The heightened importance of trust

The heightened importance of trust online and the greater need for privacy online is evident within the context of online social networking. According to Boyd and Ellison (2008), the concept of social networking sites is concerned with building links with existing contacts and displaying one’s social network online and also instigating relationships with
new contacts, who share similar interests and views, in an online environment. In a social networking environment the focus is centred on openness and sharing of information. Trust is a central factor in the social exchange theory and considered an important factor in information disclosure (Dwyer et al., 2007). Individuals assess the benefits against the
risks in a social exchange, and trust is vital in encouraging individuals to partake in the exchange and disclose information (Metzger, 2004). This assessment is considered relevant within a social networking environment. In terms of privacy in a social networking context, a privacy paradox, as suggested by Barnes (2006), exists. Social networking users claim to be concerned about risks to privacy, yet do little to safeguard their information (Dwyer et al., 2007). Often users openly disclose detailed and personal information on these networks, comfortable living a part of their lives online (Rosenblum, 2007). Debatin et al. (2009) argue the desire for social interaction by social networking users outweighs their concerns about privacy and disclosure of personal data, while Rosenblum (2007: 47) believes social networking users ‘don’t exercise the same common sense because they conceive of themselves as interacting in a protected environment’. However, there are many privacy risks on social networking sites including the instant recording and documentation of information creating lasting digital dossiers, identity theft, stalking, damage to reputation, undesired contact, loss of control and risk of third parties accessing users’ information (Debatin et al., 2009; Mannan and van Oorschot, 2008; Rosenblum, 2007). While most research notes a carefree attitude towards or lack of awareness of the risks associated with sharing personal information on social networking sites, new research has observed changing trends. Madden and Smith (2010) recognise more and more social networking users, especially younger adults (18–29 years), are growing increasingly vigilant and conscious of their online activity as they now consider the reputation and dossiers they are creating and making available to employers, co-workers and friends.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสำคัญสูงของออนไลน์ความน่าเชื่อถือและความจำเป็นมากสำหรับความเป็นส่วนตัวออนไลน์จะเห็นได้ชัดภายในบริบทของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ตาม Boyd และเอลลิสัน (2008), แนวคิดของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเกี่ยวข้องกับการสร้างการเชื่อมโยงกับผู้ติดต่อที่มีอยู่ และการแสดงของเครือข่ายสังคมออนไลน์ และยัง instigating ความสัมพันธ์กับติดต่อใหม่ ผู้ร่วมสนใจและมุมมอง ระบบออนไลน์ที่คล้ายกัน ในสภาพแวดล้อมเครือข่ายสังคม เน้นเป็นศูนย์กลางในการเปิด และใช้งานร่วมกันของข้อมูล ความน่าเชื่อถือเป็นตัวกลางในทฤษฎีแลกเปลี่ยนทางสังคม และถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเปิดเผยข้อมูล (Dwyer et al., 2007) บุคคลประเมินประโยชน์จากการความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนทางสังคม และความน่าเชื่อถือมีความสำคัญในการส่งเสริมให้บุคคลที่จะเข้าร่วมในการแลกเปลี่ยน และการเปิดเผยข้อมูล (Metzger, 2004) แบบประเมินนี้จะถือว่าเกี่ยวข้องในสภาพแวดล้อมเครือข่ายสังคม ในความเป็นส่วนตัวในบริบทสังคมเครือข่าย paradox ความเป็นส่วนตัว แนะนำโดย Barnes (2006), แล้ว ผู้ใช้เครือข่ายสังคมเรียกร้องให้มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงความเป็นส่วนตัว แต่คุณจะปกป้องข้อมูล (Dwyer et al., 2007) ผู้ใช้มักจะเปิดเผยข้อมูลรายละเอียด และส่วนบุคคลบนเครือข่ายเหล่านี้ ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาออนไลน์ (Rosenblum, 2007) อย่างเปิดเผย Debatin et al. (2009) โต้เถียงความสังคมผู้สร้างเครือข่ายทางสังคมก่อนของพวกเขากังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ขณะ Rosenblum (2007:47) เชื่อว่าสังคม เครือข่ายผู้ใช้ 'ไม่ออกกำลังกายสามัญสำนึกเดียวเนื่องจากพวกเขาตั้งครรภ์ของตัวเองเป็นการโต้ตอบในสภาพแวดล้อมได้รับการป้องกัน' อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงในความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่รวมถึงการบันทึกทันที และเอกสารข้อมูลการสร้างยาวนานข่าวดิจิตอล ขโมย stalking ชื่อเสียง ความเสียหายไม่ติดต่อ สูญเสียการควบคุมและความเสี่ยงของบุคคลภายนอกเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ (Debatin et al., 2009 Mannan และ van Oorschot, 2008 Rosenblum, 2007) ในขณะที่งานวิจัยส่วนใหญ่บันทึกทัศนคติใช้ต่อ หรือโมหะความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคม วิจัยใหม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม Madden และสมิธ (2010) รู้มากขึ้น และมากขึ้นสังคมเครือข่ายผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยผู้ใหญ่ (18 – 29 ปี) การเติบโตมากขึ้นระมัดระวัง และตระหนักของกิจกรรมออนไลน์ของพวกเขาที่พวกเขาพิจารณาตอนนี้ชื่อเสียงและข่าวพวกเขาจะสร้าง และทำให้มีนาย เพื่อนร่วมงาน และเพื่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสำคัญมีความคิดริเริ่มของความไว้วางใจออนไลน์และความต้องการที่มากขึ้นเพื่อความเป็นส่วนตัวออนไลน์เป็นที่เห็นได้ชัดในบริบทของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ตามที่บอยด์และเอลลิสัน (2008) ซึ่งเป็นแนวคิดของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างการเชื่อมโยงกับรายชื่อที่มีอยู่และการแสดงเครือข่ายสังคมออนไลน์ของคนและ instigating
