Barnacles make very convenient stud

Barnacles make very convenient study subjects because they are portable, well-protected, and relatively easy subjects for DNA extraction and sequencing. For this experiment, Nakajima studied two species of deep-sea barnacle called Neoverruca sp.1 and Neoverruca brachylepadoformis. He received his samples from a JAMSTEC voyage that collected specimens using a remote operated vehicle about 1000 and 3600 meters below sea level in the Okinawa and Mariana troughs, respectively. Nakajima then extracted DNA from the barnacles and sequenced it with Marine Genomics Unit members, noting differences in the genetic code known as polymorphisms. Where one barnacle might have a repeat pattern in the long sequence of nucleic acids, another might have a different repeat pattern. He grouped the segments by polymorphism, and identified 12 distinct segments called microsatellites. Each of these segments with its unique code can be used as genetic markers, high-resolution sequences that allow researchers to examine nearly unnoticeable differences in genetic code that separate two species.
Identifying microsatellite markers is important because microsatellites show how genes are passed and inherited within a population. Analyzing this genetic data can show the genetic diversity of the population, which researchers can use to draw conclusions about the health of the population. "Genetic diversity is an index of extinction and of population size," explained Nakajima. "Higher genetic diversity means a healthy population, but decreasing genetic diversity means that the population kinship increases." Kinship refers to mating systems and interactions within a population; behaviors that spread genes from one individual to another. The increase in kinship means that individuals in smaller populations share a larger proportion of their genes than in larger populations, lowering the population's genetic diversity. "Genetic diversity is necessary for population maintenance," said Nakajima.
In addition, microsatellites can also show whether other populations are migrating to the area by showing the origin of new genes introduced to the population. This would help explain the genetic connectivity, or shared genes, between barnacle species in the two troughs, separated by more than a thousand kilometers of ocean where these barnacles cannot survive. Or at least, the barnacles cannot survive there as settled adults. In their young, larval phase, the barnacles float on the ocean current and can migrate to other troughs, introducing their genes to other populations. Knowing barnacle migration patterns will reveal the movement of the currents in the northwestern Pacific.
In addition to showing how currents move and species are connected, understanding the genetic diversity of a species or population allows researchers to predict that species' risk of extinction. "We are worried that deep ocean species will go extinct," said Nakajima. Using the barnacle as a model organism, Nakajima can extrapolate how other species may be faring and how the deep-sea ecosystem is changing, thereby predicting the consequences before species go extinct.
