด์ ( บาวเออร์ , ไฮน์ริชและ Albrecht 2009 ) ในผลลัพธ์อื่น ๆ .