ความสัมพันธ์กับรายชื่อใหม่ที่มีความสนใจคล้ายกันและมุมมองในสภาพแวดล้อมออนไลน์ ในสภาพแวดล้อมเครือข่ายสังคมมุ่งเน้นเป็นศูนย์กลางในการเปิดกว้างและการแบ่งปันข้อมูล ความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญในทฤษฎีการแลกเปลี่ยนทางสังคมและถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเปิดเผยข้อมูล (Dwyer et al., 2007) บุคคลประเมินผลประโยชน์กับความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนทางสังคมและความไว้วางใจที่มีความสำคัญในการส่งเสริมให้บุคคลที่จะมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนและการเปิดเผยข้อมูล (เมทซ์ 2004)
การประเมินนี้ถือว่าเป็นที่เกี่ยวข้องภายในสภาพแวดล้อมเครือข่ายทางสังคม ในแง่ของความเป็นส่วนตัวในบริบทของเครือข่ายทางสังคมความขัดแย้งความเป็นส่วนตัวตามที่แนะนำโดยบาร์นส์ (2006) ที่มีอยู่ ผู้ใช้เครือข่ายสังคมเรียกร้องให้มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว แต่ทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการปกป้องข้อมูลของพวกเขา (Dwyer et al., 2007) ผู้ใช้มักจะตรงไปตรงมาเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดและส่วนบุคคลในเครือข่ายเหล่านี้สะดวกสบายที่อาศัยอยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาออนไลน์ (Rosenblum 2007) Debatin et al, (2009) เถียงปรารถนาสำหรับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมโดยผู้ใช้เครือข่ายสังคมเมื่อเทียบกับความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในขณะที่ Rosenblum (2007: 47) เชื่อผู้ใช้เครือข่ายทางสังคม 'ไม่ได้ออกกำลังกายสามัญสำนึกเดียวกันเพราะพวกเขานึกถึงตัวเองว่าเป็น การมีปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมที่มีการป้องกัน ' แต่มีความเสี่ยงที่เป็นส่วนตัวจำนวนมากบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมรวมทั้งการบันทึกทันทีและเอกสารข้อมูลการสร้างเอกสารดิจิตอลที่ยั่งยืน, การโจรกรรมคุกคามความเสียหายให้กับชื่อเสียงที่ติดต่อไม่ต้องการสูญเสียการควบคุมและความเสี่ยงของบุคคลที่สามการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ (Debatin et al, 2009;. Mannan และรถตู้ Oorschot 2008; Rosenblum 2007) ขณะที่การวิจัยส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตทัศนคติไม่ห่วงต่อหรือขาดความตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมการวิจัยใหม่ได้สังเกตเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง หัวเสียและสมิ ธ (2010) รับรู้มากขึ้นผู้ใช้เครือข่ายทางสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ที่อายุน้อย (18-29 ปี) มีการเจริญเติบโตมากขึ้นระมัดระวังและใส่ใจของกิจกรรมออนไลน์ของพวกเขาขณะที่พวกเขาพิจารณาชื่อเสียงและเอกสารพวกเขากำลังสร้างและทำให้สามารถใช้ได้กับนายจ้าง ร่วมงานและเพื่อน ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเพิ่มความสำคัญของออนไลน์ความเชื่อมั่นและความต้องการความเป็นส่วนตัวออนไลน์ปรากฏชัดภายในบริบทของสังคมเครือข่ายออนไลน์ ตามบอยด์และเอลลิสัน ( 2008 ) , แนวคิดของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างการเชื่อมโยงกับผู้ติดต่อที่มีอยู่ และการแสดงของเครือข่าย สังคมออนไลน์ และยัง ยุยงให้ความสัมพันธ์กับ
รายชื่อผู้ติดต่อใหม่ที่มีความสนใจที่คล้ายกันและมุมมองในสภาพแวดล้อมแบบออนไลน์ ในสภาพแวดล้อมเครือข่ายทางสังคมที่เน้นเป็นศูนย์กลางในการแบ่งปันข้อมูล ความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยกลางในทฤษฎีการแลกเปลี่ยนทางสังคม และถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเปิดเผยข้อมูล ( Dwyer et al . , 2007 ) บุคคลประเมินประโยชน์กับ
ความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนทางสังคมและความไว้วางใจมีความสำคัญในการส่งเสริมให้บุคคลที่จะเข้าร่วมในการแลกเปลี่ยนและเปิดเผยข้อมูล ( เม็ตสเกอร์ , 2004 ) การประเมินนี้จะถือเป็นที่เกี่ยวข้องภายในสภาพแวดล้อมเครือข่ายทางสังคม ในแง่ของความเป็นส่วนตัวในบริบทของเครือข่ายสังคม , ความเป็นส่วนตัวความขัดแย้งตามที่แนะนำโดยบาร์นส์ ( 2006 ) , มีอยู่ ผู้ใช้เครือข่ายสังคมเรียกร้องให้มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงเพื่อความเป็นส่วนตัวแต่ทำเล็ก ๆน้อย ๆเพื่อปกป้องข้อมูลของตน ( Dwyer et al . , 2007 ) ผู้ใช้มักจะเปิดเผยรายละเอียดและข้อมูลบนเครือข่ายส่วนตัว สะดวกสบาย อยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาออนไลน์ ( โรเซิ่นบลูม , 2007 ) debatin et al . ( 2009 ) ยืนยันความต้องการสำหรับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมโดยผู้ใช้เครือข่ายสังคมลูกชิ้นของพวกเขากังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในขณะที่โรเซิ่นบลูม ( 2550 :