"We know that the ocean's surface will be affected by climate change," said Nakajima, acknowledging that for a long time, researchers were not sure whether these effects would reach the deep ocean. In addition to altering ocean currents climate change seems to affect marine snow, a phenomenon where clusters of organic material aggregate in the ocean to look like fluffy snowflakes, then fall to the ocean floor. Marine snow provides food for deep ocean scavengers, but many marine scientists, including Nakajima, are worried that climate change will alter the amount of marine snow that sinks through the ocean. "Recent studies reported that the deep sea will also be influenced by surface disturbances." Nakajima's barnacles offer a necessary window, through which he can examine how the greatest environmental crisis of our time will change one of the most mysterious parts of the world.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Barnacles ทำให้สะดวกมากในการศึกษาวัตถุเนื่องจากมีวัตถุแบบพกพา ได้รับ และค่อนข้างง่ายสำหรับการสกัดดีเอ็นเอและลำดับ สำหรับการทดสอบนี้ Nakajima ศึกษาสองพันธุ์เพรียงทะเลลึกที่เรียกว่า Neoverruca sp.1 และ Neoverruca brachylepadoformis เขาได้รับพระตัวอย่างจากการเดินทาง JAMSTEC ที่รวบรวมตัวอย่างที่ใช้รถทำงานระยะไกลประมาณ 3600 และ 1,000 เมตรใต้ระดับน้ำทะเลในโอกินาว่าและมาเรียนาต่ำสุด ตามลำดับ นาคาจิมะแล้วสกัดดีเอ็นเอจากการ barnacles และเรียงลำดับกับสมาชิกหน่วย Marine Genomics, noting ความแตกต่างในรหัสพันธุกรรมที่เรียกว่าความหลากหลาย เพรียงหนึ่งอาจมีรูปแบบซ้ำในลำดับยาวของกรดนิวคลีอิก อื่นอาจมีรูปแบบแตกต่างกัน เขาจัดกลุ่มเซ็กเมนต์ตามความแตกต่าง และระบุส่วนที่แตกต่างกัน 12 เรียกว่า microsatellites แต่ละกลุ่มเหล่านี้ด้วยรหัสไม่ซ้ำกันสามารถใช้เป็นเครื่องหมายทางพันธุกรรม ลำดับความละเอียดสูงที่อนุญาตให้นักวิจัยตรวจสอบความแตกต่างที่สังเกตเกือบในรหัสพันธุกรรมที่แยกสองสายพันธุ์ระบุเครื่องหมายชนิด microsatellite เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ microsatellites แสดงวิธียีนส่งผ่าน และการสืบทอดภายในประชากร การวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมนี้สามารถแสดงความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากร ซึ่งนักวิจัยสามารถใช้เพื่อสรุปเกี่ยวกับสุขภาพของประชากร "ความหลากหลายทางพันธุกรรมเป็นดัชนี ของการสูญพันธุ์ และ ขนาดประชากร อธิบายชิมะ "ความหลากหลายทางพันธุกรรมสูงหมายถึง ประชากรมีสุขภาพดี แต่ความหลากหลายทางพันธุกรรมลดลงหมายความ ว่า ประสบประชากรเพิ่ม" ประสบหมายถึงผสมพันธุ์ระบบและปฏิสัมพันธ์ภายในประชากร พฤติกรรมที่แพร่กระจายยีนจากบุคคลหนึ่งไปยังอีก การเพิ่มประสบหมายความ ว่า บุคคลในกลุ่มประชากรขนาดเล็กแชร์สัดส่วนใหญ่ของยีนต่าง ๆ มากกว่าในประชากรขนาดใหญ่ การลดความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากร "ความหลากหลายทางพันธุกรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบำรุงรักษาประชากร กล่าวว่า ชิมะนอกจากนี้ microsatellites สามารถแสดงว่า ประชากรอื่น ๆ กำลังย้ายไปยังพื้นที่ โดยแสดงมาของยีนใหม่ที่นำมาใช้กับประชากร นี้จะช่วยอธิบายการเชื่อมต่อทางพันธุกรรม หรือใช้ร่วมกัน ยีนระหว่างพันธุ์เพรียงในรางสอง คั่น ด้วยมหาสมุทรที่ barnacles เหล่านี้ไม่สามารถเอาตัวรอดมากกว่าพันกิโลเมตร หรือ barnacles ไม่สามารถเอาตัวรอดน้อย มีเป็นผู้ใหญ่ตัดสิน ในระยะของหนุ่ม อ่อน barnacles ลอยอยู่ในมหาสมุทรปัจจุบัน และสามารถโยกย้ายไปยังต่ำสุดอื่น ๆ ยีนต่าง ๆ เพื่อประชากรอื่น ๆ แนะนำ รู้รูปแบบโยกย้ายเพรียงจะเปิดเผยการเคลื่อนไหวของกระแสน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือนอกจากการแสดงวิธีย้ายกระแส และสายพันธุ์ที่มีการเชื่อมต่อ การทำความเข้าใจความหลากหลายทางพันธุกรรมของสายพันธุ์หรือประชากรให้นักวิจัยทำนายความเสี่ยงของสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ "เราเป็นห่วงว่า จะไปทะเลลึกชนิดสูญพันธุ์ กล่าวว่า ชิมะ ใช้เพรียงที่ต้น Nakajima สามารถ extrapolate วิธีสายพันธุ์อื่น ๆ อาจจะดำน้ำที่สวย และวิธีเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศทะเลลึก จึงทำนายผลก่อนพันธุ์ไปสูญพันธุ์"เรารู้ว่า พื้นผิวของมหาสมุทรจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า ยอมรับว่า เป็นเวลานาน นักวิจัยไม่ได้แน่ใจว่าผลกระทบเหล่านี้จะถึงทะเลลึก นาคาจิมะ นอกจากเปลี่ยนกระแสน้ำในมหาสมุทร เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศน่าจะ มีผลต่อทะเลหิมะ ปรากฏการณ์ที่กลุ่มของสารอินทรีย์รวมในมหาสมุทรให้เหมือนเกล็ดหิมะปุย แล้วตกพื้นมหาสมุทร ทางทะเลหิมะอาหารทะเลลึก scavengers แต่นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลมากมาย รวม Nakajima เป็นห่วงว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเปลี่ยนแปลงปริมาณของหิมะทะเลที่ซิงก์ผ่านทะเลด้วย "การศึกษาล่าสุดรายงานว่า ทะเลลึกจะยังได้รับอิทธิพล โดยการรบกวนผิว" Barnacles ของนาคาจิมะมีหน้าต่างจำเป็น ซึ่งเขาสามารถตรวจสอบว่าวิกฤตสิ่งแวดล้อมมากที่สุดของเวลาของเราจะเปลี่ยนแปลงหนึ่งในส่วนที่ลึกลับมากที่สุดของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพรียงให้การศึกษาวิชาสะดวกมากเพราะพวกเขาพกพาที่ดีที่มีการป้องกันและวิชาที่ค่อนข้างง่ายสำหรับการสกัด DNA และการเรียงลำดับ สำหรับการทดสอบนี้จิมาศึกษาทั้งสองชนิดของเพรียงทะเลลึกที่เรียกว่า Neoverruca sp.1 และ brachylepadoformis Neoverruca เขาได้รับตัวอย่างของเขาจากการเดินทาง JAMSTEC ที่เก็บรวบรวมตัวอย่างการใช้ยานพาหนะดำเนินการระยะไกลประมาณ 1000 และ 3600 เมตรต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในโอกินาว่าและมาเรียนาร่องตามลำดับ นากาจิมาแล้วสกัดดีเอ็นเอจากเพรียงและติดใจกับสมาชิกทางทะเลฟังก์ชั่นหน่วยสังเกตความแตกต่างในรหัสพันธุกรรมที่รู้จักกันเป็นความหลากหลาย ที่หนึ่งเพรียงอาจมีรูปแบบซ้ำในลำดับที่ยาวของกรดนิวคลีอิกอื่นอาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันซ้ำ เขาจัดกลุ่มกลุ่มโดยมีหลายรูปแบบและระบุที่แตกต่างกัน 12 ไมโครกลุ่มที่เรียกว่า แต่ละกลุ่มเหล่านี้ด้วยรหัสที่เป็นเอกลักษณ์สามารถใช้เป็นเครื่องหมายทางพันธุกรรมลำดับความละเอียดสูงที่ช่วยให้นักวิจัยที่จะตรวจสอบความแตกต่างเกือบสังเกตในรหัสพันธุกรรมที่แยกสองชนิด.
ระบุเครื่องหมายไมโครเป็นสิ่งสำคัญเพราะไมโครแสดงให้เห็นว่ายีนที่ถูกส่งผ่านและได้รับการถ่ายทอดภายใน ประชากร การวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมนี้สามารถแสดงความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากรซึ่งนักวิจัยสามารถใช้เพื่อที่จะสรุปเกี่ยวกับสุขภาพของประชากร "ความหลากหลายทางพันธุกรรมคือดัชนีของการสูญเสียและขนาดของประชากร" อธิบายจิมา "ความหลากหลายทางพันธุกรรมสูงกว่าหมายถึงประชากรที่มีสุขภาพดี แต่ลดลงความหลากหลายทางพันธุกรรมหมายความว่าประชากรญาติเพิ่มขึ้น." เครือญาติหมายถึงระบบการผสมพันธุ์และการมีปฏิสัมพันธ์ภายในประชากร; พฤติกรรมที่แพร่กระจายยีนจากบุคคลหนึ่งไปยังอีก การเพิ่มขึ้นของเครือญาติหมายความว่าบุคคลในประชากรที่มีขนาดเล็กแบ่งเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ของยีนของพวกเขามากกว่าในประชากรขนาดใหญ่ลดความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากร "ความหลากหลายทางพันธุกรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการบำรุงรักษาประชากร" นากาจิมากล่าวว่า.
นอกจากนี้ไมโครยังสามารถแสดงว่าประชากรอื่น ๆ จะถูกย้ายไปยังพื้นที่โดยการแสดงที่มาของยีนใหม่ ๆ แนะนำให้รู้จักกับประชากร นี้จะช่วยอธิบายการเชื่อมต่อทางพันธุกรรมหรือยีนที่ใช้ร่วมกันระหว่างสายพันธุ์เพรียงในสองรางแยกจากกันโดยกว่าพันกิโลเมตรของมหาสมุทรที่เพรียงเหล่านี้ไม่สามารถอยู่รอดได้ หรืออย่างน้อยเพรียงไม่สามารถอยู่รอดมีเป็นผู้ใหญ่ตัดสิน In Young ระยะตัวอ่อนของพวกเขาเพรียงลอยในมหาสมุทรในปัจจุบันและสามารถโยกย้ายไปยังรางอื่น ๆ แนะนำยีนของพวกเขากับประชากรอื่น ๆ รู้รูปแบบการโยกย้ายเพรียงจะเปิดเผยการเคลื่อนไหวของกระแสในตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก.
นอกจากแสดงให้เห็นว่ากระแสย้ายและสายพันธุ์ที่มีการเชื่อมต่อการทำความเข้าใจความหลากหลายทางพันธุกรรมของสายพันธุ์หรือประชากรช่วยให้นักวิจัยที่จะคาดการณ์ว่ามีความเสี่ยงของสายพันธุ์ของการสูญเสีย "เรามีความกังวลว่าสายพันธุ์ทะเลลึกจะสูญพันธุ์ไป" นากาจิมากล่าวว่า ใช้เพรียงเป็นแบบอินทรีย์จิมาสามารถคาดการณ์ว่าสายพันธุ์อื่น ๆ อาจจะเจริญงอกงามและวิธีการที่ระบบนิเวศในทะเลลึกมีการเปลี่ยนแปลงจึงทำนายผลที่ตามมาก่อนที่จะสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไป.
"เรารู้ว่าพื้นผิวมหาสมุทรจะถูกผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ "นากาจิมากล่าวว่ายอมรับว่าเป็นเวลานานนักวิจัยไม่แน่ใจว่าผลกระทบเหล่านี้จะไปถึงทะเลลึก นอกเหนือไปจากการเปลี่ยนแปลงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในมหาสมุทรกระแสดูเหมือนว่าจะส่งผลกระทบต่อทะเลหิมะปรากฏการณ์ที่กลุ่มของการรวมสารอินทรีย์ในมหาสมุทรให้มีลักษณะเหมือนเกล็ดหิมะปุยแล้วตกอยู่ที่พื้นมหาสมุทร ทะเลหิมะให้อาหารสำหรับขยะทะเลลึก แต่นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจำนวนมากรวมทั้งจิมาเป็นห่วงว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจะเปลี่ยนปริมาณของทะเลหิมะที่จมผ่านมหาสมุทร "การศึกษาล่าสุดรายงานว่าทะเลลึกนอกจากนี้ยังจะได้รับอิทธิพลจากการรบกวนผิว." เพรียงจิมานำเสนอหน้าต่างที่จำเป็นผ่านที่เขาสามารถตรวจสอบว่าวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวลาของเราจะเปลี่ยนหนึ่งในส่วนที่ลึกลับมากที่สุดของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพรียงทำให้ประชากรที่สะดวกมากเพราะพวกเขาเป็นแบบพกพา ป้องกันอย่างดี และวิชาที่ค่อนข้างง่ายสำหรับการสกัดดีเอ็นเอและลำดับ . สำหรับการทดลองนี้ นาคาจิม่า เรียนสองชนิดในเพรียงเรียก neoverruca sp.1 neoverruca และ brachylepadoformis . เขาได้รับตัวอย่างของเขาจาก jamstec การเดินทางที่รวบรวมตัวอย่างการใช้รีโมทรถประมาณ 1000 และ 3600 เมตรต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในโอกินาวาและมาเรียน่า รางน้ำ ตามลำดับ นาคาจิม่า แล้วสกัดดีเอ็นเอจากยีนด้วยยีนและเพรียงทะเลหน่วยสมาชิก สังเกตความแตกต่างในรหัสพันธุกรรมเรียกว่าพันธุ์ . ที่อาจจะต้องทำซ้ำรูปแบบเพรียงในลำดับของกรดนิวคลีอิก อื่นอาจจะมีที่แตกต่างกันรูปแบบซ้ำ เขาแบ่งเซ็กเมนต์ โดยรูปแบบ และระบุส่วนที่เรียกว่าไมโครแซเทลไลต์ 12 มี . แต่ละส่วนเหล่านี้ของรหัสเฉพาะสามารถใช้เป็นเครื่องหมายพันธุกรรมลำดับความละเอียดสูงที่ช่วยให้นักวิจัยเพื่อศึกษาความแตกต่างทางพันธุกรรมเกือบ unnoticeable ในรหัสที่แยกต่างหากสองชนิดการระบุเครื่องหมายชนิดไมโครแซเทลไลต์สำคัญเพราะแสดงว่ายีนที่ผ่านและสืบทอดภายในประชากร การวิเคราะห์ทางพันธุกรรมข้อมูลนี้สามารถแสดงความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากร ซึ่งนักวิจัยสามารถใช้เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับสุขภาพของประชากร " . ความหลากหลายทางพันธุกรรมเป็นดัชนีของการสูญพันธุ์ และขนาดของประชากร , " อธิบาย นาคาจิม่า " . ความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากรที่สูงขึ้นหมายถึงการมีสุขภาพดี แต่ลดความหลากหลายทางพันธุกรรม หมายความว่า ประชากรจึงเพิ่มขึ้น " เครือญาติ หมายถึง ระบบการผสมพันธุ์และปฏิสัมพันธ์ภายในกลุ่มประชากร พฤติกรรมที่แพร่กระจายยีนจากบุคคลหนึ่งไปยังอีก เพิ่มขึ้นในเครือญาติ หมายถึง บุคคลในกลุ่มประชากรขนาดเล็กใช้ขนาดใหญ่สัดส่วนของยีนของพวกเขามากกว่าในประชากรขนาดใหญ่ ลดความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากร . " ความหลากหลายทางพันธุกรรมที่จําเป็นสําหรับการบํารุงรักษาประชากร " นาคาจิม่านอกจากนี้ไมโครแซเทลไลต์ยังสามารถแสดงว่าประชากรอื่น ๆ จะย้ายไปยังพื้นที่ใหม่ โดยแสดงที่มาของยีนที่รู้จักกับประชากร นี้จะช่วยอธิบายการเชื่อมต่อทางพันธุกรรมหรือยีนร่วมกัน ระหว่างเกาะสองชนิดในรางน้ำ โดยแยกมากกว่าพันกิโลเมตรของมหาสมุทรที่เพรียงเหล่านี้ไม่สามารถอยู่รอด หรืออย่างน้อย เพรียงไม่สามารถอยู่รอดนั้นตัดสินผู้ใหญ่ ในเด็ก และเฟส เพรียงลอยอยู่บนกระแสน้ำมหาสมุทรและสามารถโยกย้ายไปยัง troughs อื่น การนำยีนของประชากรอื่น ๆ การรู้เพรียงการอพยพจะเปิดเผยความเคลื่อนไหวของกระแสในทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือแปซิฟิกนอกจากจะแสดงให้เห็นว่ากระแสย้าย และสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง เข้าใจความหลากหลายทางพันธุกรรมของสายพันธุ์หรือประชากรที่ช่วยให้นักวิจัยเพื่อทำนายว่าชนิดเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” เราเป็นห่วงว่าสายพันธุ์ทะเลลึกจะสูญพันธุ์ " นาคาจิม่า ใช้เพรียงแบบอินทรีย์ นากาจิม่า สามารถคาดการณ์ว่าชนิดอื่น ๆอาจจะสวยและระบบนิเวศทะเลลึกมีการเปลี่ยนแปลงจึงทำนายผลก่อนชนิดสูญพันธุ์" เรารู้ว่าพื้นผิวของมหาสมุทรจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ " ว่า นาคาจิม่า ยอมรับว่าเป็นเวลานานนักวิจัยไม่แน่ใจว่าผลกระทบเหล่านี้จะถึงทะเลลึก นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อกระแสน้ำดูมารีน สโนว์ เป็นปรากฏการณ์ที่กลุ่มรวมวัสดุอินทรีย์ในมหาสมุทรเหมือนเกล็ดหิมะปุย แล้วตกลงสู่พื้นมหาสมุทร หิมะทะเลอาหารให้กับคนเก็บขยะมหาสมุทรลึก แต่หลายนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้แก่ นาคาจิม่า เป็นกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะปรับเปลี่ยนปริมาณของหิมะที่จมทะเล ผ่านมหาสมุทร” การศึกษาล่าสุดรายงานว่า ทะเลลึก ก็จะได้รับผลจากการรบกวนผิว " นาคาจิม่า เป็นเพรียงข้อเสนอหน้าต่างที่จำเป็น ซึ่งเขาสามารถตรวจสอบวิธีการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวลาของเราจะเปลี่ยนวิกฤติสิ่งแวดล้อมหนึ่งส่วนที่ลึกลับที่สุดของโลก